ในสมัยนี้การลงทุนที่เป็นที่นิยมไม่แพ้การเล่นหุ้นคือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นเก็งกำไรระยะสั้น หรือสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว  การซื้อบ้านเพื่อปล่อยเช่าก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ที่แม้จะเหนื่อยในช่วงแรกๆแต่ก็ถือเป็นการทำธุรกิจที่สบายในระยะยาว แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะสามารถทำธุรกิจบ้านปล่อยเช่าได้ TerraBKK Research แนะนำบุคคล 5 ประเภทที่ไม่เหมาะกับการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยลักษณะนิสัยบางประการที่เจ้าของบ้านไม่พึงมี ดังนี้

1. คนขี้เกียจและไม่ชอบซ่อมแซมสิ่งของ

lazy-worker-1

ถ้าคุณยังเป็นคนที่ขี้เกียจ ไม่ชอบให้ใครมาโทรตามเพื่อไปแก้ปัญหาน้ำรั่วที่บ้านเช่า หรือตามไปซ่อมบ้านในวันหยุดอันแสนสบายของคุณ นั่นแปลว่าคุณยังไม่เหมาะที่จะเป็นเจ้าของบ้านปล่อยเช่า เพราะเจ้าของบ้านควรพร้อมสำหรับปัญหาต่างๆอันเกิดจากบ้านเช่า หากคุณจะบอกว่าให้ตามช่างมาซ่อมเองทีหลัง ยังไงก็ต้องมาเก็บเงินที่เจ้าของบ้านอยู่ดี เพราะสุดท้ายแล้วคุณคือ “เจ้าของบ้าน” หลังนั้นนั่นเอง

2. คนที่ยุ่งตลอดเวลา

busy-worker-1

หากคุณเป็นคนที่ยุ่งตลอดเวลา ต้องทำงานมากกว่า 60 ชม./สัปดาห์ หรือแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย การเป็นเจ้าของบ้านเช่าก็แทบเป็นไปไม่ได้สำหรับคุณ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องปัญหาของคนเช่าที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เริ่มต้นตั้งแต่การหาบ้านไว้ปล่อยเช่า ซึ่งต้องเลือกเฟ้นบ้านราคาถูกเพื่อให้ปล่อยเช่าได้คุ้มค่ามากที่สุด คุณจะหาเวลาที่ไหนเพื่อไปเลือกบ้านเช่าราคาดีๆ หรือเมื่อซื้อมาแล้วก็ต้องประกาศหาคนเช่า คอยไปเปิดบ้านให้ดูเป็นระยะๆ และเมื่อมีคนเช่าแล้วก็อาจจะมีปัญหาจุกจิกตามมาเช่น คอยซ่อมและดูแลตามสภาพบ้าน

3. คนที่ไม่สามารถเจรจากับผู้อื่นได้

Arguing-Workers-1

การทำธุรกิจบ้านเช่าก็ถือเป็นการเจรจาธุรกิจอย่างหนึ่ง เปรียบผู้เช่าคือลูกค้าของคุณ  คุณจะได้ลูกค้าที่ดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองที่น่าเชื่อถือและการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณประกอบธุรกิจบ้านเช่าได้อย่างราบรื่น และแทบไม่มีปัญหากับผู้เช่า แต่หากคุณเป็นคนเก็บตัวเงียบ ไม่ชอบพูดคุยหรือสุงสิงกับใครเท่าไหร่นัก ธุรกิจบ้านเช่าก็ดูจะเป็นเรื่องยากสักหน่อย เพราะคุณต้องเจอผู้เช่าบ้านมากหน้าหลายตาที่ต่างนิสัยกัน  อาจจะสร้างความปวดหัวตามมาทีหลังได้

4. คนที่ไม่มีเงินเก็บเลย

flat-broke-1

หากคุณลงเงินทั้งหมดไปกับการซื้อบ้านเช่าจนไม่เหลือเงินออมแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ควรเสี่ยงอย่างยิ่ง เพราะอย่างน้อยๆคุณควรมีกองเงินสำรองฉุกเฉินไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น เช่น เผื่อค่าซ่อมแซมบ้านหรือค่าใช้จ่ายเมื่อผู้เช่าย้ายออก เพราะผู้เช่าบางคนย้ายหนีออกไปโดยที่ยังไม่ได้ชำระค่าน้ำ,ค่าไฟ สร้างภาระให้กับเจ้าของบ้านต่อไป ทั้งหมดนี้เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เจ้าของบ้านก็ควรเตรียมเงินสำรองและเตรียมใจไว้สำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้

5. คนที่คาดหวังผลตอบแทนแบบติดจรวด

rich-businessman-throws-money-1

หลายคนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในหุ้น และเมื่อผันตัวมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ย่อมต้องปรับตัวตามรูปแบบการลงุทนที่ต่างกันออกไป เพราะลักษณะการลงทุนที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก ลงทุนในหุ้น คุณลงเงินวันนี้พรุ่งนี้อาจได้กำไรเลย แต่อสังหาริมทรัพย์ต้องใช้ระยะเวลาที่นานหลายปีกว่าจะได้กำไร ต้องใช้ความอดทนและความพยายามที่มากกว่า ดังนั้นหากคุณชำนาญและชื่นชอบในเส้นทางนั้นอยู่แล้ว ก็ควรลงทุนในด้านนั้นต่อไป แต่หากอยากลองเปลี่ยนแนวการลงทุน ก็ควรศึกษาให้ดีและพิจารณาให้รอบคอบว่าจะสามารถรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นหรือยอมรับข้อแตกต่างของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้หรือไม่ - เทอร์ร่า บีเคเค