ชี้ราคารถใหม่ขึ้นไม่เกี่ยวกับภาษี คลังแจงส่งผลแค่ 3-5% วอนประชาชนเข้าใจ
คลังวอนประชาชนเข้าใจภาษีรถยนต์ใหม่ไม่ส่งผลกระทบราคาขาย ระบุภาษีขยับเพิ่มแค่ 3-5% ด้านสรรพสามิตยิ้มรายได้พุ่ง 8 พันล้านบาท ขณะที่แผนยกเครื่องภาษีคืบหน้า 80%
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการจัดเก็บภาษีรถยนต์จากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2559 ว่า การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ที่จัดเก็บจากการวัดการปล่อยมลพิษ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคารถยนต์มากนัก เนื่องจากอัตราภาษีเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผู้ประกอบการนำไปกำหนดราคารถยนต์แต่ละรุ่น และกรมสรรพสามิตคงไม่ต้องเข้าไปตรวจสอบราคาขาย เพราะรถยนต์ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ โดยเชื่อว่าตลาดรถยนต์จะเกิดการแข่งขันและประชาชนที่เป็นผู้บริโภคก็จะเป็นผู้ตัดสินเลือกซื้อรถยนต์ต่างๆ
“กรมสรรพสามิตคาดว่าอัตราภาษีดังกล่าวจะทำให้ราคารถยนต์เพิ่มขึ้นประมาณ 3-5% แต่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ผู้ประกอบการใช้กำหนดราคาเท่านั้น เพราะยังมีค่าการตลาด และนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาร่วมด้วย โดยเชื่อว่าตลาดรถยนต์จะเกิดการแข่งขันกันเอง ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูแล ซึ่งผู้บริโภคและสังคมสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว ว่าราคาที่เพิ่มขึ้นเหมาะสมกับการเลือกซื้อหรือไม่”
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนงานปฏิรูปโครงสร้างภาษี ขณะนี้ทำไปแล้วกว่า 80% โดยในที่ประชุมได้สั่งให้ 3 กรมภาษี ทั้งกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร กลับไปทำรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้าง ทั้งประเภทของภาษี อัตราและระยะเวลาในการจัดเก็บ ก่อนนำมาเสนอที่ประชุมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากมีความชัดเจนคาดว่าจะเสนอให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พิจารณาได้ภายในเดือนนี้ และคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบได้ภายในต้นเดือน ม.ค.2559
ทั้งนี้ ต้องมีการพิจารณาถึงทิศทางเส้นทางรายได้และรายจ่ายของรัฐบาล ภายหลังการปรับโครงสร้างภาษีในช่วง 10 ปีหลังจากนี้ โดยในส่วนของรายได้ควรมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากภาษีขยายตัวได้เพียงปีละ 5-6% เท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับรายจ่ายที่อยู่ในระดับสูง
ด้านนายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมเปิดเว็บไซต์ a href="http://www.car.go.th" target="_blank">www.car.go.th ที่รวบรวมข้อมูลของรถยนต์แต่ละรุ่นและแต่ละยี่ห้อ ซึ่งจะอธิบายถึงอัตราภาษีของรถยนต์แต่ละรุ่น โครงสร้างภาษีและข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์ ทั้งเครื่องยนต์ การปล่อยมลพิษ เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีรถยนต์ใหม่ ที่เปลี่ยนจากที่วัดประเภทและขนาดความจุเครื่องยนต์ เป็นการวัดจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) นั้น จะทำให้แนวโน้มการจัดเก็บรายได้จากภาษีรถยนต์เพิ่มขึ้นประมาณ 7-8 พันล้านบาท จากคาดการณ์การจำหน่ายรถยนต์นั่งภายในประเทศปีนี้ อยู่ที่ 7 แสนคัน และในปี 2559 อีกประมาณ 8 แสนคัน
ทั้งนี้ ยอมรับว่าภาษีรถยนต์ใหม่จะมีผลกับรถยนต์นั่งขนาดกลาง เครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,800-2,000 ซีซี เป็นหลัก โดยอัตราภาษีจะมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมไม่เกิน 5% ขณะที่รถยนต์ในกลุ่มอีโคคาร์ และรถซูเปอร์คาร์ อัตราภาษียังอยู่เท่าเดิม โดยขณะนี้รถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ จำนวน 677 รุ่น ได้มีการส่งให้สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจสอบค่าการปล่อยก๊าซ Co2 เรียบร้อยแล้ว และส่งรายละเอียดทั้งหมดมาให้กรม เพื่อพิจารณาจัดอัตราภาษีตามประเภทและตามค่าการปล่อยก๊าซดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ส่วนรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้น ก็ต้องดำเนินการในลักษณะเดียวกันทั้งหมด.
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : www.thaipost.net