เย่อหยิ่ง หัวรั้น ไม่ฟังใคร แต่ Gen Y ยกย่องคนเหล่านี้
เย่อหยิ่ง หัวรั้น ไม่ฟังเหตุผล เชื่อมั่นในตัวเองสูง เฮ้อออ.. “เด็กสมัยนี้”
ปัญหาปวดใจทั้งคนที่ได้พบและคนที่ได้ฟังเกี่ยวกับพฤติกรรมของ “เด็กสมัยนี้” ที่หลายคนถึงกับต้องตั้งกระทู้ How to ในการปรับตัวร่วมกับประชากรกลุ่ม Gen Y ที่กำลังมีบทบาทสำคัญในสังคมการทำงาน และจะเป็นประชากรกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2020
Gen Y หรือกลุ่มคนที่เกิดในช่วง พ.ศ.2523-2537 เป็นกลุ่มประชากรที่อยู่ในยุคแรกเริ่มของดิจิตอล การเปลี่ยนผ่านที่รวดเร็วของเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมในโลก ทำให้พวกเขานั้นเป็นกลุ่มประชากรที่มีความคิดแปลกใหม่ ปรับตัวง่าย ซึ่งเป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นนี่เอง
แต่ก็ใช่ว่า Gen Y จะหัวดื้อ มุทะลุ ไม่ฟังใคร แต่เพียงอย่างเดียว คนกลุ่มนี้นั้นก็มีความนับถือต่อคนอื่นอยู่เหมือนกัน เพียงแต่พวกเขาจะไม่นับถือในฐานะ “บุคคล” ที่มีระดับอาวุโสกว่าเท่านั้น แต่ยังต้องมี หลักการหรือแนวคิด พร้อมทั้งการก้าวไปสู่เป้าหมายอย่างหนักแน่น เพราะ Gen Y หลายคนต่างมีความอยากได้ อยากทำ กระหายในสิ่งแปลกใหม่ รวมถึงให้ค่ากับความฝันและเป้าหมาย ซึ่งหากมีสิ่งเหล่านี้ Gen Y จะนับถือเป็นเสมือนไอดอลเลยทีเดียว เรามาดูกันว่า ใครกันบ้างนะ ที่เหล่า Gen Y นับถือเป็น Idol
โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ - ผู้ก่อตั้งนิตยสาร a day
”วิธีการจัดการกับความฝัน คือลงมือทำให้เป็นจริง”
บุคคลตัวอย่างในยุคแรกๆของเหล่า Gen Y แม้ว่าช่วงหลังจะเริ่มแผ่วๆเรื่องความนิยมไปบ้างแล้ว แต่เรื่องราวของวงศ์ทนงนั้นก็ยังเป็นที่นับถือของ Gen Y อย่างเดิม เนื่องจาก a day ถือเป็น creative magazine เจ้าแรกของไทยเลยก็ว่าได้ อีกทั้งวิธีการก่อตั้งและแนวคิดของนิตยสารยังแปลกใหม่อีกด้วย โดยเขามีคำพูดติดปากจนเหมือนเป็นลายเซ็นว่า ”วิธีการจัดการกับความฝัน คือลงมือทำให้เป็นจริง”
วงศ์ทนงวางแนวคิดด้านเนื้อหาของ a day บน 3 ส่วนคือ Idea ความคิดสร้างสรรค์, Somebody บุคคลบันดาลใจ และ Nostalgia เรื่องราวย้อนอดีตที่ทำให้เกิดความสุขและประทับใจ จากนั้นก่อตั้งนิตยสารด้วยการระดมทุนจากผู้อ่านในวิธีการประกาศขายหุ้นๆละ 1,000 บาท โดยนิตยสาร a day ฉบับแรกที่วางจำหน่ายในเดือนกันยายน พ.ศ.2543 ขายดีมากจนต้องพิมพ์ซ้ำถึง 2 ครั้ง
a day ยังคงเผยแพร่มาเรื่อยๆ และยังเป็นนิตยสารที่ให้แรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์แก่คนรุ่นใหม่เสมอมาจนปัจจุบัน แม้วงศ์ทนงจะลาออกมาแล้วก็ตาม
เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ - ผู้กำกับภาพยนตร์นอกกระแส
"ถ้าคุณรักมันแล้วได้ทำ แม้จะมองไม่เห็นจุดหมายเลย คุณก็จะมีความสุข"
นวพล เป็นไอดอลของ Gen Y ที่ได้รับความนิยมมากในช่วง 2-3 ปีนี้ เขาจบการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และยังเป็นนักศึกษาฝึกงานนิตยสาร a day ในโครงการ a team junior แม้ไม่ได้จบภาพยนตร์ แต่ก็ไม่เคยลดละในการเดินตามความฝันที่อยากจะเป็นคนทำหนังที่เน้นการเขียนบทมากกว่าโปรดักชั่น (หรือหนังอินดี้นั่นเอง) โดยหลังจากเรียนจบ เขาได้ตั้งใจว่าจะจดจ่ออยู่กับเส้นทางสู่การเป็นนักทำหนัง 1 ปี และส่งหนังสั้นเข้าประกวดหลายๆเวที จนเข้าตาผู้กำกับและนักเขียนบทจากค่ายหนัง GTH จนได้ถูกชักชวนให้ไปฝึกเขียนบท ซึ่งจากจุดนี้เองทำให้เขาได้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์ดังๆมากมาย อย่าง รถไฟฟ้า มาหานะเธอ, Top Secret วัยรุ่นพันล้าน, รัก 7 ปี ดี 7 หน และ Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ
สิ่งทำให้นวพลถูก Gen Y จดจำในฐานะไอดอลก็คือ การพลิกวงการภาพยนตร์ไทยด้วยหนังนอกกระแส เพราะความนิยมในหนังแต่ละเรื่องของเขานั้นสูงมากทีเดียว และเป็นหนังนอกกระแสเพียงไม่กี่เรื่องที่ถูกฉายในโรงภาพยนตร์หลัก แถมยังอยู่กับค่ายหนังใหญ่อย่าง GTH ในเรื่อง ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ อีกด้วย
