ประตูรั้ว มีอิทธิพลตามหลักฮวงจุ้ย ยังไง?

วันนี้ TerraBKK มาช่วยไขข้อข้องใจในเรื่อง จำเป็นจริงหรือไม่ หลักการของฮวงจุ้ยที่ดีห้ามมีประตูรั้ว 2 บาน เพราะหากมีประตูรั้วสองบานจะทำให้คนในบ้านนั้นแตกแยก ไม่สมัครสมานสามัคคีกัน จนทำให้หลายๆ ท่านนั้น ไม่กล้าแม้แต่จำทำประตูทางเข้าออกของคนเดิน แยกออกมาจากประตูรั้วของโรงรถไปเลยก็มี วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันว่าแท้จริงแล้วหลักการของฮวงจุ้ยที่ดี ห้ามมีประตูรั้ว 2 บานนั้น จำเป็นจริงหรือไม่

จริงๆ แล้วตามศาสตร์ฮวงจุ้ยในระบบดาวเหิน (Xaun Kong Flying Star) นั้น ซินแสจะมองจุดที่มีโอกาสจะมีกระแสอากาศผ่านเข้ามาได้ถือเป็นจุดจ่ายกระแส ซึ่งในกรณีนี้ โดยส่วนใหญ่ภาพรวมของรั้วบ้านส่วนของประตูบ้านนั้น จะเป็นจุดที่มีความโปร่ง โล่ง มากที่สุด ซินแสจึงมองว่าประตูรั้วนั้น เปรียบเสมือนกับจุดจ่ายกระแสนั่นเอง

ดังนั้น อย่างแรกที่ต้องทำความเข้าใจก็คือ “ประตูรั้ว” ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวในทางฮวงจุ้ย แต่เพราะที่ตำราบางเล่ม ได้กล่าวไว้ว่า ไม่ควรมีประตูรั้วหลายบาน หรือกระทั่งว่าไปถึงว่าไม่ควรมีประตูบ้านหลายๆบาน นั่นก็เป็นเพราะหากเรามองประตูรั้วเป็นจุดที่จ่ายกระแสแล้ว หากมีประตูรั้วหลายๆบาน ก็อาจจะมีโอกาสที่ประตูรั้วนั้นจะเจอกับองศาทิศทางหรือตำแหน่ง (Direction and Position) ที่เป็นทิศร้าย ในศาสตร์ฮวงจุ้ยได้ เพราะหากประตูรั้วที่เราเลือกเปิดนั้นเจอทิศร้าย ก็แปลว่าทุกๆ ครั้งที่เราได้เปิดปิดประตู เพื่อขับรถเข้าหรือออกนั้น เท่ากับเป็นการกระตุ้นพลังร้ายไปในตัว หากบ้านของท่าน ไม่ได้รับการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญทางศาสตร์ฮวงจุ้ย โอกาสที่จะเปิดประตูรั้วหลายบานแล้วโดนทิศร้ายนั้นจึงเป็นไปได้สูงมาก

แต่ในทางกลับกัน หากเรารู้ว่าทิศทางหรือตำแหน่งใดของบ้านเราเป็นทิศดี การเลือกที่จะเปิดประตูรั้วมากกว่าหนึ่งบาน ก็ไม่ได้ถือเป็นสิ่งที่ผิดฮวงจุ้ย แต่กลับมองว่าเป็นการจัด ฮวงจุ้ยที่ดีด้วยซ้ำไป ในบางทิศทางหรือที่ซินแสหลายๆ ท่านเรียกว่าในบางผังดาวนั้น หน้าบ้านนั้น เจอทิศทางที่ดีหลายทิศ ซินแสนั้น เลือกที่จะแนะนำให้เปิดประตูรั้วมากกว่าหนึ่งบาน โดยอาจจะเปิดประตูทางเข้าออกของรถให้ตรงกับทิศโชคหลัก เพราะเป็นบานที่มีขนาดใหญ่ และเปิดประตูคนเดินเข้าออกไว้ในทิศทางที่เป็นทิศโชคเสริมของบ้านหลังนั้นๆ หรือ ในองศาทิศทางที่เป็นองศาที่พิเศษในบางผังนั้นก็ได้