ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านธุรกิจศูนย์การค้าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน มั่นใจ “เทศกาลปีใหม่ 59” จะเป็นจุดเสริมความคึกคักให้แก่ธุรกิจ และจะต่อเนื่องการเติบโตต่อไปตลอดปี 2559 เตรียมทุ่มงบการตลาดกว่า 500 ล้านบาท สร้างสรรค์กิจกรรมตลอดปีรับการฟื้นตัวของตลาด คาดปี 2559 กวาดรายได้กว่า 2,500 ล้านบาท นายณภัทร เจริญกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด ในเครือกลุ่มทีซีซีแลนด์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ มีศูนย์การค้าที่อยู่ในการดูแลรวม 5 แบรนด์ ประกอบด้วย เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, เกตเวย์, เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์, พันธุ์ทิพย์ และบ็อกซ์ สเปซ รวมมูลค่าโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จากปัจจุบันจนถึงปี 2562 บริษัทฯ ได้วางแผนขยายการลงทุนด้านธุรกิจรีเทลรวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท “ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เราจะเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการพัฒนาแบรนด์ เกตเวย์ เพิ่มขึ้นอีก 1-2 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามมาด้วยการพัฒนา เอเชียทีค ในทำเลใหม่รวม 6 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต สมุย และขยายเอเชียทีคเจริญกรุง เฟส 2 โดยในแต่ละแห่งของเอเชียทีคจะมีธุรกิจโรงแรมประกอบอยู่ด้วย นอกจากนี้เราจะทำการปรับปรุงพันธุ์ทิพย์ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ประตูน้ำ งามวงศ์วาน บางกะปิ และเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จในช่วง 2 ปีข้างหน้า รวมถึงการพัฒนาแบรนด์ บ๊อค สเปซ ในอีก 3-4 ทำเลทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และหากดำเนินไปตามแผนดังกล่าวจะทำให้พื้นที่รีเทลของกลุ่มสามารถสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า” นายณภัทร เจริญกุล กล่าว ทั้งนี้ ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ เชื่อมั่นว่า ภาพรวมธุรกิจศูนย์การค้าของไทยในช่วงปลายปีนี้จะเริ่มดีขึ้น และหากมองไปในช่วงปี 2559 ภาพรวมจะสดใสขึ้นอย่างแน่นอน เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์... ปลื้มนักท่องเที่ยวเพิ่มกว่า 20% เตรียมงานยักษ์เคานท์ดาวน์ปีใหม่รับคาดดูดนักท่องเที่ยวได้กว่าแสนคน นายมานพ คำสว่าง ผู้จัดการทั่วไป เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมของเอเชียทีคในปี 2558 อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนสิงหาคมตัวเลขนักท่องเที่ยวสูงขึ้นกว่าปี 2557 ถึง 20% ด้วยการวางแผนงานที่มีประสิทธิภาพที่สามารถรองรับสถานการณ์ภายในประเทศที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมามากขึ้น


