สมาธิบำบัด โรคเครียด ได้อย่างไร

เนื่องจากสภาวะทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งมลพิษ การทำงานที่ต้องแข่งขัน สุขภาพ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา มนุษย์เราจึงต้องพร้อมรับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามา เพื่อการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ซึ่งในปัจจุบัน พบว่า "ความเครียด" หรือ "โรคเครียด" กำลังแทรกซึมเข้ามาในวิถีชีวิต เหล่ามนุษย์เงินเดือน ผู้ประกอบกิจการทั้งหลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"โรคเครียด" เป็นโรคชนิดหนึ่งที่เกิดจากการที่จิตใจได้รับผลกระทบจากเรื่องราวหลายๆ เรื่อง จนสะสมกลายเป็นความวิตกกังวล แต่ไม่สามารถปลดปล่อยหรือบำบัดได้อย่างถูกวิธี ทำให้เกิดปัญหาต่อตัวเอง และผลกระทบข้างเคียงต่อคนรอบข้าง ซึ่งในปัจจุบัน อัตราการเกิดภาวะ "โรคเครียด" ยิ่งนับวันเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การเรียนรู้วิธี การทำสมาธิบำบัดโรคเครียด เหล่านี้ด้วยตัวเอง จะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีความสุข

การทำสมาธิ  คือ การชำระจิตใจให้ผ่องใส ไม่มีเรื่องราวที่เป็นความวิตกกังวลค้างอยู่ในสมองของเรา อันเกิดจากการไม่ยึดติดกับเรื่องราว หรือเรียกว่าการปล่อยวาง ทำให้เรารู้สึกมีสภาพจิตใจที่ปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย ผลที่เกิดจากการทำสมาธิ คือ ผิวพรรณสดใส อิ่มเอิบ เพราะการที่เราไม่มีความวิตกกังวล ทำให้ระบบการทำงานในร่างกายของเรา ทำงานได้อย่างสมดุลโดยเฉพาะระบบการไหลเวียนในร่างกาย

1. ในระยะแรกๆ คุณอาจจะหามุมไหนสักแห่งในบ้านที่มีบรรยากาศเงียบสงบ เพื่อลดสภาวะที่วุ่นวายรบกวนจิตใจ
2. กำหนดลมหายใจ โดยการหายใจเข้าออกลึกๆ ปล่อยวางกับเรื่องราวที่อยู่หรือค้างในหน่วยความจำ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ  ประมาณ 5-10 นาที หรือจนรู้สึกว่า สบายใจและกาย ไม่มีเรื่องราวใดๆ มากระทบจิตใจ
3. สำหรับคนที่ไม่มีเวลามาก อาจใช้วิธีกำหนดลมหายใจขณะเดิน เพราะชีวิตประจำวันของเราต้องเดินไปมาอยู่แล้ว การกำหนดลมหายใจขณะเดิน  หรือที่เราเรียกว่า  การเดินจงกลม

การปฎิบัติแรกๆ คุณอาจจะรู้สึกอึดอัด ไม่สบายเนื้อสบายตัว แต่เมื่อฝึกทำไปเรื่อยๆ จะรู้สึกสบายและผ่อนคลาย สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ด้วยสติ และยังช่วยให้สุขภาพภาพจิตเราดีขึ้นอีกด้วยอย่างที่รู้กันว่า ปัญหาสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มีส่วนทำให้เราอยู่กับผู้อื่นค่อนข้างลำบากและเมื่อประสบณ์ปัญหาในชีวิตทำให้หลายคนแก้ปัญหาอย่างขาดสติ เป็นผลทำให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวและคนที่เรารักได้