แนะนำ 5 ค็อกเทลสูตรแมนๆ ที่สุภาพบุรุษทุกคนควรรู้จัก
เวลาคุณออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆยามค่ำคืน ปกติคุณจะสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดใด? ถ้าให้เราเดา 99.99% จะต้องบอกว่าสั่งเบียร์ หรือตัวเลือกรองลงมาก็ต้องบอกว่าสั่งไวน์ เพราะถ้าเมื่อเอาเครื่องดื่มสองอย่างนี้ไปเที่ยบกับเครื่องดื่มอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ค็อกเทล” คุณผู้ชายหลายๆคนคงรู้สึกเหมือนกันว่าเบียร์กับไวน์นั้นเลือกสั่งได้ง่ายและเซฟกว่า ในขณะที่พอเปิดดูเมนูค็อกเทลทีไร เป็นต้องเกิดอาการไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกสั่งแก้วไหนดี เพราะมันช่างมีให้เลือกเยอะแยะเหลือเกิน แถมชื่อก็ยังแปลกๆอีกต่างหาก และหากคุณเป็นหนึ่งในจำนวนคุณผู้ชายที่มักจะลงเอยด้วยการสั่งค็อกเทลมาตรฐานเมนูเดิมๆ อย่าง Mojito, Mai Tai หรือถ้ายิ่งร้ายไปกว่านั้นดันชอบสั่ง Singapore Sling, Cosmopolitan หรือ Margarita ที่ล้วนแต่เป็นค็อกเทลสำหรับ “ผู้หญิง” (that’s a big no!) ขอบอกว่าถึงเวลาแล้วล่ะค่ะ ที่คุณต้องมาทำความรู้จักกับค็อกเทลแบบแมนๆทั้ง 5 ชนิดดังต่อไปนี้ เพื่อที่ครั้งต่อไปเวลาคุณไปนั่งดริ๊งค์ที่ค็อกเทลบาร์คุณจะได้ไม่เกิดอาการแป๊กอีกต่อไป และขอให้เชื่อเราเถอะว่า ในฐานะที่เป็นผู้หญิง เมื่อไหร่ที่สาวๆเห็นคุณมีแก้วค็อกเทลดังต่อไปนี้อยู่ในมือ ดีกรีความหล่อของคุณจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าเลยล่ะ
Old Fashioned เริ่มกันที่ค็อกเทลอันเก่าแก่ ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี กับ “Old Fashion” ค็อกเทลที่มีส่วนผสมสุดจะเบสิก แต่ว่ากันว่าการจะผสมกันให้ดีและอร่อยนั้นยากมาก ส่วนผสมก็มีน้ำตาล เหล้าบิตเตอร์ โซดา วิสกี้ เหล้าเบอร์เบิ้น และปิดท้ายด้วยส้มฝานเป็นแว่น บดให้พอหยาบเพื่อดึงกลิ่นหอมออกมา เสร็จแล้วเสิร์ฟในแก้วทรงกลมขนาดเตี้ย 6 – 8 ออนซ์ ที่มีชื่อเรียกว่าโอลด์ แฟชั่น ตามชื่อของเครื่องดื่มชนิดนี้ แล้วดื่มแบบ on the rocks หรือกับน้ำแข็งนั่นเอง เวลาดื่มค็อกเทลตัวนี้ แนะนำว่าให้ลองสวมวิญญาณเป็น Don Draper จากเรื่อง Mad Men (พระเอกในเรื่องที่มีค็อกเทลคู่ใจคือ Old Fashion) แล้วคุณจะรู้สึกหล่อที่สุดในร้านขึ้นมาทันที
Manhattan ค็อกเทลชนิดนี้ถือเป็นตำนานซิกเนเจอร์ ดริงค์ของอเมริกา ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ว่ากันว่า Manhattan ได้ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกที่แมนฮัตตันคลับ นิวยอร์ค โดยเลดี้แรนดอล์ฟ เชอร์ชิล แม่ของเซอร์ วินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศอังกฤษ เพื่อร่วมฉลองในโอกาสที่ แซมมวล เจ. ทิลเดน ชนะการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ค็อกเทลสูตรนี้มีส่วนผสมที่ง่ายๆแต่รสชาติออกซับซ้อน มีรสแรงเข้มข้น นุ่มกลมกล่อม มีกลิ่นหอม ออกหวานนิดๆ ปัจจุบัน Manhattan ส่วนใหญ่จะใช้เหล้าเบอร์เบิ้น แต่สูตรแท้ดั้งเดิมต้องใช้ไรย์วิสกี้ (rye whiskey) หรือวิสกี้ที่ทำจากข้าวไรย์ แล้วก็มี sweet vermouth กับ bitter ตบท้ายด้วยการตกแต่งด้วยเชอรี่ เสิร์ฟในแก้วมาร์ตินี่
Tom Collins “Tom Collins” เป็นอีกหนึ่งค็อกเทลสุดคลาสสิคที่มีต้นกำเนิดในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีอายุเก่าแก่พอๆกับสองค็อกเทลก่อนหน้า ค็อกเทลชนิดนี้จะเสิร์ฟในแก้วทรงสูงที่เรียกว่า highball glass หรือ Collins glass ซึ่งส่วนผสมก็ได้แก่ดราย จิน (dry gin) น้ำมะนาว น้ำเชื่อม โซดา ปิดท้ายด้วยส้มฝาน และลูกเชอร์รี่ รสชาติจะออกเปรี้ยวซ่านิดๆ หวานหน่อยๆ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ดับกระหายในหน้าร้อนอบอ้าวแบบบ้านเราได้เป็นอย่างดี
Sidecar สูตรของ “Sidecar” นั้นมีให้เห็นกันในตำราครั้งแรกในปี 1922 ซึ่งว่ากันว่าถูกคิดค้นสูตรโดยทหารอเมริกันคนหนึ่งในกรุงปารีสในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ส่วนชื่อแมนๆนี้ก็ได้มาจากรถมอเตอร์ไซค์แบบสมัยก่อน ที่มีที่นั่งด้านข้างที่เรียกว่า sidecar นั่นเอง ค็อกเทลชนิดนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในฝรั่งเศส มีส่วนผสมของ Remy Martin Cognac, Cointreau ผลเลมอน น้ำมะนาว และน้ำตาล โดยสัดส่วนของการผสมก็จะแตกต่างกันไปตามสูตรของฝรั่งเศส และอังกฤษ ดื่มแล้วจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เหมาะแก่การดื่มยามเย็นให้หายเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน
Martini สุดท้าย กับ “Martini” ค็อกเทลชื่อดังที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1860 ที่สหรัฐอเมริกา ค็อกเทลชนิดนี้ค่อนข้างมีความเข้มข้น เพราะเป็นเครื่องดื่มที่เน้นเหล้าเป็นพิเศษ ค่อนข้างแรง สูตรดั้งเดิมจะใช้เหล้าไวท์สปิริตผสมกับเหล้าเวอร์มูธ ดื่มแล้วจะสัมผัสได้ถึงความสุขุม ลุ่มลึก ใส่ในแก้วมาร์ตินี่ ตกแต่งด้วยมะกอกดอง หรือหอมดอง ความพิเศษของค็อกเทลชนิดนี้ก็คือมีหลากหลายสูตรให้เลือกดื่มมากๆ ไม่ว่าจะเป็น Vodka Martini, Dry Martini, Tequila Martini หรือ Rum Martini เป็นต้น ส่วนจะดื่มแบบ stirred ที่มีการคน หรือจะแบบ James Bond ที่ชอบให้ Martini ของเขาเป็นแบบ “shaken, not stirred” ก็แล้วแต่คุณจะชอบเลย
Writer: Thip S. Selley Credit: artofmanliness
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.