และคาดว่าจะกลับมาครบ 100% ในเดือนธันวาคมนี้ ที่เป็นช่วง Festival ของเอเชียทีค ซึ่งในช่วงปี 2558 นี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวในทวีปเอเชียเข้ามากขึ้น โดย 3 อันดับแรกได้แก่ นักท่องเที่ยวจากไต้หวัน, จีน และฮ่องกง และที่น่าจับตาคือกลุ่ม นักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซียที่มีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ ในช่วงของ High Season เอเชียทีคได้มีแผนการจัดงาน ICONIC Event ต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อีกทั้งการมุ่งเน้นการกระตุ้นด้าน Shopping เพื่อส่งเสริมความเป็น Night Market ภายใต้ Slogan : Your Night Shopping Destination “เนื่องจากเอเชียทีคได้เปิดให้บริการมา 4 ปีแล้ว จึงต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์กับ Trend ของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้า Gen Y เอเชียที่มี Life Style การแต่งตัวคล้ายคลึงกัน จึงได้ปรับโฉมของโกดัง 5 7 8 9 ให้มีความทันสมัยและสะท้อนความเป็น Fashion มากยิ่งขึ้น ภายใต้ชื่อ URBANO ที่มี Concept : New Era of Urbanista และ Gimmick : Friday Night ที่จะทำทุกวันของคุณให้เป็นวันศุกร์ ซึ่งใน URBANO Zone นี้จะประกอบไปด้วยร้านค้าที่เป็น Stylist ,Identity, Customize, Selective และ Community เปิดตัวไปเมื่อ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา และได้รับผลรับที่ดีจากลูกค้า ทำให้โครงการฯมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น โดยได้มีแผนการจัด Campaign Urbano Grand Sale ลดกันทั้ง Zone เอาใจเหล่า Urbanista และแจกกันไปเลยกับตั๋วเครื่องบินทั้ง Domestic และ International Flight ไม่ระบุเส้นทางเพียงใช่ส่วนลดผ่าน ASIATIQUE Plus และที่สำคัญกิจกรรมที่ถือเป็นไฮไลท์ที่สุดของเอเชียทีคก็คือ งาน Asiatique Thailand Countdown 2016 ที่จะถึงนี้ ในปีนี้เอเชียทีคต้องการสร้างความแปลกใหม่เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ Countdown ครบทุกรสชาติ ภายใต้ Concept : Life Never Stop โดยนำเอารูปแบบการจัดงานแบบ EDM Style มา Mixed & Match เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้า Gen Y และกลุ่ม Family ทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งท่านจะได้พบกับ Monkey Cute Landmark Balloon ,การแสดง Finale Show “Light of your life ” โดยใช้ 3 เทคนิคพิเศษที่ผสมผสานอย่างลงตัวและตระการตา และที่ขาดไม่ได้กับเหล่าศิลปินดาราเกือบครบทุกค่ายที่ยกขบวนกันมาสร้างความสุขความสุขตลอดทั้งคืน อาทิเช่น Slot Machine, แตงโม ตุ๊กตา นนท์จาก The Voice, ซานิ จาก AF, ศิลปินมาแรงแนว EDM อย่าง Boom Boom Cash และ 5 หนุ่มจาก The Star ที่จะมาส่งมอบความสุขข้ามปีให้กับทุกคน” นายมานพ คำสว่าง กล่าว เกตเวย์ เอกมัย...ปรับโฉมใหม่ดึงกำลังซื้อเพิ่ม เดินหน้าเปิดโซนใหม่ ทุ่มงบจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายรับปีใหม่ นายฤทธิชัย เวียตตัน ผู้จัดการทั่วไป เกตเวย์ เอกมัย เปิดเผยว่า หลังจากปรับโฉม เพื่อเติมเต็มสไลฟ์สไตล์ของคนเมืองให้มากยิ่งขึ้น ศูนย์ฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งลูกค้าที่เป็นผู้เช่า ที่ให้ความสนใจลงทุนเปิดร้านในพื้นที่ และลูกค้าที่เป็น Shopper ที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความเฉียบคมในการคัดสรรผู้เช่าเข้ามาเพิ่มชีวิตชีวาภายในศูนย์ อาทิ Snow Town Bangkok ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จนกลายเป็นแหล่งสร้างความสุขแห่งใหม่ของครอบครัว นอกจากนี้ยังมีโซนใหม่ๆ เกิดขึ้น เพื่อเติมเต็มทุกความต้องการ อาทิ โซนแฟชั่นสุดฮิปอย่าง Urbano ที่มีการผสมผสานระหว่างแฟชั่น และศิลปะได้อย่างลงตัว และล่าสุดได้เปิดโซนสินค้า IT ภายใต้ชื่อ Tech Life เพื่อเติมเต็มชีวิตใน โลกเทคโนโลยีให้มากขึ้น และในเดือนธันวาคมนี้ จะเตรียมที่จะเปิดโซนจำหน่ายของสด อาทิ ผัก และผลไม้ ซึ่งจะคัดสรรร้านค้าระดับพรีเมี่ยม เพื่อเติมเต็มความต้องการของพ่อบ้านและแม่บ้านให้ได้เลือกซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ ในช่วงเวลาของการมอบความสุขและเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่นั้น เกตเวย์ เอกมัยจะมีกิจกรรมดีๆ ต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่งานขนมนานาชาติ 19-24 พ.ย. เนรมิตลานกิจกรรมชั้น M ให้เต็มไปด้วยร้านขนม พบกับการประดับตกแต่งด้วยขนมจริง อิ่มอร่อยได้ทั้งครอบครัว สนุกไปกับกิจกรรม และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังและ Meet & Greet ไปกับศิลปิน อีกหนึ่งงานใหญ่น่าสนใจแฟนคลับการ์ตูนทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ กับงาน Dream Toy Hobby Showcase การแสดงสินค้า Action Figure จากซีรี่ย์ดัง อาทิ Tamashii Nation, Banpresto, Magahouse พร้อมด้วยเหล่า Gunpla สุดฮิตที่จะนำมาโชว์พร้อมจำหน่ายในราคาพิเศษ และพบกับการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ ที่จะมาเผยโฉมและจำหน่ายให้ได้เป็นเจ้าของเป็นครั้งแรกในงานนี้ “เพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง เราจึงได้มีการประดับตกแต่งศูนย์ฯ ในโซนต่างๆ ภายใต้แนวคิด “ร่วมเดินทางตะลุยเมืองหิมะไปกับน้องหมีแฟนซีสุดน่ารัก” ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้กับลูกค้าได้ทั้งครอบครัว และส่งท้ายกับอีกหนึ่งแคมเปญที่ถือเป็นการส่งมอบความสุขข้ามปีครั้งยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่อกิจกรรม Urban Happiness 2015 @Gateway Ekamai ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคม นี้ พบกับการลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ทั้งศูนย์สูงสุดถึง 80% ร่วมสนุกกับกิจกรรมภายในงาน ลุ้นเป็นผู้โชคดีรับของรางวัลใหญ่ และเอาใจลูกค้าขาช้อปสุดๆ เมื่อซื้อสินค้าภายในศูนย์ฯ รวมมูลค่าบิลใบเสร็จครบ 2,500 บาท รับคูปอง Cash Back มูลค่า 500 บาท ซึ่งจะแจกเพียงแค่ 10 วันแรกเท่านั้น และหากซื้อสินค้าครบ 3,500 บาท รับฟรีทันที ตุ๊กตาหมีลิขสิทธิ์แท้จาก Limited Edition Teddy Bear By Teddy House ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 1,000 ตัว เท่านั้น พิเศษ 25-27 ธันวาคมนี้ จะได้พบกับดาราและเซเลริตี้ชื่อดัง พร้อมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นแนวหน้าของเมืองไทยโดยในปีหน้าเตรียมพบกับอีกหนึ่ง Magnet ก็คือ Flight Experience และ Siam Miniature ที่เชื่อว่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่ง Edutainment ที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และครอบครัว ซึ่งอยากให้ทุกท่านได้ติดตามกัน” นายฤทธิชัย เวียตตัน กล่าว เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์...พร้อมปลุกชีวิตชาวสยาม เพราะความเป็นวัยรุ่นมีอยู่ในตัวตนทุกคนเสมอ นางสาวเปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ ผู้จัดการทั่วไป เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ปรับโฉมเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มวัยรุ่นและ first jobber ได้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯจำนวนมากในฐานะแหล่ง hang out แห่งใหม่ใจกลางสยามสแควร์ สืบเนื่องจากที่ เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ได้รวมเอาร้านค้าไลฟ์สไตล์ชื่อดังระดับประเทศและระดับโลกมาไว้ในที่เดียว อาทิ B.duck เป็ดสีเหลืองสัญชาติฮ่องกง ที่มาเปิดตัวในรูปแบบของคอนเทนเนอร์ B.Duck Café สาขาแรกนอกเกาะฮ่องกง Glowfish : Premium service office ที่ดีพร้อมครบ ครันที่สุดในประเทศไทย Innisfree : Flagship store เครื่องสำอางจากดินแดนเกาหลี ที่เน้นความเป็นกรีน ธรรมชาติ รักษา สิ่งแวดล้อม เป็นสาขาที่ครบครับและประสบความสำเร็จที่สุด True : ที่ลงทุนปรับโฉมใหม่ทั้งหมด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Journey“ โดยมีการออกแบบด้านหน้าอาคารที่สวยงามสะดุดตา “ในส่วนของกิจกรรมพิเศษช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ได้จัดกิจกรรมเอาใจนักช้อปด้วยแคมเปญ Surprising bag เพื่อเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 2015 ตลอดเดือนธันวาคม ด้วยมหกรรมลดราคาทั้งศูนย์สูงสุด 70% เพียงช้อปภายในศูนย์ฯ ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับถุง Surprising bag ที่มีของรางวัลมากมายรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท พิเศษ 24 ธันวาคมนี้ ร่วมสนุกกับมินิคอนเสิร์ตจากฮั่นเดอะสตาร์และเหล่าดาราจาก Love Sick เพื่อร่วมแจกถุง Surprising Bag ให้แก่ผู้โชคดี พร้อมโชว์จากเหล่าดีเจ นักร้องประสานเสียง มินิคอนเสิร์ต ทุกเสาร์-อาทิตย์ตลอดเดือนธันวาคมนี้” นางสาวเปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ กล่าว บ็อกซ์ สเปซ...จากตู้คอนเทนเนอร์สู่คอมมิวนิตี้ มอลล์ รูปแบบใหม่ “ไลฟ์สไตล์ โซเชี่ยล คอมมิวนิตี้” นาย ศุภเดช เลิศพยับ ผู้จัดการทั่วไป บ็อกซ์สเปซ เปิดเผยว่า ศูนย์การค้า Box Space เกิดจากแนวความคิดอยากให้มี Community Mall ที่เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของคนเมืองลักษณะ Outdoor ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบ Lifestyle social community โครงการ Box Space เน้น Concept Vibrant Box คือการนำตู้คอนเทนเนอร์มาใช้เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในโครงการแบ่งพื้นที่เป็นทั้งหมด 3 โซน คือโซน Market Weekend, Plaza Zone และ Hangout Zone โดยโครงการได้สรรหาร้านค้าเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน “บ็อกซ์ สเปซ ได้รวมร้านค้าภายในไว้มากมาย โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ อาทิ Market Weekend โซนสินค้าที่ตอบโจทย์ขาช็อปทั้งชายและหญิง โดยจะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสินค้าที่อยู่ในกระแสหรือความสนใจในช่วงเวลานั้นๆ เช่น ตลาดอาหาร สำหรับนักชิม, ตลาดเสื้อผ้า สำหรับผู้ชื่นชอบแฟชั่นนิสต้า, ตลาด Indy สำหรับผู้ที่ต้องการความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เป็นต้น Plaza Zone ภายในโซนจะประกอบด้วยร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านเสื้อผ้า ร้านจำหน่ายสินค้า Accessories ต่างๆ Hangout Zone โซนที่โครงการต้องการให้เป็นจุดนัดพบ หรือแหล่งพบปะสังสรรค์แห่งใหม่ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าจากสำนักงาน, กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา,กลุ่มที่พักอาศัยในแนวพื้นที่จตุจักร, รัชดา และลาดพร้าว โดยกำหนดเปิดตัวบ็อกซ์ สเปซ รัชโยธิน อย่างเป็นทางการในต้นปี 2559 โดยจะใช้เป็นต้นแบบเพื่อนำไปสู่โครงการ ซึ่งมีพื้นที่เกือบ 40 ไร่ ติดริมแม่น้ำ โดยแผนกิจกรรมระหว่างปีจะเน้นหนักไปที่กิจกรรมที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพื่อสร้างให้ลูกค้าเกิดการรับรู้ในแบรนด์และกระตุ้นให้ลูกค้าอยากเข้ามาใช้บริการ และเกิดเป็นกระแส Talk of the town talk of Box Space โดยชูความแตกต่างจากศูนย์การค้าฯ อื่นๆ ในเครือ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนเมืองที่มีชีวิต Social Community และ Night Life” นาย ศุภเดช เลิศพยับ กล่าว
พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ... “เทคไลฟ์ มอลล์” สนองไฮเทคโนโลยีไลฟ์สไตล์แบบครบครัน แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย นายวีรฤทธิ์ สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ เปิดเผยว่า ปัจจุบันแนวคิด Internet of Things เป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าแต่ก่อน อุปกรณ์ดีไวซ์ต่างๆ พยายามเชื่อมโยงกับ Community โดยอาศัยสิ่งที่เรามีอยู่ประมาณ 4,000 ล้านชิ้น ในปี 2020 คาดว่าจะเชื่อมต่อถึง 25,000 ล้านชิ้น พันธุ์ทิพย์จึงได้นำแนวคิดดังกล่าวมาพัฒนาต่อยอด โดยเริ่มจาก การปรับปรุงอาคาร ซึ่งจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า โดยในปี 2559 พันธุ์ทิพย์พร้อมจะก้าวต่อไปภายใต้แนวคิด 3 words คือ FUN, TRUST และ Tech Life โดยเราจะเพิ่มส่วนผสมสินค้าให้มีความหลายหลายเพิ่มมากขึ้น อาทิ Gaming Zone ซึ่งเป็น Trend ความสนุกในโลกเสมือนซึ่งนับวันยิ่งตอบสนองความต้องการเหมือนเป็นส่วนประกอบของชีวิตประจำวัน Startup Business Zone สำหรับนักคิดที่เป็นวัยรุ่น ผู้ที่อยากสร้างสรรค์งานจาก idea ของตนเอง หรือ บริษัท ที่ต้องการ R&D ใหม่ๆในการพัฒนา Product สินค้าของตนเอง Co-working space Zone เป็นคำตอบของธุรกิจ Startup ซึ่งมีจุดแตกต่างเรื่อง Share resource Knowledge นักคิดรุ่นใหม่ ต้องการเอาตัวเองไปอยู่ที่ๆ มี Inspiration เพื่อสร้างสรรค์งานของตัวเองออกมา หรือได้รับคำแนะนำใหม่ๆ จากกลุ่มนักคิดเดียวกัน Smart Office Zone ก็เป็นส่วนสำคัญในปัจจุบันมากๆ เนื่องจากดีไวซ์ต่างๆ ที่มีความสามารถที่จะเชื่อมต่อเป็นโซลูชั่นที่สามารถทำให้ชีวิตการทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น Handy Man Zone เป็นพื้นที่ใหม่สำหรับการบริการงานซ่อมสินค้าเทคโนโลยี โดยปัจจุบันช่างซ่อมของเรามีความชำนาญพิเศษในการบริการงานซ่อมให้กับลูกค้าในวงกว้าง ด้านการเตรียมความพร้อมในการเผยโฉมครั้งใหม่อย่างเป็นทางการของพันธุ์ทิพย์ในช่วงกลางปี 2559 นั้น นายวีรฤทธิ์ สมบูรณ์ทรัพย์ กล่าวเสริมในประเด็นดังกล่าวว่า “ในปีหน้าพันธุ์ทิพย์ จะเป็นสถานที่ๆ ทุกคนที่ชื่นชอบ Technology จะต้องมา โดยเราจะมี Show Case Innovation Content สร้างประสบการณ์ร่วมกัน จาก Google, Event ร่วมกับค่ายเกม ทั้ง Online และ Offline, Men World (Hobby Man),กลิ่นไอของพันธุ์ทิพย์เดิม สอดแทรกจาก IT Old fashioned style ใน Zone Retro Town, Techno Concierge เป็นการปรับปรุงบริการของพันธุ์ทิพย์อย่างก้าวกระโดด อาทิเช่น ห้องน้ำใหม่ การบริการข้อมูลโดย GURU ศูนย์รวมข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการบริการอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายเกินกว่าความคาดหวังของลูกค้าอยู่เสมอ”