การลงทุนในทุกรูปแบบย่อมมีความเสี่ยงในตัวของมันเอง และแน่นอนว่าการจะลงทุนใดๆ สิ่งที่เรามองเป็นอันดับแรกคือ “ผลตอบแทน” และคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าอัตราผลตอบแทนที่สูงจากการลงทุน เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจนักลงทุนทุกท่าน แต่อีกสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนจำเป็นต้องคำนึงถึงก็คือ ความเสี่ยง” เพราะการลงทุนใดๆ ย่อมมีความเสี่ยงเสมอ อย่างที่เราได้ยินกันมาว่า “High Risk, High Return” ก็หมายถึง ยิ่งผลตอบแทนสูงก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูง แต่ใครๆก็ย่อมอยากเลี่ยงความเสี่ยง หรือให้เกิดขึ้นได้น้อยที่สุด ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มลงทุน นักลงทุนจำเป็นต้องทราบถึงประเภทของความเสี่ยง และ ความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของตัวนักลงทุนเสียก่อน

TerraBKK ขอยกตัวอย่างประเภทของความเสี่ยง ดังนี้

1. ความเสี่ยงด้านตลาดการเงิน (Financial Market Risk) คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย, อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และราคาตราสารในตลาดเงินตลาดทุน ที่มีผลกระทบในทางลบต่อรายได้ และเงินกองทุนของสถาบันการเงิน

2. ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย (Interest Risk) คือ ความเสี่ยงที่รายได้หรือเงินกองทุนได้รับผลกระทบในทางลบ จากการเปลี่ยนแปลง อัตราดอกเบี้ย

3. ความเสี่ยงที่เกิดกับอัตราดอกเบี้ยในการนำเงินไปลงทุนต่อ (Reinvestment Risk) คือ ความเสี่ยงที่จะได้รับอัตราผลตอบแทนที่ต่ำลงจากการนำดอกเบี้ยนั้นไปลงทุนต่อ

4. ความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมือง (Political Risk) คือ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้เงื่อนไขการลงทุนต่างไปจากรูปแบบเดิม

5. ความเสี่ยงจากราคา (Price Risk) คือ ความเสี่ยงที่รายได้หรือเงินกองทุนได้รับผลกระทบในทางลบ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลง ของราคาตราสารหนี้และตราสารทุน

6. ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง (Liquidity Risk) คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการขายสินทรัพย์ไม่ได้ ในระยะเวลาหรือราคาตามที่กำหนดไว้

7. ความเสี่ยงจากอำนาจซื้อของเงินที่ลดลง (Purchasing Power Risk หรือ Inflation Risk) คือ ความเสี่ยงต่อการมีอำนาจซื้อที่ลดลงในอนาคต

8. ความเสี่ยงเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค (Customer Behavior) คือ ความเสี่ยงของพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งแวดล้อมต่างๆ การสื่อสารที่แปลกใหม่ รวดเร็ว ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

เปรียบเทียบความเสี่ยงและผลตอบแทนในทุก Asset Class TerraBKK Research นำ “ผลตอบแทน” และ “ความเสี่ยง” ของสินทรัพย์แต่ละประเภท มาเปรียบเทียบเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่แตกต่างกัน และผลตอบแทนจะแตกต่างกันอย่างไร

risk_2

และไม่ว่าใครก็ตามย่อมอยากให้เกิดความเสี่ยงให้น้อยที่สุดขณะลงทุน TerraBKK Research แนะนำ 5 เทคนิคในการลงทุนเพื่อให้เกิดความเสี่ยงน้อยที่สุดไว้ดังนี้

Tip #1 : เลือกลงทุนที่ผลตอบแทนมากกว่าเงินเฟ้อ

หากคุณกำลังลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะยาว ควรมองหาการลงทุนที่อัตราผลตอบแทน “ขั้นต่ำ” มากกว่าอัตราเงินเฟ้อ เช่น หากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 5% แต่คุณฝากเงินไว้ในธนาคารด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 1% ในกรณีนี้คุณก็จะเสียโอกาสทางการเงิน และไม่สามารถเพิ่มมูลค่าของเงินได้อย่างแท้จริง

Tip #2 : กระจายการลงทุน

“อย่าใส่ไข่ทุกฟองไว้ในตะกร้าใบเดียวกัน Don’t put all your eggs in one basket” เป็นหนึ่งในหลักการลงทุนเบื้องต้นที่นักลงทุนทุกคนคงจะเคยได้ยิน โดยเงินลงทุนของเราเปรียบเสมือนไข่ไก่ ที่กระจายออกไปใส่ในหลายๆตะกร้า คือการนำเงินลงทุน กระจายไปในการลงทุนหลายๆรูปแบบ เช่นหุ้น ตราสารหนี้ เงินฝาก เพราะเมื่อเกิดเหตุที่มีผลกระทบกับตะกร้าใบใดใบหนึ่ง อย่างน้อย เราก็ยังมีตะกร้าใบอื่นๆเหลืออยู่ ไม่สูญเสียไข่หรือเงินลงทุนไปมากนัก

Tip #3 : เน้นการลงทุนระยะยาว

ในสภาพตลาดปัจจุบันที่อ่อนไหวง่ายไปตามกระแสข่าว ทำให้การลงทุนเต็มไปด้วยความผันผวนที่แทบจะเกิดขึ้นเป็นรายวัน ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้นได้ตลอดเวลา และยิ่งการลงทุนของคุณสั้นเท่าไหร่แล้ว ความเสี่ยงย่อมเกิดได้มากขึ้นเท่านั้น แต่การลงทุนระยะยาวทำให้เราไม่ตื่นตระหนกไปกับสถานการณ์ที่ผันผวนและไม่แน่นอน ดังนั้นการลงทุนที่ดีควรกำหนดระยะเวลาในการลงทุนที่แน่นอน ไม่หวั่นไหวไปตามภาวะของตลาด

Tip #4 : เริ่มต้นลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อย

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุน เพื่อเพิ่มความมั่นใจของคุณ ควรเริ่มด้วยเงินลงทุนที่ยังไม่มาก ลงทุนในสิ่งที่คุณศึกษามาเป็นอย่างดี เพื่อศึกษาถึงวิธีการให้ผลตอบแทนและประมาณการณ์ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ว่าเป็นระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้หรือไม่ เพราะด้วยจำนวนเงินลงทุนที่ไม่มาก หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ก็ยังไม่สูญเสียเงินมากนัก

Tip #5 : ลงทุนในสิ่งที่ตัวเองรู้จักและเข้าใจ

เริ่มต้นลงทุนในสิ่งที่เรารู้จักและเข้าใจดีที่สุด เพราะแต่ละคนความถนัดย่อมแตกต่างกันออกไป การได้ลงทุนในสิ่งที่ตัวเองถนัดจะทำให้เราสามารถทำมันออกมาได้ดี การเข้าใจในการลงทุนสิ่งนั้นๆจะทำให้เรารู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป หรือสามารถประเมินสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้

แม้ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเพียงวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงให้น้อยลง ไม่ได้ขจัดความเสี่ยงให้เป็นศูนย์ก็ตาม เพราะหัวใจของการลงทุนหรือการบริหาร “ความเสี่ยง” และ “ผลตอบแทน” ให้เหมาะสมกับผู้ลงทุนมากที่สุด หากคุณรักที่จะลงทุน ก็ต้องศึกษาหาทางให้รู้เท่าทันความเสี่ยงให้ได้นั่นเอง - เทอร์ร่า บีเคเค

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก