การซื้อขายอะไรก็ตาม ต้องมีภาษีบวกมากับการขายด้วยเสมอ ไม่เว้นแม้แต่การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรือขายที่ดิน ซึ่งคนเสียค่าใช้จ่ายไม่ได้มีเพียงผู้ซื้อเท่านั้น มีค่าใช้จ่ายทางกฎหมายซึ่งเป็นภาระของผู้ขาย ทั้งที่เป็นบุคคลและนิติบุคคล ต้องจ่ายพ่วงเข้ามาด้วยหลายประการ พอจะจำแนกได้ดังนี้

ภาษีเงินได้ที่ดิน เป็นภาษีที่ต้องเสีย ณ ที่ทำการที่ดินในวันที่จดทะเบียนการโอนเงินได้ที่นำมาคำนวณเป็นราคาที่ประเมินโดยกรมที่ดินเท่านั้น ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลต่างต้องเสียภาษีนี้เหมือนกัน แตกต่างกันที่วิธีคำนวณ โดยในบุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้ที่ดิน คำนวณจากวิธีการได้มาของที่ดินนั้น

ได้มาโดยมรดกหรือมีคนให้โดยเสน่หา คือไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้มาฟรี มีวิธีการคำนวณดังนี้

เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์

หัก        เงินได้ที่ได้รับยกเว้นไม่เกิน 200,000 บาทตลอดปีภาษี กรณีอสังหาริมทรัพย์ตั้ง อยู่นอกเขตกรุงเทพมหานคร เทศบาล สุขาภิบาล หรือ เมืองพัทยา (ถ้ามี)

คงเหลือ

หัก        ค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา (ร้อยละ 50)

เงินได้สุทธิ

หาร       จำนวนปีที่ถื่อครอง (นับตามปี พ.ศ. แต่ไม่เกิน 10 ปี)

เงินได้สุทธิถัวเฉลี่ยต่อปีที่ถื่อครอง

คูณ       อัตราภาษีก้าวหน้า

            จำนวนเงินภาษีต่อปีที่ถือครอง

คูณ       จำนวนปีที่ถือครอง

จำนวนภาษีเงินได้ที่ต้องหัก ณ ที่จ่าย (ไม่เกินร้อยละ 20 ของราคาขาย)

ได้มาโดยทางอื่น เช่น ซื้อมาปลูกบ้าน หรือซื้อมาเพื่อเก็งกำไร เป็นการได้มาโดยเสียค่าใช้จ่าย จะมีวิธีคำนวณดังนี้

เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์

หัก        ค่าใช้จ่าย

            จำนวนปีที่ถือครอง

1

2

3

4

5

6

7

8 ปีขึ้นไป

อัตราค่าใช้จ่าย

92%

84%

77%

71%

65%

60%

55%

50%

หาร       จำนวนปีที่ถือครอง (นับตามปี พ.ศ. แต่ไม่เกิน 10 ปี)

เงินได้สุทธิถัวเฉลี่ยต่อปีที่ถือครอง

คูณ       อัตราภาษีก้าวหน้า

จำนวนเงินภาษีต่อปีที่ถือครอง

คูณ       จำนวนปีที่ถือครอง

จำนวนภาษีเงินได้ที่ต้องหัก ณ ที่จ่าย

(เฉพาะกรณีที่อสังหาริมทรัพย์นั้นได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร จำนวน ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของราคาขาย)

สามารถเข้าไปคำนวณภาษีได้จากเว็บไซต์ของกรมสรรพากร http://rdsrv2.rd.go.th/landwht/formcal1.asp

การเสียภาษีเงินได้ของนิติบุคคล เสียภาษีร้อยละ 1 ของราคาขายหรือราคาที่ประเมินโดยกรมที่ดิน โดยยึดเอาราคาที่สูงกว่าเป็นหลัก

ภาษีธุรกิจเฉพาะ จะจ่ายเฉพาะกรณีขายที่ดินเพื่อการค้าหรือหาผลกำไรเท่านั้น เช่นการขายที่ดินเพื่อทำจัดสรร อาจเป็นนิติบุคคลที่ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อนำไปประกอบธุรกิจต่อ หรือเป็นบุคคลธรรมดาที่ได้อสังหาริมทรัพย์นั้นมาไม่เกิน 5 ปี หรือมีชื่อในทะเบียนบ้านไม่ถึง 1 ปี ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและภาษีท้องถิ่นในอัตราร้อยละ 3.3 ของรายได้จากการขาย ผู้ทำการจัดสรรต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะภายใน 30 วัน

อากรแสตมป์ ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลเสียค่าอากรสแตมป์ในอัตราเดียวกัน คือ 1 บาท ต่อทุก 200 บาทและเศษของ 200 จากราคาขายหรือราคาประเมินแล้วแต่ว่าราคาใดจะสูงกว่า แต่มีข้อยกเว้นไม่ต้องเสียอากรสแตมป์สำหรับผู้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