การลงทุนเป็นหนึ่งกิจกรรมสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่งคั่ง ซึ่งการลงทุนก็มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบจับต้องได้และแบบจับต้องไม่ได้ TerraBKK ขอเสนอความรู้น่าใจเกี่ยวกับช่องทางการซื้อขายตราสารทุน ที่เรียกว่า ตลาดตราสารทุน เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นก่อนทำการลงทุน ตราสารทุน หลายคนนึกถึงสิ่งที่คุ้นเคยอย่าง หุ้นสามัญในตลาด SET ยังรวมไปถึงหุ้นบุริมสิทธิ ,หุ้นกู้แปลงสภาพ (ต่างจากหุ้นกู้ทั่วไป เนื่องจากจะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญเมื่อถึงเงื่อนไขตามกำหนด) , ใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) เป็นต้น ลักษณะตราสารจะแสดงถึงฐานะความเป็นเจ้าของ ได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผล หรือส่วนต่างราคากรณีขายต่อนักลงทุนอื่น โดยกิจการจะออกตราสารขายแก่นักลงทุนเ พื่อระดมเงินทุนไปใช้ในกิจการ

ดังนั้น ตลาดตราสารทุน จึงหมายถึงแหล่งกลางที่ใช้ในการระดมทุนของกิจการแก่นักลงทุนที่สนใจตราสารทุนที่มีอายุมากกว่า 1 ปี ขึ้นไปนั้นเอง ตลาดตราสารทุน สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. ตลาดแรก ( Primary Market )

จะเป็นตลาดสำหรับกิจการที่สร้างตราสารออกสู่ตลาดเพื่อระดมทุนจากนักลงทุนโดยตรง จะเป็นตราสารที่ออกขายใหม่ หรือตราสารที่นำออกขายในตลาดเป็นครั้งแรก แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  • การเสนอขายแก่บุคคลวงในจำกัด เรียกว่า Private Placement ( PP ) ซึ่งกิจการที่ออกตราสาร สามารถเสนอขายได้ 2 แบบ คือ แบบเสนอขายแก่นักลงทุนเฉพาะรายไม่เกิน 35 คน ในระยะเวลา 12 เดือน และแบบเสนอขายแก่สถาบัน (เป็นไปตามระเบียบที่ กลต. กำหนดไว้)
  • การเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป เรียกว่า Public Offering (PO ) ซึ่งกิจการที่ออกตราสาร จะต้องได้รับอนุมัติตามขบวนการขั้นตอนตามที่ กลต. ระบุไว้ก่อนจะออกขายในตลาด

2. ตลาดรอง ( Secondary Market)

จะเป็นตลาดสำหรับตราสารที่มีการออกจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว เสมือนเป็นการซื้อขายเปลี่ยนมือของผู้ถือครอง เป็นการหมุนเวียนอยู่ในระบบ ซึ่งจะมีหน่วยงาน ก.ล.ต. เป็นผู้กํากับภาพรวม และมีหน่วยงานตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแลการซื้อขายในตลาดรอง แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่

    • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรียกว่า The Stock Exchange of Thailand ( SET) จะเป็นตลาดรองของบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีทุนชำระ ตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไป click SET …
    • ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เรียกว่า Market for Alternative Investment (mai) จะเป็นตลาดรองสำหรับธุรกิจที่มีศักยภาพขนาดกลางและเล็ก ที่มีทุนชำระ ตั้งแต่ 20 ล้านขึ้นไป click MAI ….
    • ท้ายนี้

TerraBKK

    ขอนำข้อมูลดีๆจาก set.or.th ที่ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ดังนี้
    • ประการที่ 1 แหล่งเงินทุนระยะยาว สามารถระดมเงินทุนจากประชาชนได้โดยตรง โดยไม่มีภาระเงินต้นและดอกเบี้ยเหมือนการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน
    • ประการที่ 2 เพิ่มช่องทางระดมทุน เพื่อช่วยบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หุ้นสามัญเพิ่มทุน หุ้นกู้หุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหลักทรัพย์ (warrant) เป็นต้น
    • ประการที่ 3 เสริมสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัท เนื่องจากมีกลไกการเปิดเผยข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แก่สาธารณะ
    • ประการที่ 4 สร้างความภักดี และผลตอบแทนที่ดีให้แก่พนักงาน กรณีมีการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัท (Employee StockOption Program หรือ ESOP) ก็สามารถเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของบริษัทได้
    • ประการที่ 5 สร้างความรับผิดชอบและการบริหารงานแบบมืออาชีพ เป็นการกระตุ้นให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนมีการบริหารงานแบบมืออาชีพ เนื่องจากมีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นในวงกว้าง
    • ประการที่ 6 การดำรงอยู่ของธุรกิจในระยะยาว ช่วยให้บริษัทที่มีการบริหารงานแบบธุรกิจครอบครัวก้าวเข้าสู่การบริหารงานแบบมืออาชีพมากขึ้น มีผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพเข้ามาร่วมบริหารกิจการได้--เทอร์ร่า บีเคเค