25 เมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกประจำปี 2014 จากการจัดอันดับของ tripadvisor เว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ด้านการท่องเที่ยว โดยทั้ง 25 เมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกประจำปี 2014 นั้นการันตีความงามจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ใครที่มีแพลนอยากไปท่องเที่ยวช่วงสิ้นปีนี้แต่ยังไม่มีไอเดียว่าจะไปที่ไหนดี ถ้าเช่นนั้นลองมาดู 25 เมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกประจำปี 2014 หรือ 2014 Travelers Choice Destinations จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ tripadvisor กันเลย เผื่อเป็นไอเดียที่เที่ยวส่งท้ายปีของคุณ ที่สำคัญไม่ได้มีแค่เมืองนอกเมืองนาเท่านั้น เพราะของไทยก็ติดอันดับกับเขาด้วยเช่นกันค่ะ ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้าง...ตามมาเลยจ้า

1. อิสตันบูล, ประเทศตุรกี (Istanbul, Turkey)

เมืองศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมระหว่างยุโรปและเอเชียอย่างอิสตันบูลควรแค่แก่การมาเยือนสักครั้งจริง ๆ ไม่เพียงแต่สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของ Blue Mosque หรือ สุเหร่าสีฟ้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอิสตันบูลแล้ว กิจกรรมที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ การล่องเรือในช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait) ช่องแคบที่แบ่งระหว่างยุโรปและเอเชีย ถือเป็นสิ่งที่ต้องลองสักครั้งหากมาเยือนอิสตันบูล

2. โรม, ประเทศอิตาลี (Rome, Italy)

กรุงโรมนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางลำดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวที่อยากมาชมความงดงามปนความขลังของโคลอสเซียม ที่แม้จะเหลือให้เห็นเพียงซากปรักหักพังที่ไม่สมบูรณ์ ทว่าความเก่าแก่เช่นนี้เองที่เป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีน้ำพุเทรวีและโดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ที่ส่งให้กรุงโรมเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตประจำปี 2014

3. ลอนดอน, ประเทศอังกฤษ (London, England)

หากเอ่ยถึงเมืองที่มีความงดงามรอบด้าน การคมนาคมสะดวก และทัศนียภาพสะอาดสะอ้านละก็ เชื่อเลยว่ากรุงลอนดอนคงเป็นสถานที่ซึ่งหลายคนนึกถึง นอกจากนี้ยังมีแลนด์มาร์กอย่าง หอนาฬิกาบิ๊กเบน ที่เป็นเสมือนสถานที่ซึ่งต้องบอกว่าหากไม่ได้มาแชะภาพคู่ก็เรียกว่ามาไม่ถึงลอนดอนแน่นอน และที่พลาดไม่ได้เลย คือ การนั่งชิงชาสวรรค์ลอนดอนอายส์ (London Eyes) ชมวิวสวย ๆ ของกรุงลอนดอนในมุมสูง

4. ปักกิ่ง, ประเทศจีน (Beijing, China)

จีนแผ่นดินใหญ่มีสถานที่ท่องเที่่ยวน่าสนใจมากมาย อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ที่เป็นเอกลักษณ์ เฉกเช่นเดียวกับเมืองท่าสำคัญอย่าง ปักกิ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับพระราชวังต้องห้าม, ป้อมป้าต้าหลิง (ส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีน), พระราชวังฤดูร้อน, จัตุรัสเทียนอันเหมิน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวอีกเพียบที่รอให้คุณไปสัมผัส

5. ปราก, สาธารณะรัฐเช็ค (Prague, Czech Republic)

ปราก เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ค ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับการผสมผสานของสถาปัตยกรรมที่งดงามของยุโรปกลาง พร้อมลิ้มรสกับอาหารอร่อย ๆ ที่เป็นจุดเด่นและเอกลักษณ์ของเมืองปราก นอกจากนี้บรรยากาศโดยรอบของเมืองยังโรแมนติกสุด ๆ มันจึงเป็นสถานที่สำหรับคู่รักที่นิยมมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กระชับความสัมพันธ์กันที่นี่

6. มาร์ราคิช, ประเทศโมร็อคโก (Marrakech, Morocco)

เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืมแน่นอน หากได้มาเยือนมาร์ราคิช ท่องไปยังเมืองที่มีเส้นทางวกวนเฉกเช่นเขาวงกต พร้อมหลงใหลไปกับสถาปัตยกรรมข้างทาง และอย่าลืมที่จะลิ้มรสอาหารท้องถิ่นที่มีรสชาติของเครื่องเทศเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีจตุรัสใจกลางกรุงมาร์ราคิชที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรม ทั้งอาหารและการละเล่นของคนในท้องถิ่นให้ได้ชมกัน

7. ปารีส, ฝรั่งเศส (Paris, France)

มหานครแห่งแฟชั่นอย่าง กรุงปารีส ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวอยากจะมาสัมผัส เพราะปารีสนอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องสถานที่สุดโรแมนติกแล้ว ที่นี่ยังมี หอไอเฟล (Eiffel Tower) สัญลักษณ์ประจำเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 13 ล้านคนต่อปี และสถานที่อื่น ๆ ก็สวยงามไม่แพ้กัน อย่าง พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) เรียกว่าเป็นเมืองที่เหมาะกับทั้งคู่รัก ขาช้อป หรือแม้แต่แบ็คแพ็กเกอร์

8. ฮานอย, ประเทศเวียดนาม (Hanoi, Vietnam)

เมืองหลวงของประเทศเวียดนามที่ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญอย่าง สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh's Mausoleum) ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของกรุงฮานอย ด้านแหล่งธรรมชาติก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ได้แก่ อุทยานแห่งชาติ Phong Nha-Ke Bang ที่งดงามไปด้วยลำธาร ถ้ำ ต้นไม้ และสัตว์ป่าหาดูได้ยาก

9. เสียมราฐ, ประเทศกัมพูชา (Siem Reap, Cambodia)

เสียมราฐ อีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจ โดยเป็นที่ตั้งของของนครวัด นครธม และปราสาทสมัยอาณาจักรขอมอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีอากาศดีเหมาะแก่การเที่ยวพักผ่อน ค่าครองชีพถูก เหมาะแก่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความงดงามด้านสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ที่สำคัญยังอยู่ใกล้บ้านเราด้วย การเดินทางจึงใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ

10. เซี่ยงไฮ้, ประเทศจีน (Shanghai, China)

เซี่ยงไฮ้ ถือเป็นเมืองใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหลของจีน นอกจากจะเต็มไปด้วยอาคารและตึกสูงสมัยใหม่แล้ว ยังเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ และเนื่องด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแยงซี จึงมีท่าเรือขนส่งสินค้าจำนวนมาก จึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องย่านช้อปปิ้งเลย เพราะที่นี่เขามีครบจริง ๆ ด้านที่เที่ยวอื่น ๆ ได้แก่ วัดพระหยกขาว, หอไข่มุก, พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ฯลฯ

11. เบอร์ลิน, ประเทศเยอรมนี (Berlin, Germany)

หลังจากกำแพงเบอร์ลินถูกทำลายลงไป ทำให้ชาวเยอรมันทั้งสองฟากฝั่งมีเสรีภาพที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งทำให้เบอร์ลินกลับกลายเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาอีกครั้ง นับว่าน่าสนใจหากคุณชื่นชอบสถานที่ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงาม ร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ และหลงรักแสงสียามราตรี เบอร์ลินจะไม่ทำให้คุณผิดหวังเลยค่ะ

12. นิวยอร์กซิตี้, สหรัฐอเมริกา (New York City, USA)

นอกจากตึกสูงระฟ้ามากมายแล้ว สวนสาธารณะใจกลางเมืองอย่าง เซ็นทรัล ปาร์ค (Central Park) ที่มีความสวยงามในทุกฤดูกาลยังคงเป็นที่นิยมอยู่เสมอ และที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง คือ รูปปั้นเทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty) ที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ด้านเสรีภาพของอเมริกานั่นเองค่ะ นอกจากนี้การขึ้นไปชมวิวของนิวยอร์ก ซิตี้ บนตึกสูงเสียดฟ้าอย่าง ตึกเอ็มไพร์ สเตท (Empire State Building) คือ สิ่งที่พลาดไม่ได้เลย

13. ฟลอเรนซ์, ประเทศอิตาลี (Florence, Italy)

ฟลอเรนซ์ คือ อีกหนึ่งเมืองที่ควรไปเยือนสักครั้งหากมาเที่ยวอิตาลี แวะเวียนมาชมกับสถานที่ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งศิลปะของโลก พร้อมทั้งชมสิ่งปลูกสร้างที่มีสถาปัตยกรรมในยุคศิลปะฟื้นฟูของอิตาลี ที่สำคัญยังขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกอีกด้วย ใครที่กำลังหาสถานที่เดทกันสองต่อสองก็แวะเวียนมาได้ที่ฟลอเรนซ์เลยค่ะ

14. บัวโนสไอเรส, ประเทศอาร์เจนตินา (Buenos Aires, Argentina)

ถือเป็นสีสันของอเมริกาใต้เลย สำหรับกรุงบัวโนสไอเรสที่ถูกขนานนามว่า "ปารีสแห่งอเมริกาใต้" และก็เป็นจริงตามนั้น เพราะกรุงบัวโนสไอเรสเป็นที่ซึ่งไม่เคยหลับใหล อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงและเมืองท่าที่สำคัญของอาร์เจนตินาด้วย นอกจากนี้ถนนหนทางและตึกรามบ้านช่องที่มีสีสัน รวมทั้งอาหารและย่าน Barrio La Boca คือ อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจ

15. บาร์เซโลน่า, ประเทศสเปน (Barcelona, Spain)

เมืองนี้มีดีมากกว่าทีมฟุตบอลระดับโลกจริง ๆ ค่ะ เรียกว่าทุกตารางนิ้วของบาร์เซโลน่าเต็มไปด้วยเสน่ห์และบรรยากาศที่น่าหลงใหล ด้านสถานที่ท่องเที่ยวก็เริดไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ปีกัสโซ, น้ำพุเทียม Font Magica, พิพิธภัณฑ์ Casa Batllo, ปาร์กเกวย์ (Parc Gu?ll), โบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย หรือจะเป็นถนนลา รามบลา (La Rambla) แหล่งกิน เที่ยว ช้อป ใจกลางเมือง

16. เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, ประเทศรัสเซีย (St. Petersburg, Russia)

เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าสนใจ ทั้งโบสถ์อันเก่าแก่และสถาปัตยกรรมสไตล์รัสเซียที่หาดูได้ยาก นอกจากนี้แม่น้ำเนวาที่ไหลผ่านอาคารบ้านเรือนยังส่งให้เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นเมืองที่มีความสวยงามมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลย และอย่าพลาดที่จะเดินตามสายน้ำเพื่อชื่นชมสถานที่สวย ๆ ริมน้ำ อย่างมหาวิหารหรือพิพิธภัณฑ์ Peterhof นะคะ

17. ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (Dubai, United Arab Emirates)

ดูไบ หนึ่งในเมืองที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก และมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งดูไบยังเป็นเมืองที่มีตึกสูงระฟ้ามากมาย ที่สำคัญแต่ละตึกยังถูกออกแบบให้ทันสมัยและมีรูปทรงที่สวยงามด้วย และสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักหมายปอง คือ หมู่เกาะต้นปาล์ม (The Palm Islands) บริเวณอ่าวเปอร์เซีย ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้ง โรงแรม, ท่าเรือ, สวนน้ำ, ภัตตาคาร, ห้างสรรพสินค้า และสปา ให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนกันแบบสบายสุด ๆ

18. ชิคาโก, สหรัฐอเมริกา (Chicago, USA)

เมืองสำคัญในรัฐอิลลินอยส์อย่างชิคาโก มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดล้ำหลายแห่งโดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ ให้คุณเพลิดเพลินได้ทั้งวันเช่น มิวเซียมแคมปัส (Museum Campus), พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเชดด์ (Shedd Aquarium), พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของชิคาโก ทางด้านแสงสีก็โด่งดังไม่แพ้กัน โดยชิคาโกเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าละครเวที ดนตรีแจ๊ส และดนตรีบูลส์

19. เคปทาวน์, ประเทศแอฟริกาใต้ (Cape Town Central, South Africa)

เคปทาวน์ เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเรียบง่ายของผู้คน อีกทั้งบรรยากาศยังเหมาะแก่การพักผ่อน ด้านทัศนียภาพนั้นยังมีภูเขาเทเบิล (Table Mountain) ซึ่งมีรูปร่างลักษณะเหมือนโต๊ะที่ตั้งตระหง่านอยู่ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวให้คุณได้เห็นเคปทาวน์ในมุมหวาดเสียวอีกด้วย นอกจากจะได้เห็นต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์แล้ว ยังได้เห็นวิวของน้ำทะเลสุดกว้างใหญ่อีกด้วย นับเป็นภาพความงดงามที่ลงตัวมากทีเดียว

20. กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย (Bangkok, Thailand)

กรุงเทพมหานคร เมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 16 ล้านคนต่อปี ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยเพราะนอกจากที่เที่ยวยอดฮิตอย่างวัดพระแก้วและวัดวาอารามหลายแห่งแล้ว ยังมีย่านกิน เที่ยว ช้อปครบครัน ไม่ว่าจะเป็นย่านถนนข้าวสาร เยาวราช หรือสายสุขุมวิทที่คับคั่งไปด้วยแสงสียามราตรี ที่สำคัญหากเทียบกับประเทศอื่น ๆ แล้ว ยังถือว่ากรุงเทพฯ มีค่าครองชีพถูกกว่ามากทีเดียว

21. บูดาเปสต์, ประเทศฮังการี (Budapest, Hungary)

หากคุณหลงใหลในแสงสียามค่ำคืนละก็ บูดาเปสต์จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน กับสถานบันเทิงที่ถือเป็นสีสันและทำให้บูดาเปสต์เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับ อีกทั้งความสวยงามของแหล่งธรรมชาติ และสิ่งปลูกสร้างหลากหลายแบบจากการปกครองของกษัตริย์หลายสมัย ที่ทำให้บูดาเปสต์มีความหลากหลายทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป

22. ซิดนีย์, ประเทศออสเตรีเลีย (Sydney, Australia)

แน่นอนว่า ซิดนีย์ โอเปร่า เฮ้าส์ คือ แลนด์มาร์กของเมืองซิดนีย์ที่หากว่าไม่ได้เห็นก็คงจะเหมือนมาไม่ถึง นอกจากนี้ ซิดนีย์ยังเป็นเมืองที่มีอากาศและสิ่งแวดล้อมดีและผู้คนยังเป็นมิตรอีกด้วย จึงเป็นอีกเมืองน่าเที่ยวที่ควรไปเยือนสักครั้ง

23. ลิสบอน, ประเทศโปรตุเกส (Lisbon, Portugal)

ลิสบอน เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส นอกจากนี้ยังเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทำให้ผู้มาเยือนหลงใหลได้ไม่ยาก ด้วยทัศนียภาพรอบตัว ทั้งฟ้าสวย น้ำทะเลใส และอย่าพลาดที่จะแวะเวียนไปสัมผัสกับถนนที่มีสีสันสวยงามในย่าน Chiado และย่าน Alfama ค่ะ

24. เชียงใหม่, ประเทศไทย (Chiang Mai, Thailand)

อีกหนึ่งความน่าภูมิใจของเมืองไทยคือเมืองท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ ที่มีดอยอินทนนท์ หรือ จุดสูงสุดแดนสยาม เป็นไฮไลท์เด็ด และยังเต็มไปด้วยยอดดอยสวย ๆ มากมายที่เหมาะแก่การไปเที่ยวรับลมหนาว ได้แก่ ดอยเชียงดาว ดอยอ่างขาง ดอยผ้าห่มปก ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีภาษาและอาหารที่เป็นอกลักษณ์ประจำจังหวัดด้วย

25. ซานฟรานซิสโก, สหรัฐอเมริกา (San Francisco, USA)

ซานฟานซิสโก เป็นเมืองโด่งดังของรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสะพานโกลเดนเกต ทอดยาวเหนืออ่าวซานฟรานซิสโกเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะขับรถชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเขา แถมยังมีชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกอีกด้วย เรียกว่าครบทั้งที่เที่ยวในเมืองและแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเลย

เรียกว่าทั้ง 25 เมืองนั้นควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือนจริง ๆ เพราะนอกจากจะมีบรรยากาศดี ๆ ไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยว ยังมีเอกลักษณ์ด้านสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย ที่สำคัญประเทศไทยเรายังติดอันดับถึงสองจังหวัดอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งความน่าภูมิใจของประเทศไทยเราที่มีสถานที่่ท่องเที่ยวสวยงามและน่าไปเยือนเช่นนี้ :)

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอบคุณข้อมูลจาก : กระปุกดอทคอม และ tripadvisor

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มเติมได้ที่ : www.TerraBKK.com

Facebook : TerraBKK Facebook

Google+ : TerraBKK Google+

Twitter : TerraBKK Twitter