“บ้าน” ในยุคที่ผ่านมา อาจถูกมองว่าคือพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในเวลาที่เราเหนื่อยล้าเท่านั้น แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ บ้านกลับไม่ได้ถูกมองว่าเป็นแค่สถานที่นอน แต่บ้านคือพื้นที่ที่ช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้กับชีวิต และช่วยตอบโจทย์การอยู่อาศัยให้สมบูรณ์ขึ้นได้ คำถามคือ แล้วบ้านที่ช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้กับชีวิตได้คือแบบไหนกันล่ะ? ด้วยเหตุผลนี้จึงเกิดเป็นเทรนด์ใหม่ขึ้นมาที่เรียกว่า “The combination of Living” หรือ “การอยู่อาศัยแบบผสมผสานที่ไม่ใช่การสร้าง Space อยู่แค่ในบ้านเหมือนที่เราคุ้นเคย แต่นอกบ้านก็คือ Living Space เช่นเดียวกัน” ทำไมเทรนด์นี้ถึงกลายเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ ก็เพราะการใช้ชีวิตได้ 100% ในทุกพื้นที่ในบ้าน ทั้ง Indoor และ Outdoor มันทำให้การอยู่บ้านไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่บ้านไงล่ะ ยกตัวอย่างเช่น • ใช้ชีวิต Slow Life เหมือนออกไปนั่งคาเฟ่แถวทองหล่อทุกวัน แต่จริง ๆ เพียงแค่ ใช้พื้นที่ว่าง Outdoor ไม่เกิน 5 เมตร นั่งจิบกาแฟบนเก้าอี้ไม้ริมสวน อ่านหนังสือจบได้โดยไม่ต้องโดนไล่ที่ กาแฟหมดไม่ต้องสั่งเพิ่ม แค่เดินเข้าครัวไปเติมได้ตลอดเวลา แค่คิดก็ฮิปแล้ว


• โยคะท่ามกลางสวนสวยหรือจะริมสระ เป็นจริงได้ ไม่ต้องฝ่ารถติดไปแย่งคลาสกับใคร เพราจะเล่นเช้า หรือ บ่าย คลาสในบ้านก็พร้อมเปิดเสมอ แถมยังเล่นโยคะไป ดูทีวีในห้องนั่งเล่นไปด้วยยังได้


• ห้องสมุด Indoor แต่รับแสงและลมอ่อน ๆ จาก Outdoor ได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ด้วยวิธีการเชื่อมต่อตัวบ้านกับนอกบ้านด้วยกระจก และไม้ระแนง เพิ่มความสดชื่นด้วยสวนขนาดเล็กรอบ ๆ กลายเป็น Glass House ขนาดย่อม

• เปลี่ยนพื้นที่ข้างบ้าน ให้กลายเป็นพื้นที่ดูดาว แถมยังเดินเข้าครัวไปเติมขนมได้ตลอดเวลา

• มีพื้นที่ว่างสำหรับทุกคน เพราะการที่บ้านสามารถเป็นทุกที่สำหรับเราได้ ไม่ว่าจะเป็นโฮมออฟฟิศสำหรับพ่อ เป็นลานเล่นโยคะสำหรับแม่ เป็นคาเฟ่นั่งจิบกาแฟเก๋ ๆ ของลูกสาว หรือจะเป็นที่ว่างสอนการบ้านให้ตัวจิ๋ว ไม่ว่าจะเป็นอะไร แต่พื้นที่ว่างตรงนี้แหละ คือพื้นที่วิเศษที่ทำให้บ้านเป็นมากกว่าบ้านและไม่มีทางทำให้คุณเบื่อแน่นอน

เห็นอย่างนี้แล้ว จึงไม่แปลกใจเลยที่ชาวอเมริกันกว่ามากกว่า 85% ถึงให้ความสำคัญกับการสร้าง Space นอกบ้าน ไม่น้อยไปกว่าการใส่ใจกับ spaceในบ้านเลย ถ้าในเมืองไทยมีบ้านที่ตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยแบบ Combination of Living แบบนี้ได้ก็น่าจะดีนะ คุณว่าไหม?


ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์