ทุกๆวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันที่พวกเราต่างรู้กันว่าเป็นวัน Halloween ซึ่งเมื่อพูดถึงวันนี้หลายๆคนคงนึกถึงเรื่องราวเกี่ยวกับผี และความตาย วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า 5 สถานที่ร้างทั่วโลกมีที่ไหนกันบ้างที่ถึงแม้จะแอบน่ากลัวแต่เราก็อยากลองไปเยือนสักครั้ง




North Brother Island, New York เกาะเล็กๆใน New York บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ East ระหว่าง Bronx และเกาะ Rikers โดย North Brother Island นั้นแต่ก่อนเคยเป็นโรงพยาบาลในช่วงปี 1880s ถึง 1930s ซึ่งครั้งนึงได้รักษาคนไข้มากมายที่ป่วยเป็นโรคติดต่อรุนแรงเช่นโรงผื่นในเด็ก ไข้รากสาดใหญ่ ไข้ทรพิษ และโรคเรื้อน และเป็นที่ๆ ”Typhoid Mary” ผู้หญิงคนแรกที่มีเชื้อ ไทฟอยด์ ในประวัติศาสตร์อเมริกาถูกกักตัว และตายที่นี่ แม้เรื่องราวของสถานที่จะดูไม่น่าเข้าใกล้ แต่สถานที่นี้ก็เชิญชวนให้หลายๆ คนอยากเข้ามาสัมผัสสักครั้งอยู่ดี




Pripyat, Ukraine Pripyat คือเมืองที่ผลิตนิวเคลียร์อันดับที่ 9 ในสหภาพโซเวียตซี่งปัจจุบันอยู่ตอนเหนือของประเทศยูเครน โดยเป็นเมืองของคนงานที่ส่วนใหญ่ทำงานที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ในปี 1986 ประชาชนกว่า 50,000 คนได้ทิ้งเมืองนี้แล้วอพยพจากเหตุการณ์ภัยพิบัติเชอร์โนบิล ที่แกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้หลอมละลาย และระเบิดขึ้น จนทำให้เกิดขี้เถ้าปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีพวยพุ่งขึ้นสู่บรรยากาศครอบคลุมพื้นที่ในยุโรปหลายประเทศ จนทำให้ต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่อย่างฉุกเฉิน โดยของอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที่ 31 ราย และส่งผลกระทบระยะยาวเช่นโรคมะเร็งจากการสัมผัสกัมมันตรังสี ในปัจจุบันเมืองนี้ยังคงร้าง โดยหลายๆคนให้ความสนใจด้วยความที่ตึกต่างๆยังคงอยู่ในยุคปลายของโซเวียต รวมไปถึงข้าวของที่ถูกทิ้งไว้ภายในที่ยังคงแสดงเรื่องราวของยุคนั้นได้อย่างดี




Hashima Island, Japan เกาะชวนหลอนนอกชายฝั่งนางาซากิของประเทศญี่ปุ่นถูกทิ้งร้างไว้กว่า 40 ปี โดยถูกซื้อเพื่อทำขุดเหมืองถ่านหินใต้ทะเลโดยบริษัทมิตซูบิชิในปี 1890 หลังจากนั้นทางบริษัทได้ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยขึ้นโดยอาคารดังกล่าวเป็นอพาร์ทเมนท์สูง 9 ชั้น ด้วยเทคโนโลยีคอนกรีตเพื่อให้สามารถต้านภัยธรรมชาติอันรุนแรงอย่างใต้ฝุ่นได้ ซึ่งอพาร์ทเมนท์แห่งนี้ได้ถูกบันทึกให้เป็นอาคารคอนกรีตขนาดใหญ่แห่งแรกในญี่ปุ่นอีกด้วยจนกระทั่งปี 1974 เหมืองนี้ก็ถูกปิดลงพร้อมการอพยพออกไปของผู้คน ด้วยความที่เกาะแห่งนี้ได้ถูกละทิ้งไว้โดยยังคงสภาพอาคารไว้อย่างดี รวมไปถึงมีข้าวของเมื่อครั้งยังมีคนอาศัยอยู่ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศชวนขนลุกพอตัว ในเวลากลางคืนหลายๆคนบอกว่าพบเห็นร่างแปลกๆโผล่ออกมาแถวหน้าต่างของอาคาร รวมไปถึงเรือที่ผ่านไปมายังเห็นแสงแปลกๆแลบออกมาจากซากของตึก นอกจากนั้นมีรายงานจากคนที่มาที่เกาะนี้ว่าเจอลมเย็นลึกลับ หรือความรู้สึกของการถูกสัมผัสหรือตบด้วยมือที่มองไม่เห็นอีกด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อ ก.ค. 2015 ที่ผ่านมาเกาะแห่งนี้ได้รับการยอมรับจาก UNESCO World Heritage site ให้เป็นบริเวณที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของญี่ปุ่นในยุคยุคปฎิรูปเมจิสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรมในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20




SAN ZHI: a futuristic resort, Taiwan SAN ZHI หรือที่หลายๆคนเรียกว่า “บ้าน UFO” อยู่ทางตอนเหนือของไต้หวันถูกสร้างขึ้นในปี 1978 เป็นรีสอร์มหรูโดยคาดว่าเป็นที่พักผ่อนของทหารอเมริกัน แต่โครงการได้ถูกระงับลงในปี 1980 เนื่องจากขาดสภาพคล่องในการลงทุน และอุบัติเหตุทางรถยนต์ รวมไปถึงมีการฆ่าตัวตายเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งว่ากันว่าเกิดจากอาถรรพ์ ของการตัดถนนเข้าไปในโครงการที่ไปกระทบถูกแยกรูปปั้นมังกรจีนที่อยู่ใกล้กับประตูของรีสอร์ท บางกลุ่มเชื่อกันว่าเกิดจากการก่อสร้างบนที่ที่ฝังศพของทหารชาวดัตช์ แต่ก็มีคนลือกันว่ามันเป็นเพราะผีของคนที่ตายที่นี่ที่คอยหลอนรีสอร์ทนี้ จนทำให้ที่นี่กลายเป็นอาคารร้างจนถูกรื้อทิ้งในที่สุดในปี 2010




Villa Epecuén, Argentina ย้อนกลับไปในปี 1920s, เมืองรีสอร์ท Villa Epecuén ถูกสร้างขึ้นบริเวณแนวชายฝั่งของ Lago Epecuen (ทะเลสาบเกลือ) ซึ่งได้รับความนิยมมากหลายสิบปี มีคนอาศัยถึง 5,000 คน จนกระทั่งมีฝนตกหนักเป็นเวลานานจนทำให้ปริมาณน้ำในทะเลสาบมากขึ้นเรื่อย และในที่สุดน้ำได้ล้นเขื่อนดินจนเข้าท่วม Villa Epecuén อย่างช้าๆจนกระทั่งน้ำท่วมสูงถึง 10 เมตรในปี 1993 25 ปีต่อมาในปี 2009 ระดับน้ำเริ่มลดลง ร่องรอยของความทรงจำก็เริ่มกลับมาแต่อาจเพียงแค่ชั่วคราว จนถึงน้ำท่วมครั้งต่อไป หวังว่าสถานที่เหล่านี้จะพอเป็น wish list สำหรับทริปต่อไปของคุณได้ จริงๆแล้วยังมีอีกหลายที่มากๆที่ยังคงถูกทิ้งให้รกร้างแต่เต็มไปด้วยเรื่องราว เราแค่อยากจะบอกว่าถ้าคุณมีโอกาสได้ไป อย่าไปคนเดียวเลยนะครับ…

Writer : Narith Kettong

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก :