พิชิตเป้าหมายชีวิตให้เป็นจริง (ซะที) ด้วยแนวคิด SMART Goals
เชื่อว่าขึ้นปีใหม่แทบทุกปี หลายคนมักยึดหมุดหมายนี้ตั้งเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเก็บเงินเพื่อมิชชั่นอะไรสักอย่าง, ลดน้ำหนัก, จัดบ้านใหม่, ออกกำลังกาย, เลิกบุหรี่ หรือเรียนคอร์สเพิ่มเติม
แต่สังเกตไหม? ช่วงแรกก็ฮึดดีอยู่หรอก แต่ไม่ถึง 3 วันก็ล้มเลิกไป หรือแรงใจหายไปเหมือนความตั้งใจนั้นไม่เคยเกิดขึ้น บอกเลยว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเป็นเรื่องท้าทายสำหรับมนุษย์ทุกคน ไหนจะเจอกับสิ่งเร้าสารพัดอย่างที่พร้อมจะดึงเราออกจากเส้นทางเดิม
แต่เราสามารถเอาชนะกับความล้มเหลวเหล่านั้น ถ้ามีการวางแผนที่ดี ปีใหม่นี้จึงอยากชวนมาบรรลุเป้าหมายชีวิตให้สำเร็จ (ซะที) กับแนวทางการปรับพฤติกรรมด้วยแนวคิด SMART Goals ให้ยั่งยืน
ทำไมคนเรามักล้มเลิกง่าย?
ขอทำความเข้าใจก่อนว่า ทำไมคนเราถึงถอดใจง่ายๆ เมื่อเริ่มจะเปลี่ยนแปลงภารกิจอะไรสักอย่าง สาเหตุหลักที่พอสรุปได้ คือ
- ตั้งเป้าหมายสูงเกินไปและต้องการผลลัพธ์ในทันที ทำให้รู้สึกท้อแท้ จนนำไปสู่รู้สึกว่าไม่สามารถทำได้จริง
- ขาดแรงจูงใจที่แข็งแกร่ง
- สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย
- ขาดการวางแผนที่ชัดเจน : จุดนี้เป็นประเด็นสำคัญ เพราะเมื่อเราไม่มีแผนที่ชัดเจนว่าจะเริ่มต้นอย่างไร และขาดการคิด-ลงมือทำอย่างเป็นขั้นตอน จะส่งผลให้รู้สึกสับสนและถอดใจไปในที่สุด
- ขาดวินัย : อีกจุดที่สำคัญที่สุด เพราะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ต้องเป็นเรื่องที่กระทำทุกวัน ทำอย่างสม่ำเสมอ ช่วงแรกอาจจะยาก แต่ถ้าค่อยๆ เริ่มทีละเล็กละน้อย และทำประจำเหมือนกับการกินข้าว ดื่มน้ำที่ต้องทำสม่ำเสมอ ก็จะก่อให้เกิดเป็นพฤติกรรมจนติดเป็นนิสัย ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จได้
เคล็ดลับพลิกพฤติกรรมด้วย SMART Goals
ก่อนจะไปแนะนำวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยแนวคิด SMART Goals ทำความรู้จักก่อนว่าแนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีมานานแล้ว จาก George T. Doran ที่เผยแพร่แนวคิดนี้ครั้งแรก ในบทความชื่อว่า “There’s a S.M.A.R.T. Way to Write Management’s Goals and Objectives” ตีพิมพ์ในปี 1981 ใน Management Review Journal เพื่อเป็นกรอบแนวคิดช่วยให้ผู้คนสามารถตั้งเป้าหมายที่มีความชัดเจนและมีโอกาสประสบความสำเร็จมาก
SMART ย่อมาจาก 5 องค์ประกอบ ดังนี้
- S (Specific) : ตั้งเป้าหมายที่มีความเฉพาะเจาะจง ไม่คลุมเครือ
- M (Measurable) : สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน
- A (Achievable) : เป้าหมายต้องเป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริง
- R (Relevant) : เป้าหมายต้องสอดคล้องกับความต้องการ หรือความสำคัญในชีวิต ซึ่งข้อนี้ก็เหมือนสร้างแรงจูงใจ ค้นหาเหตุผลที่แท้จริงว่าต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่ออะไร
- T (Time-bound) : มีกรอบเวลาที่ชัดเจนในการบรรลุเป้าหมาย แนะนำให้มีการแบ่งกรอบเวลาย่อย หรือมิชชั่นย่อยออกมาทีละเล็กๆ แต่สามารถทำได้สม่ำเสมอ หรือแบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อยๆ จะช่วยให้เห็นความคืบหน้าได้ชัดเจนขึ้น และรู้สึกว่าเป้าหมายอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น เพราะการเปลี่ยนแปลงอาจไม่เกิดขึ้นได้ในทันที แต่หากทำอย่างต่อเนื่อง จะเห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ และหมั่นให้รางวัลตัวเองเล็กๆ น้อยๆ เมื่อบรรลุเป้าหมายย่อย
ยกตัวอย่างสถานการณ์ เช่น ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกาย แนะนำว่าควรมีขั้นตอนการคิดดังนี้
- Specific : วิ่ง 3 ครั้งต่อสัปดาห์
- Measurable : ครั้งละ 30 นาที อาจจะมีนาฬิกามาช่วยจับเวลา
- Achievable : เริ่มจากวิ่งช้าๆ ในสวนสาธารณะ หรือในสถานที่ที่เอื้อต่อการวิ่ง หรือสถานที่ที่ชอบ เลือกอะไรที่สามารถทำได้จริง
- Relevant : เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและลดน้ำหนัก
- Time-bound : ภายใน 3 เดือนแรกของปีนี้ เริ่มจากการวิ่งเส้นทางง่ายๆ ระยะสั้นๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อกิจกรรมนั้นรู้สึกว่าทำได้แล้ว ค่อยเพิ่มความยากทีละน้อย อย่างไรก็ตามขอเสริมตัวช่วยที่อยู่นอกเหนือจากแนวคิด SMART Goals โดยแนะนำเป็นหลักคิดสำหรับผู้เริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ได้แก่
- หาแนวร่วมอุดมการณ์เดียวกัน : อาจจะเป็นเพื่อน, ครอบครัว หรือโค้ช ในกิจกรรมเดียวกัน เพราะการมีเพื่อนร่วมทางเดียวกัน จะเป็นการสร้างกำลังใจช่วยกันและกัน ให้ผ่านอุปสรรคระหว่างทางไปได้
- เรียนรู้จากความผิดพลาดและเริ่มต้นใหม่ : เพราะการล้มเหลวเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ขอแค่เราพร้อมจะลุกขึ้นมาทำใหม่ โอกาสที่จะไปสู่จุดหมายยังมีอยู่เสมอ
อ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/SMART_criteria
https://www.scirp.org/reference/referencespapers?referenceid=2982408
https://www.achieveit.com/resources/blog/everything-you-need-to-know-about-smart-goals/