RAIMON LAND จับมือกับ TOKYO TATEMONO แล้วจะเกิดอะไร?
ภายหลังจาก Raimon Land ประกาศจับมือกับพันธมิตรญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 120 ปี อย่าง TOKYO TATEMONO ในรูปแบบ Joint Venture ที่มี Raimon Land 51% + TOKYO TATEMONO 49% ก็ได้ประกาศ 2 โครงการแรกบน Prime Area ของกรุงเทพฯ อย่าง พร้อมพงษ์ และ สาทร ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมระดับ Ultimate Luxury ตามความเชี่ยวชาญของ Raimon Land ที่พัฒนาโครงการสำหรับกลุ่มลูกค้าในระดับ Premium เสมอมา ซึ่งนอกจากโครงการคอนโดมิเนียมบน 2 ทำเลนี้แล้ว Raimon Land ก็เร่งตุนที่ดินหลายแปลงบนทำเลงามของกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมพัฒนาโครงการอื่นอย่างต่อเนื่อง
TerraBKK ชวนมาทำความรู้จัก และทำความเข้าใจถึงเหตุผลว่า ทำไม Raimon Land และ TOKYO TATEMONO ต่างเลือกกันและกัน ในการจับมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้
เส้นทางที่ผ่านมาของ Raimon Land และ TOKYO TATEMONO
Raimon Land เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ก้าวเข้ามาเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ Premium ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ โดย Raimon Land ได้ก่อตั้งในปี 2530 โดยพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย, ธุรกิจเชิงพาณิชย์, งานบริการ และค้าปลีก และได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2536 และได้เดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในระดับ Luxury โดยเริ่มต้นด้วยแบรนด์ THE LOFTS ซึ่งแบรนด์นี้ได้กลายเป็นหนึ่งในลายเซ็นต์ของบริษัทเรื่อยมา
หลังจากนั้น Raimon Land ก็ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าระดับบนในต่างจังหวัด เช่น ภูเก็ตและพัทยา และยังได้พัฒนาโครงการที่นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยด้วย อาทิ คอมมิวนิตี้มอลล์, พื้นที่จัดแสดงงาน และอาคารสำนักงาน โดยโครงการสำคัญที่ผ่านมาของ Raimon Land ได้แก่
ที่อยู่อาศัย : The Lofts Sathorn, The Lakes Condominium, The Legend Saladang, The Lofts Yenakart. The River, 185 Rajadamri, The Lofts Ekkamai, Mews Yen Akat by Raimon Land, The Lofts Asoke และ The Lofts Silom
อาคารสำนักงาน : The Cube และ Space48.
คอมมิวนิตี้มอลล์ : Vue และ The Promenade
โครงการในต่างจังหวัด : Kata Gardens (ภูเก็ต). Northshore Condominium (พัทยา), The Heights Phuket (ภูเก็ต), Northpoint (พัทยา), Zire wongamat (พัทยา) และ Unixx South Pattaya (พัทยา)
สำหรับ TOKYO TATEMONO มีเส้นทางการเดินทางในด้านอสังหาริมทรัพย์ยาวนานกว่า 100 ปี โดยเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างเชี่ยวชาญ ทั้งในด้านที่อยู่อาศัย โดยมีแบรนด์ Brilla เป็นเหมือนลายเซ็นต์ รวมทั้งทำธุรกิจเชิงพาณิชยกรรม, ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์, การจัดการการก่อสร้าง, อาคารสำนักงาน, การจัดการอสังหาริมทรัพย์, ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ และ ที่จอดรถ ทำให้การดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ TOKYO TATEMONO มีความโดดเด่นในด้านการสร้างความกลมกลืนระหว่างที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ และความสุนทรีย์ในการอยู่อาศัยภายในเมือง นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาโครงการที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในทวีปเอเชีย อย่าง จีน, เมียนมาร์, อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ โดย รายได้ของบริษัทในปี 2560 เท่ากับ 77.8 พันล้านบาท และมีกำไรถึง 12,800 ล้านบาท โครงการสำคัญที่ TOKYO TATEMONO ได้ดำเนินการ ได้แก่
อาคารสำนักงาน : Otemachi Tower, Yokyo Square Garden, Nakano Central Park, Hareza Ikebukuro และ Tokyo Fudosan Kamri (งานบริหารจัดการและบำรุงรักษาอาคาร)
ที่อยู่อาศัย : Brilla Tower Ikebukuro (mixed use) และ Brilla Tama New Town
สถานที่พักผ่อน : Regina Resort Karuizawa Mikage Yosui (รีสอร์ทสำหรับสุนัขและเจ้าของ), Ofuro no Osama (ออนเซ็น) และ Kawaguchiko Country Club
โครงการในต่างประเทศ : โครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสนในประเทศจีน เช่น Shenyang Tomorrow Square, Xuzhou Project และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ CPF Building ในประเทศสิงคโปร์
จุดร่วมของ Raimon Land x TOKYO TATEMONO คือความไว้วางใจที่ได้จากลูกค้า
การจับมือร่วมกันระหว่าง Raimon Land และ TOKYO TATEMONO เกิดขึ้นด้วยเหตุผลง่ายๆ นั่นก็คือ ทั้งสองบริษัทต่างมีวิสัยทัศน์ แนวคิด และรูปแบบการพัฒนาโครงการที่คล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับบน ทำให้เกิดจุดร่วมที่จะพัฒนาธุรกิจโดยยึดถือความเชื่อมั่นจากลูกค้าเป็นหลักสำคัญ
สำหรับ Brand Position ของ TOKYO TATEMONO ครอบคลุมตั้งแต่ระดับ Mass ไปจนถึงระดับ Luxury โดยโครงการ Luxury Residential มีแบรนด์ Brilla ที่อยู่อาศัยระดับ Luxury เช่นเดียวกับ Raimon Land ที่มีแบรนด์ The Lofts เป็นเสมือนลายเซ็นต์ หรือแบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงให้ Raimon Land อย่างโครงการ 185 ราชดำริ ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเสมอมา
Raimon Land x TOKYO TATEMONO แล้วจะเกิดอะไร?
การร่วมทุนระหว่าง Raimon Land และ TOKYO TATEMONO บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เมื่อมา joint venture กับ Raimon Land แล้วนั้น ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบสองทิศทาง โดยเฉพาะด้านการพัฒนาและด้านการขาย เช่น การสร้างสรรค์ห้องตัวอย่างหรือการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ผู้ซื้อสามารถปรับแต่งวัสดุเองได้ หรือแม้กระทั่ง Mood & Tone ของการพัฒนาคอนเซ็ปท์โครงการ เป็นต้น Raimon Land ยังคาดการณ์ว่าในปี 2566 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า ธุรกิจจะมีรายได้ประมาณ 10-12 พันล้านบาท โดยมีแผนที่จะเปิดโครงการมูลค่า 8,000-10,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละ 2 โครงการ และยังมีแผนการพัฒนาด้านธุรกิจเชิงพาณิชย์, Food & Beverage. โรงแรม และ ดิจิตอลแพลตฟอร์ม อีกด้วย
โครงการใหม่ภายใต้ความร่วมมือของ Raimon Land และ TOKYO TATEMONO
อย่างที่ได้เกริ่นในช่วงต้นของบทความ ว่าภายหลังจากการร่วมทุนในรูปแบบ Joint Venture ระหว่าง Raimon Land และ TOKYO TATEMONO ก็เปิดตัว 2 โครงการแรกบน prime area ของกรุงเทพฯ อย่าง พร้อมพงษ์ และสาทร ภายใต้ชื่อแบรนด์ใหม่ทั้งสองโครงการ
THE ESTELLE – ทำเล พร้อมพงษ์
โครงการแรกที่เปิดตัวหลังจากการจับมือของพันธมิตรทั้งสองฝ่าย ภายใต้ชื่อแบรนด์ใหม่ The Estelle (ดิ เอสเทลล์) อยู่บริเวณ สุขุมวิท 26 หรือ พร้อมพงษ์ เป็นคอนโดมิเนียม High-Rise ระดับ Ultimate Luxury (ใกล้เคียงกับโครงการ 185 Rajadamri) เนื้อที่โครงการประมาณ 1-3-97 ไร่ จำนวน 157 ยูนิต 37 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 5,000 ล้านบาท
สำหรับ Prime Area อย่างทำเลพร้อมพงษ์คงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก โดยโครงการ THE ESTELLE อยู่ห่างจากห้างสรรพสินค้า The Emporium ประมาณ 200 เมตร และเดินทางจาก BTS สถานี พร้อมพงษ์เพียงประมาณ 160 เมตรเท่านั้น คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2565
Tait 12 – ทำเล สาทร 12
อีกหนึ่งแบรนด์ใหม่ที่เปิดตัวอยู่บริเวณ สาทร ซ.12 ภายใต้ชื่อแบรนด์ใหม่ Tait 12 คอนโดมิเนียม High Rise เนื้อที่โครงการประมาณ 1-3-37 ไร่ จำนวนยูนิตคร่าวๆที่เปิดเผยในเบื้องต้นคือ 238 ยูนิต 39 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท
ไฮไลท์ของโครงการ Tait 12 ตั้งอยู่บนทำเลสาทร ระยะประมาณ 160 เมตรจากปากซอย แวดล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานชั้นนำและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อีกทั้งในปลายปีหน้าบริเวณหน้าปาก ซ.สาทร 12 จะมีสถานีศึกษาวิทยา (บีทีเอสสายสีเขียวเข้ม) เปิดให้บริการที่ปากซอยสาทร 12 พอดี ทำให้โครงการ Tait 12 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสในระยะไม่เกิน 200 เมตรเท่านั้น ที่สำคัญยังได้วิวตึกมหานครอีกด้วย โครงการนี้จะเริ่มสร้างปลายปี 2561 นี้ และคาดว่าจะเสร็จในปี 2565 เช่นเดียวกัน
เชื่อว่าธุรกิจภายใต้ความร่วมมือระหว่าง Raimon Land และ TOKYO TATEMONO ยังมีเรื่องให้น่าติดตามอยู่อีกมากมาย ปัจจุบันทั้งสองบริษัทกำลังพิจารณาโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อพัฒนาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับ Ultimate Luxury ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ
นับว่าการจับมือระหว่าง Raimon Land และ TOKYO TATEMONO เป็นเหมือนการพัดนำเอาลมใต้ปีกให้กับ Raimon Land ให้บินได้สูงและไกลมากขึ้นไปอีก เช่นเดียวกับ TOKYO TATEMONO ที่ได้ขยายปีกของบริษัทเข้าสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่กำลังเติบโตในประเทศไทย