The World's Largest Starbucks Is The Willy Wonka Factory Of Coffee
Starbucks ได้เปิดร้านกาแฟสาขาใหญ่ที่สุดในโลกใน Seattle เมื่อวันที่ 5 ธันวาที่ผ่านมา ภายใต้พื้นที่ขนาดกว่า 15,000 ตร.ฟุต (1,395 ตร.ม.) มีทั้งบาร์กาแฟ 2 แห่ง ร้านอาหาร 1 แห่ง และหนังสือที่กว่า 200 เล่ม พร้อมกับโรงงานกาแฟ Starbucks ที่สามารถนั่งจิบกาแฟไปพร้อมๆกับชมกระบวนการผลิตกาแฟภายในโรงงานนี้
Starbucks แห่งนี้เป็นร้านกาแฟที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ Starbucks เคยสร้างมา และได้รับการรับรองมาตรฐานการออกแบบ ที่เป็นมิตรต่องสิ่งแวดล้อมและพลังงาน (LEED) (Leadership in Energy and Environmental Design (LEED))
โรงงานกาแฟของวิลลีวองกา (Willy Wonka จาก นวนิยายเยาวชนชื่อดัง Willy Wonka & the Chocolate Factory)
Liz Muller นักออกแบบวัย 52 ปี ชาวเนเธอร์แลนด์กล่าวว่าเธอได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากโรงงานช็อคโกแลตของ Willy Wonka แต่ที่นี่จะเปลี่ยนจากโรงงานช็อคโกแลตเป็นโรงงานกาแฟเท่านั้นเอง หากได้มานั่งกินกาแฟที่นี่ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศการคั่วกาแฟ ท่อทองเหลือง และเหล่าเมล็ดกาแฟที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศในการจิบกาแฟที่ไม่สามารถหาสัมผัสจากที่อื่นได้ แปลงโฉมตึกเก่าให้เป็นโรงงานกาแฟสุดอัศจรรย์
อาคารที่เป็นโรงงานกาแฟแห่งนี้ เดิมเป็นอาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ และถูกเปลี่ยนมือเรื่อยมาจนกระทั่ง Starbucks มาเช่าในปี 2013 Muller ได้ทำการแปลงโฉมอาคารแห่งนี้และเฟอร์นิเจอร์ให้ทุกสิ่งเป็น “สีของกาแฟ” ไม่ว่าจะเป็นไม้, เครื่องหนัง
ความท้าทายในการออกแบบคือการสร้างพื้นที่ 15,000 ตร.ฟุต ให้เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและมีเสน่ห์ ในทุกๆรายละเอียดของการออกแบบ ตั้งแต่เมล็ดกาแฟไปจนถึงโครงสร้างอันแข็งแรงของอาคาร ทุกชิ้นส่วนผ่านการออกแบบมาให้ความรู้สึกว่านี่คือโรงงานกาแฟสุดอัศจรรย์! โรงละครแห่งการผลิต
เสน่ห์อีกอย่างของโรงงานแห่งนี้คือการได้จิบกาแฟพร้อมกับชมกระบวนการผลิตกาแฟที่คล้ายกับโรงละคร ตั้งแต่การเปิดกระสอบกาแฟ ไปจนถึงการคั่วกาแฟและใส่ลงบรรจุภัณฑ์ ทุกอย่างเป็นไปคล้ายกับการแสดง “มันไม่ใช่การแสดง มันคือของจริง” Muller กล่าว โดยเธอได้ออกแบบโรงละครแห่งนี้ด้วยความประณีต ทั้งการจัดวางไฟและเครื่องจักรให้มีความปลอดภัย การควบคุมระดับเสียงของเครื่องจักร และการออกแบบให้ท่อส่งเมล็ดกาแฟโปร่งใสเพื่อให้รับชมกันได้อย่างชัดเจน ที่สุดของกาแฟพรีเมียม
สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของร้านกาแฟสาขานี้ของ Starbucks คือจะไม่ใช้โลโก้ Starbucks แต่ใช้ “R” ซึ่งมาจากคำว่า “Reserve” เป็นการแตกแบรนด์ใหม่เพื่อจับตลาดบน เมล็ดกาแฟที่ใช้เป็นเมล็ดกาแฟที่จะผลิตจากโรงคั่วกาแฟภายในร้านนี้ ไม่เพียงแต่ความพรีเมียมของเมล็ดกาแฟเท่านั้น ภายในร้านยังเสริฟอาหารของ “ทอม ดักลาส” พ่อครัวชื่อดังของสหรัฐฯและเมนูพิซซ่าตามฤดูกาลจากภัตตาคาร Serious Pie
Starbuck มีแผนที่จะแยกเชนของ Reserve Café เพื่อเจาะตลาดนักดื่มกาแฟ High-End โดยเฉพาะ และในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ Starbucks ก็มีแผนที่จะขยายสาขาไปยัง Chicago, Los Angeles, New York, San Francisco and Washington, D.C. ในปี 2015 และเข้ามาในเอเชียในปี 2016 คงต้องจับตารอดูกันต่อไปว่าแผนการขยายเชนของ Starbucks เพื่อจับลูกค้าระดับ High-End จะประสบความสำเร็จหรือไม่
Source : www.fastcodesign.com www.nydailynews.com
บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้
TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก