รู้หรือไม่ !!! รีไฟแนนซ์บ้าน ทำให้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้น 6,000 บาทต่อเดือน
รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร!!! ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยที่กู้ซื้อบ้านจำนวนมากจะไม่เข้าใจวิธีการ และบางคนอาจจะไม่รู้จักการรีไฟแนนซ์บ้าน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธนาคารไม่ค่อยโปรโมทเรื่องการรีไฟแนนซ์ให้กับลูกค้าสักเท่าไหร่ เพราะการรีไฟแนนซ์ พูดให้เข้าใจกันง่ายๆก็คือ การขอสินเชื่อบ้านใหม่ทุกๆ 3 ปี เพื่อลดดอกเบี้ย ซึ่งจะทำกับธนาคารเดิมหรือธนาคารใหม่ก็ได้ คลิกที่นี่เท่ากับในแต่ละเดือนคุณจะผ่อนชำระค่างวดบ้านน้อยลง
ที่ผ่านมาการขอรีไฟแนนซ์บ้าน มีความยุ่งยากซับซ้อน ต้องดำเนินการด้วยตัวเอง และใช้เวลานานกว่าจะได้รับการอนุมัติผล แต่เมื่อประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 แน่นอนว่านวัตกรรมทางการเงินจะเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยให้การรีไฟแนนซ์บ้านไม่ต้องยุ่งยาก แถมยังได้ดอกเบี้ยที่ถูกใจอีกด้วย
วันนี้ TerraBKK จะพาคุณมาพบกับ CEO ของ “Refinn” กูรูด้านการรีไฟแนนซ์ ที่จะมาบอกเทคนิคการรีไฟแนนซ์บ้านให้ลูกหนี้ได้ประโยชน์สูงสุดในยุคนี้
คุณพรพิมล ปฐมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีฟินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดอทคอม จำกัด บอกว่า ธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้น่าจะทรงตัว เพราะผู้กู้ขอสินเชื่อมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น ทำให้อัตราอนุมัติสินเชื่อเป็นไปได้ยาก กว่าช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ที่ธุรกิจอสังหาฯ มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ทำให้ขอสินเชื่อบ้านได้เยอะ ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยปีหน้า อาจเป็นช่วงขาขึ้น ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นเวลาเหมาะสมสำหรับลูกหนี้ที่จะต้องกลับมาทบทวน ปรับลดดอกเบี้ยด้วยการรีไฟแนนซ์ เพราะทุกครั้งในการรีไฟแนนซ์จะช่วยลดยอดผ่อนได้20-30% สมมติว่าผู้กู้มีวงเงินกู้เฉลี่ย 2 ล้านบาท หากรีไฟแนนซ์จะทำให้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นประมาณ6,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว ซึ่งในช่วงปลายปีแบบนี้ หลายธนาคารก็มีการออกโปรโมชั่นสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านที่หลากหลาย เช่น การออกค่าจดจำนองให้ลูกค้า ดอกเบี้ยต่ำ ตั้งแต่ 3-4.2% ซึ่งบางรายให้ดอกเบี้ยต่ำในปีแรก บางรายให้ดอกเบี้ยที่น่าสนใจในช่วง 5-6 ปี
โดยสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่เว็บไซต์ www.refinn.com ฟรีไม่มีเก็บค่าบริการ กรอกข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้ระบบสามารถประมวลผลเพื่อนำเสนอเงื่อนไขสินเชื่อที่ตรงกับความต้องการของผู้กู้ให้มากที่สุด เช่น วงเงินกู้ที่เหลือ ระยะเวลากู้ที่เหลือ และอัตราผ่อนปัจจุบัน
หลังจากนั้นก็เลือกวัตถุประสงค์ในการรีไฟแนนซ์ เช่น
-ผ่อนต่อเดือนถูกลง จำนวนปีเท่าเดิม
-ผ่อนต่อเดือนเท่าเดิม จำนวนปีลดลง
-ผ่อนต่อเดือนมากขึ้น จำนวนปีลดลง
ส่วนการทำงานของรีฟินน์นั้น เบื้องต้นจะคัดเลือกโปรโมชั่นของธนาคารที่คำนวณอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดมาให้ผู้กู้เลือก โดย 3 ธนาคารแรกที่ “รีฟินน์” คัดเลือกมาให้จะเป็นธนาคารที่คิดดอกเบี้ยถูกที่สุด โดยที่ผู้กู้จะยังไม่ทราบว่าเป็นธนาคารใด จนกว่าจะได้สมัครสินเชื่อออนไลน์กับรีฟินน์แล้ว
และเมื่อผู้กู้เลือกโปรโมชั่นสินเชื่อได้แล้ว ก็กรอกใบสมัครรีไฟแนนซ์สินเชื่อออนไลน์ เตรียมเอกสาร/ลงลายมือชื่อ หลังจากนั้นก็ส่งเอกสารให้รีฟินน์เพื่อนำไปให้ธนาคาร และรอการการอนุมัติจากธนาคารได้ทันที เป็นขั้นตอนที่สะดวกและรวดเร็วมาก
ตัวอย่าง : การทดลองรีไฟแนนซ์กับรีฟินน์
ข้อมูลการกู้ : วงเงินหนี้คงเหลือ 3,000,000 บาท ระยะเวลาการกู้เหลือ 25 ปี อัตราการผ่อนเดิมเดือนละ 24,000 บาท
วัตถุประสงค์ในการกู้ : ผ่อนต่อเดือนลดลง จำนวนปีเท่าเดิม วงเงินเท่าเดิม
การประมวลผล :
ธนาคารที่ 1 ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก = 3.21% ดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดอายุสัญญากู้ 25 ปี = 6.06% (MRR=6.75) ก็จะได้อัตราผ่อนต่อเดือนลดลงเหลือ 16,900 บาท หรือเท่ากับ 3 ปีแรกผู้กู้จะประหยัดค่าดอกเบี้ยได้มากถึง 239,485 บาท
ธนาคารที่ 2 ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก = 3.90% ดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดอายุสัญญากู้ 25 ปี = 5.451% ก็จะได้เงินงวดต่อเดือนช่วง 3 ปีแรกอยู่ที่ 20,300 บาท ซึ่งจะประหยัดค่าดอกเบี้ยได้มากถึง 230,449 บาท
ธนาคารที่ 3 คิดดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 3.76% ดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดอายุสัญญากู้ 25 ปี = 5.57% ผู้กู้จะจ่ายเงินงวดเดือนละ 19,300 บาท และชำระค่างวดทั้งหมดในช่วง 3 ปีแรกประมาณ 584,438 บาท แต่จะประหยัดเงินจากดอกเบี้ยในช่วง 3 ปีแรก ได้ถึง 208,761 บาท
ลูกค้าที่สนใจจะใช้บริการรีไฟแนนซ์ผ่านระบบรีฟินน์ หรือ คลิกที่นี่ จะต้องมีประวัติการผ่อนชำระมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปีหรือพ้นระยะเวลาที่สัญญาเดิมกำหนด มีอายุไม่เกิน 60-65 ปี และต้องไม่ติดเครดิตบูโรหรือปรับโครงสร้างหนี้มาก่อน ที่สำคัญต้องมียอดหนี้เหลืออยู่ไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท
สำหรับเป้าหมายหลักของ “รีฟินน์” คือต้องการลดหนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะสินเชื่อบ้านให้กับประชาชน ซึ่ง “รีฟินน์” จะหาดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในระดับที่ดีที่สุดเหมาะสมกับลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยปัจจุบัน“รีฟินน์” เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 1 ปี เป้ายอดรีไฟแนนซ์บ้านปีนี้กว่า 3,400 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 2 ล้านบาท มีทั้งบ้านและคอนโด โดยประสานงานกับทุกธนาคารและมีธนาคารพันธมิตร 5-6ราย ที่ใช้ระบบเชื่อมต่อได้แบบทันที ขณะที่ในปี 61 “รีฟินน์” ตั้งเป้ายอดรีไฟแนนซ์ โต3-4 เท่าจากปีนี้ ซึ่งใช้แผนดำเนินงานด้วยการขยายบริการข้อมูลสินเชื่อบ้านแลกเงินให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมพัฒนาบริการดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านใหม่ บ้านมือสอง /เพิ่มพันธมิตรธนาคาร รวมถึงNON –Bank /พัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมต่อระบบกับธนาคารพันธมิตรแต่ละแห่งเพื่อติดตาม ระหว่างการรอผลการอนุมัติสินเชื่อได้ /และพัฒนา DATA ให้ฉลาด เพื่อประสานงานผู้กู้และผู้ใช้งานประหยัดเวลากรอกข้อมูล และประเมินข้อมูลให้เหมาะสมมากขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจรีไฟแนนซ์สามารถเข้าเว็บไซต์ www.refinn.com ฟรี ไม่มีเก็บค่าบริการ
สัมภาษณ์พิเศษ โดย TerraBKK