โอปอล์ ปาณิสรา อารยสกุล - สตรีที่ข้ามผ่านคำครหา
“การให้เกียรติในความแตกต่างและเท่าเทียมกันของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นไม่ใช่เหรอ”
นักแสดงและพิธีกรมากความสามารถคนนี้ ถูกมองในฐานะไอดอลของ Gen Y ก็เพราะความมั่นใจของเธอ รวมไปถึงทัศนคติต่อการมองโลกและการให้เกียรติต่อผู้อื่น เนื่องจากโอปอล์ต้องฟันฝ่าคำครหาและคำดูถูกในรูปลักษณ์ที่ไม่ใช่ “พิมพ์นิยม” ของคนไทยมากมาย ทำให้เธอให้ต่อต้าน Social Bully เป็นอย่างมาก และด้วยการพิสูจน์ตนเองด้วยผลงานมากมายทั้งภาพยนตร์, ละครโทรทัศน์, โฆษณา, รายการโทรทัศน์, มิวสิกวีดีโอ หรืองานพิธีกรต่างๆ และรางวัลในฐานะผู้หญิงที่มากความสามารถ เช่น รางวัล Young & Smart Vote ประเภท fashion icon stylish จากนิตยสารสุดสัปดาห์, รางวัลสวยพลิกโฉม จาก Women Health Award 2012 และ รางวัลสามัญชนแม่พิมพ์ของสตรี เนื่องในวันสตรีสากล จึงไม่แปลกใจที่เหล่า Gen Y ต่างให้การยอมรับในตัวเธอ
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ - รมว.ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
“ถ้าเราเข้าใจชีวิตเขา เราก็จะเห็นว่าชีวิตคนมันก็เหลื่อมล้ำ มันไม่ต้องไปดูไกลเลย”
คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากสำหรับผู้ชายคนนี้ อดีตรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ยืนยันด้วยแฟนเพจส่วนตัวที่มีจำนวนมากกว่า 600,000 คน อีกทั้งยังเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่มีคนแต่งคอสเพลย์ตาม มีสติ๊กเกอร์ไลน์ และเกมเป็นรูปของตัวเอง เหล่านี้ก็มาจากความเอาจริงเอาจังในการทำงาน อีกทั้งยังมองปัญหาในภาพรวม และความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือแม้แต่ปัจจุบันที่ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Q House ก็ตาม
หากใครติดตามอย่างสม่ำเสมอ จะรู้ว่าเขานั้นเอาจริงเอาจังอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองนั่งขนส่งสาธารณะด้วยตัวเอง ไปจนถึงนั่งรถไฟจากหัวลำโพงไปฉะเชิงเทรา และการหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ การลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรมโดยไม่เรียกร้องแต่สัมผัสได้ ทำให้ Gen Y ยกตำแหน่ง รมว.ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีให้อย่างไม่ลังเล
ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย - Forrest Gump of Thailand
“แค่ก้าวเล็กๆจากทุกคน เมื่อรวมกันแล้ว มันจะสามารถเป็นก้าวยาวๆ ขึ้นมาได้จริงๆ”
บุรุษแห่งปี 2560 ที่ไม่ถูกพูดถึงคงไม่ได้ เพราะเขาคนนี้ได้ก้าวขึ้นมาจากการเป็นนักร้อง สู่วีรบุรุษของประเทศไทย ด้วยโครงการก้าวคนละก้าว วิ่งจากเบตง-เชียงราย เพื่อระดมทุนให้กับ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ จากเดิมเป้าหมายคือ 700 ล้านบาท แต่ ณ ที่วิ่งถึงแค่จังหวัดตาก กลับมียอดบริจาคกว่า 833 ล้านบาทแล้ว
ตูนจบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แม้เส้นทางเหมือนจะสวยหรูอยู่แล้ว แต่เขากลับทิ้งไป และออกมาทำงานเพลงกับวงดนตรีที่ได้รางวัลชนะเลิศการประกวด Hot Wave Music Award ครั้งที่ 1 (2539) ในชื่อวงละอ่อน ก่อนจะมาตั้งวงใหม่ในชื่อ Bodyslam ที่ทุกคนรู้จักกันดีในปัจจุบัน
ไม่รู้ว่าตูนมีเหตุผลอะไร ถึงได้ลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างโครงการก้าวคนละก้าว แต่แรงกระเพื่อมของการกระทำของเขานั้น ตกกระทบต่อคนไทยทุกคนไม่ใช่แค่เฉพาะ Gen Y เท่านั้น ซึ่งล่าสุดมีการเปรียบเทียบตูนกับ Forrest Gump ตัวละครจากภาพยนตร์ที่ให้แรงบันดาลใจและสิ่งยิ่งใหญ่เหมือนกัน ทั้งการเป็นนักกีฬาปิงปอง, การออกวิ่ง หรือการจับมือกับผู้นำประเทศก็ตาม และแม้โครงการก้าวคนละก้าวจะสำเร็จและบรรลุเป้าหมายไป แต่ความยิ่งใหญ่ในสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ได้ทำไว้ จะยังอยู่ในความยกย่องของคนไทยต่อไปแน่นอน - เทอร์ร่า บีเคเค
บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน
TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก