3 จุดยืน จาก 3 บิ๊กอสังหาฯ ในวันที่โลกหมุนเร็วกว่าเมื่อวาน
‘ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดไป’ เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้การปรับตัวเป็นเรื่องที่นักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ต่างให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้าวปลาอาจมีค่าน้อยกว่า Wifi ที่เทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างยิ่งหมุนเวียนไปรวดเร็วกว่าเก่า เรามาดูกันว่าในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ เหล่าดีเวลลอปเปอร์มีการปรับอย่างอย่างไรบ้าง โดยครั้งนี้ TerraBKK ขอหยิบยก 3 บริษัทดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำของเมืองไทย ที่มีกลยุทธ์และจุดยืนที่โดดเด่นชัดเจนในการปรับตัวและสร้างจุดยืนของตัวเอง บริษัทเหล่านี้ได้แก่ Ananda Development, AP Thailand และ Sansiri
ANANDA Urban Living Solutions
สำหรับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หัวทันสมัยอย่าง อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในปีนี้มีการวางจุดยืนที่ชัดเจนในการอยู่เคียงข้างการแก้ไขปัญหาและคิดค้นนวัตกรรมเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของคนเมือง จึงได้เกิด Ananda Urban Living Solutions ซึ่งมีทั้งการพัฒนา Product ที่รองรับความสะดวกสบายสำหรับชีวิตคนเมือง ไปจนถึงกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆที่จัดขึ้นเพื่อสร้างทางเลือกของการอยู่อาศัยในชีวิตคนเมืองอีกด้วย
การขับเคลื่อนจุดยืน Urban Living Solutions ของอนันดานั้นเป็นการดำเนินการผ่าน Passion หรือความลุ่มหลงและหลงไหลนั่นเอง โดย Passion ของอนันดาในการพัฒนาโครงการควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์ทางเลือกแห่งการอยู่อาศัยของคนเมือง มีดังนี้
- Passion for Convenience: ที่ตั้งโครงการที่ใกล้กับ BTS และ MRT พร้อมมี Max Vaue, True Coffee ในตัวโครงการ (เฉพาะบางโครงการ)
- Passion for Innovation: ให้ความสำคัญกับ Research & Development ในการเลือกสรรนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ของลูกบ้านในโครงการ เช่น Smart Furniture หรือการดีไซน์รูปแบบห้องใหม่ๆ
- Passion for Environment & Eco: ริเริ่มโครงการ Eco Urban Life รณรงค์การคัดแยะขยะ ส่งเสริมการใช้จักรยาน หลอดไฟ LED เพื่อประหยัดไฟ และโครงการ Habitat for Humanity สร้างบ้านให้หลายชุมชน
- Passion for Design: ทุกโครงการของอนันดาฯ คือ Iconic Building ที่มีรายละเอียดการออกแบบและฟังก์ชั่นการใช้งาน และการออกแบบ Landscape
- Passion for Life-Balance: การมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น Infinite Pool, Sky Lounge, Fitness, Library หรือ TCDC Commons ห้องสมุดแห่งความสร้างสรรค์ (เฉพาะบางโครงการ)
นอกจากนั้นอนันดาฯ ยังเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคมหลายด้าน โดยแต่ละโครงการต่างมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาด้านการอยู่อาศัยของคนในเมืองทั้งสิ้น ได้แก่
- Give Home Give Hug @Kanchanaburi: อนันดาฯ ร่วมมือกับมูลนิธิที่อยู่อาศัย (Habitat for Humanity Thailand) ร่วมก่อสร้างบ้านพักอาศัยให้แก่ผู้ด้อยโอกาส ณ หมู่บ้านหนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี รวม 45 หลัง
- แคมเปญ Today Together Tomorrow #WECulture แคมเปญพิเศษที่เชิญชวนเหล่าคนดังมาร่วมถกกันเรื่องการแก้ไขปัญหาในเมือง
- FREEFORM FESTIVAL 2017 เทศกาลเปลี่ยนอาคารโรงเรียนเก่า โรงเรียนโรจน์เสรี ให้เป็นพื้นที่ศิลปะคนเมือง พร้อมกิจกรรม TALK ที่เป็นการพูดถึงการแก้ปัญหาในเมือง
AP THINK SPACE พื้นที่ชีวิตเราคิดเพื่อคุณ
THINK SPACE ของ AP Thailand อาจจะเป็นประโยคที่คุ้นหูกันดีอยู่แล้ว เนื่องจาก AP Thailandมีจุดยืนที่ชัดเจนในการออกแบบพื้นที่ของสินค้าให้มีความคุ้มค่าที่สุด ตั้งแต่ทำเลที่ตั้งโครงการ การจัดฟังก์ชั่นแต่ละยูนิต และการออกแบบให้เหมาะกับความแตกต่างของทุกชีวิตในเมือง โดยมีทีม AP Design Lab ที่คอยพัฒนาและศึกษาการออกแบบการใช้พื้นที่นั่นเอง แต่สิ่งที่ทำให้จุดยืนด้านนี้ของ AP Thailand นั้นเด่นชัดส่อวประกายมากขึ้นกว่าเก่า เนื่องจากการกระโดดเข้ามาทำโครงการเพื่อสังคม ผ่านการออกแบบพื้นที่ชุมชน ไปจนถึงการตั้ง AP Academy สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องการออกแบบพื้นที่ การปรับโฉมออฟฟิศของบริษัทใหม่ เพื่อยืนยันว่า AP Thailand นั้นจะยังคงจุดยืนของความพิถีพิถันในการออกแบบพื้นที่ต่อไป
โครงการออกแบบพื้นที่เพื่อสังคมที่ AP Thailand ได้ดำเนินการในช่วงปีที่ผ่านมานั้นค่อนข้างโดดเด่นมาก ได้แก่
- Unusual Football Field : การพัฒนาพื้นที่บริเวณชุมชนแออัดคลองเตย เป็นสนามฟุตบอลที่ไม่ช่รูปทรงตายตัว ทำให้เกิดกิจกรรมกลุ่มขึ้น ลดปัญหาการมั่วสุมและยาเสพติดในชุมชน จนได้รับการยกย่องจาก นิตยสารไทม์ (TIME magazine) ให้เป็น 1 ใน 25 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์แห่งปี 2016
- Space Scholarship : การให้ทุนการศึกษาเป็น “ตารางเมตร” โดยการออกแบบร่วมกันของ AP Design lab และ Fabrica Design Studio จากประเทศอิตาลี โดยออกแบบพื้นที่ห้องพักเพื่อนักศึกษา 3 คนและ 4 คน ให้ลงตัวมากที่สุด ผ่านเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง และแนวคิดการอยู่ร่วมกันระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สังคม โดยโครงการนี้ได้ถูกนำมาจัดนิทรรศการภายใต้ชื่อ ‘Spaces Within space’ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
SANSIRI TRANSFORMATION
ในช่วงต้นปี 2017 นี้ แสนสิริมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบ ความแน่วแน่ของแสนสิริสามารถมองผ่านการปรับยุทธศาสตร์ขององค์กรอย่างแต็มรูปแบบ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ด้านด้วยกัน ได้แก่
- Financial Transformation: การปรับการบริการด้านการเงิน
- Project Transformation: การบริหารการพัฒนาโครงการทั้งปัจจุบันและอนาคต
- Marketing Transformation: การบริหารด้านกลยุทธ์การตลาด
- Technology Transformation: การบริหารด้านเทคโนโลยีเพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยอย่างเต๊มรูปแบบ
โดยการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ 4 ด้านของการปรับโฉมของแสนสิรินั้น มีความชัดเจนของความมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่ Property Tech โดยในปีนี้ แสนสิริได้ดำเนินการหลายด้าน ได้แก่
- SIRI VENTURE - การก่อตั้งบริษัทร่วมทุนในรูปแบบ Corperate Venure Capital ทำการวิจัยและลงทุนเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ด้าน Property Technology มีสัดส่วนการถือหุ้นระหว่างแสนสิริและธฯาคารไทยพาณิชย์ 90:10 ทุนจุดทะเบียน 100 ล้านบาท
- Sansiri Everyday Visionaries - แผนการลงทุนมูลค่า 2,800 ล้ายบาทใน 6 ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลก ได้แก่ Standard International / One Night / Hostmaket / Airbnb JustCo / Farmshelf / Monocle
- SIRI LIFETECH – 6 นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยระดับโลกที่แสนสิริร่วมออกแบบและพัฒนากับพันธมิตรทั้งประเทศไทยและนานาชาติ ได้แก่ Sansiri Home Service Application / SAN:DEE Delivery Robot / Sansiri AI Box / Smart Move / Farmshelf / Samitivej@Home
จุดยืนของ 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยข้างต้น แสดงให้เห็นถึง ‘การปรับตัว’ ของธุรกิจที่ต้องเปลี่ยนตามโลกาภิวัฒน์อย่างแท้จริง เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ช่วงเวลานี้นั้นทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมาก อย่างที่เรามักได้ยินคำว่า Digital Age / STARTUP / Internet of Things / Millennial หรือแม้แต่ศัพท์ใหม่ๆ ที่เพิ่งถูกบัญญัติจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของมวลมนุษยชาติมากมาย สิ่งเหล่านั้นทำให้เห็นชัดเจนว่า เมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนไป การดำเนินธุรกิจเราจะอยู่นิ่งกับที่ไม่ได้ แต่สำหรับเรื่องที่ว่าใครจะเร็วกว่าใครนั้น เราเองคงไม่สามารถบอกได้ เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าสิ่งใดล้วน ‘เร็ว’ ด้วยกันหมดทั้งสิ้น