ดูแลและรักษา “ลูกค้า” ก่อนจะสายไป
เคล็ดลับอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ ไม่เพียงแต่พัฒนาสินค้าหรือมุ่งเพียงแต่หากำไรเท่านั้น การรักษาฐานลูกค้าก็นับเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ จนได้เกิดคำกล่าวที่ว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” เพราะท่ามกลางการแข่งขันธุรกิจกันอย่างดุเดือด ใครที่สามารถชนะใจลูกค้าได้มากที่สุด ย่อมได้ลูกค้าที่มีความภักดี (Brand Loyalty) เป็นลูกค้าประจำ และหากโชคดี ลูกค้านั้นก็อาจจะบอกต่อ เพิ่มโอกาสให้เราได้ลูกค้าใหม่ๆมากขึ้น TerraBKK แนะนำ 7 อย่างที่ไม่ควรทำเพราะจะทำให้รักษาลูกค้าไว้ไม่ได้ หรือที่แย่ที่สุดคือเสียลูกค้าไปให้กับคู่แข่งนั่นเอง
1. พนักงานไม่มีความรู้ และให้คำแนะนำไม่ได้
เป็นเรื่องที่เบสิคมากๆสำหรับการซื้อสินค้าอะไรซักอย่าง ลองนึกภาพว่าตัวคุณเองกำลังหาซื้อเครื่องปรับอากาศซักเครื่อง แต่ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เท่าไหร่ เมื่อถามถึงข้อมูลแต่ละรุ่นและขอคำแนะนำว่าซื้อรุ่นไหนดีกับพนักงานในร้าน แต่พนักงานกลับให้คำแนะนำหรือให้ความช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย คุณเองก็คงหงุดหงิดไม่ใช่น้อย แต่ที่แน่ๆคือคุณจะไม่กลับไปที่ร้านนั้นอีกแน่นอน เพราะลูกค้าเองก็คาดหวังว่าผู้ขายควรจะมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นๆอยู่บ้าง
2. มีเวลาเปิด-ปิดร้านที่ไม่เหมาะสม
เพราะแต่ละธุรกิจอาจมีช่วงเวลาเปิดร้านที่ต่างกันออกไป โดยรองรับลูกค้าคนละประเภทกัน อย่างเช่นหากธุรกิจของคุณเป็นร้านกาแฟ แต่กลับเปิดร้านเที่ยงตรง แบบนี้จะทำให้เสียลูกค้าในช่วงเช้าไป เพราะคนส่วนใหญ่มักซื้อกาแฟทานในตอนเช้ามากกว่าตอนเที่ยง หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมที่เปิด-ปิดร้านไม่เป็นเวลา วันไหนคิดจะหยุดร้านก็หยุด โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ลูกค้าประจำเมื่อตั้งใจจะมาซื้อกลับไม่เปิดร้าน จะทำให้เสียลูกค้าไปให้คู่แข่งได้ง่ายๆ
3. ภาพลักษณ์ที่ดูไม่ Professional
สำหรับธุรกิจบริการ การแต่งกายให้ดู Professional เป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะเป็นด่านแรกที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าได้ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้แปลว่าให้ใส่สูท หรือเครื่องแบบเต็มยศ แต่ให้ดูถึงความเหมาะสมกับธุรกิจนั้นๆว่าควรแต่งกายเช่นไรจึงจะเข้ากับธุรกิจของเรา เช่น บางธุรกิจอาจจะต้องการความคล่องแคล่ว ดูทะมัดทะแมง หรือบางธุรกิจอาจต้องการความน่าเชื่อถือ การแต่งกายควรดู smart เป็นต้น
4. ค่อยๆลดคุณภาพสินค้า
หากคุณคิดว่าตอนนี้มีลูกค้าเยอะแล้ว หากจะลดคุณภาพสินค้าลงนิดหน่อยคงจะไม่เป็นอะไร หรือหากต้องการลดต้นทุนด้วยการลดคุณภาพสินค้า คงจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก เพราะไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยให้ขายดีขึ้นแล้ว ลูกค้าเก่าที่เคยชื่นชอบสินค้าของคุณจะเลิกซื้อสินค้าไปด้วย เพราะคุณภาพไม่เหมือนเดิม
5. ไม่ให้ความสำคัญกับลูกค้า
การให้ความสำคัญในที่นี้หมายถึง การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของลูกค้า สามารถจดจำสินค้าที่ลูกค้าชื่นชอบได้ โดยเฉพาะลูกค้าประจำที่จะรู้สึกประทับใจมากยิ่งขึ้น เมื่อคุณสามารถจดจำสินค้าที่เขาชื่นชอบได้เป็นอย่างดี หรือคอยแนะนำสินค้ามาใหม่ที่คิดว่าน่าจะถูกใจลูกค้าคนนี้ การกระทำแบบนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นคนสำคัญของร้าน
6. ไม่มีความรับผิดชอบ
บางครั้งเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้ว แต่อาจเกิดความผิดพลาดบางอย่าง ก็ต้องการความรับผิดชอบจากทางร้าน ไม่ใช่การปัดความรับผิดชอบหรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่สนใจ เช่น ลูกค้าซื้ออาหารไปแล้วเกิดเป็นสินค้าที่หมดอายุแล้ว เมื่อไปเรียกร้องกับทางร้าน แต่ร้านไม่รับผิดชอบ แบบนี้จะทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจ หรือบางครั้งอาจจะบอกต่อ เกิดเป็นภาพลักษณ์ในแง่ลบให้กับร้าน
7. หลอกลวงหรือจงใจให้เกิดความเข้าใจผิด
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะสามารถมัดใจลูกค้าได้ คือความซื่อสัตย์และจริงใจกับลูกค้า ซึ่งบางธุรกิจเวลาทำการตลาดมักชอบจัดโปรโมชันแบบหนักหน่วง บางครั้งถึงขั้นจงใจให้ข้อมูลเพียงครึ่งเดียวกับลูกค้า เช่น ทางร้านจัดโปรโมชัน ซื้อ 1 แถม 1 แต่ไม่ได้บอกลูกค้าว่ามีเงื่อนไขเฉพาะสินค้าราคา 300 บาทขึ้นไป ทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น แม้ลูกค้าจะเข้าร้านเยอะก็จริง แต่ไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับพวกเขา ตรงกันข้ามกลับสร้างความไม่พอใจ และสร้าง first impression ที่ไม่ดีไปแล้ว ที่แย่ที่สุดคืออาจสร้างภาพพจน์ติดลบให้กับธุรกิจของคุณอีกด้วย
บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้
TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก