อีกแล้ว! โซเชียลปล่อยข่าวเก่ารอบ 3 ลือ "อียู" คว่ำบาตรไทยทุกด้านจนกว่าจะเลือกตั้ง "สมคิด" ออกโรงปราม แต่ไร้ผล ฉุดหุ้นไทยร่วง 18 จุด หนักสุดในภูมิภาค "เกศรา" รับจัดงานไทยแลนด์ โฟกัสช่วงเดือน ธ.ค.เหงาเหตุนักลงทุนเตรียมหยุดทำการ

หุ้นไทยเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2558 ดัชนีผันผวนตลอดวัน แม้ช่วงเช้าจะบวกตามแรงดันจากหุ้นพลังงาน และการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มใหญ่ แต่ภาคบ่ายดัชนีกลับร่วงหนักตามกระแสข่าวลือที่ส่งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่าสหภาพยุโรป (อียู) คว่ำบาตรไทยทุกด้าน จนกว่าไทยจะเดินหน้าเลือกตั้งสำเร็จ อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบพบว่าข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องเก่าที่นำมาปล่อยข่าวลือเป็นรอบที่ 3 นับจากวันที่ 26 ก.ย.2558 ที่ผ่านมา ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนว่า อย่าไปเชื่อข่าวลือ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,339.45 จุด ลดลง 17.56 จุด ซึ่งลดลงต่ำกว่าแนวต้านที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ที่ 1,340 จุดในรอบนี้ โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 37,211.05 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 18.77 ล้านบาท กองทุนขายสุทธิ 500.38 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,763.89 ล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 2,245.51 ล้านบาท นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่าหุ้นไทยปรับลดลงมากที่สุดในภูมิภาค เพราะมีปัจจัยลบมากกว่าประเทศอื่นและขาดข่าวดีเข้ามาสนับสนุน ทำให้นักลงทุนสถาบันต่างชาติปรับพอร์ตลดการถือครองหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา กดดันหุ้นใหญ่ร่วงหนัก ทั้งนี้ ดัชนียังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยแนะนำนักลงทุนให้รอจับตาปัจจัยใหม่ ได้แก่ การประชุมองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) และการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีโอกาสผลักดันให้ดัชนีดีดตัวกลับได้บ้างพอสมควร ประเมินแนวต้านอยู่ที่ 1,350 จุด และแนวรับ 1,330-1,340 จุด นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การจัดงานไทยแลนด์ โฟกัส ปีนี้ มีนักลงทุนเข้าร่วมงานกว่า 400 ราย โดยแบ่งเป็นนักลงทุนสถาบันจากทั่วโลก 80 ราย ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนที่มีถึง 116 ราย เนื่องจากในช่วงเดือน ธ.ค.ใกล้วันหยุดเทศกาล ส่งผลให้หลายบริษัทในต่างประเทศเริ่มเตรียมตัวหยุดทำการ แต่นักลงทุนที่เข้าร่วมถือว่ามาจากบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียง โดยมีการดูแลมูลค่าสินทรัพย์รวม 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่มาจากตลาดหลักอย่างฮ่องกง และสิงคโปร์ ทั้งนี้ ตลท.ได้นำบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยจำนวน 100 บริษัท จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เข้านำเสนอทิศทางธุรกิจและศักยภาพบริษัท ในลักษณะการประชุมแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวกว่า 950 ครั้ง น.ส.อรกัญญา พิบูลธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่สาขาประเทศไทย ธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินซ์ กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่มีความสนใจใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความคืบหน้าของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ภาคการท่องเที่ยวที่หลังจากมีทัวร์จากจีนเพิ่มขึ้นกว่า 100% และการเจริญเติบโตของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ขณะที่กองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ฟันด์ อาจยังเป็นเรื่องที่ใหม่ แต่มีการสอบถามเรื่องรูปแบบกองทุนเข้ามาบ้างพอสมควร.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก :

ขอบคุณข้อมูลจาก :