“อิเซตัน” รีโมเดลห้างรุกศึกค้าปลีก ดันแม็กเน็ตใหม่ “วะโชกุ แกลเลอรี่ (WASHOKU GALLERY)” จุดคอนเซ็ปต์ “this is japan.” ส่งแบรนด์ไอคอน “Hello Kitty” กระตุ้นยอดขาย

  • รีโมเดลครั้งใหญ่เปลี่ยนชั้น 5 ของอิเซตัน เป็น วะโชกุ แกลเลอรี่ เพียบพร้อมด้วยสินค้าและบริการคุณภาพ ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้
  • ชูคอนเซ็ปต์ “this is japan.” ยกระดับสินค้าและบริการ 4 องค์ประกอบหลัก Eat, Cook, Enjoyและ Gift แบบต้นตำรับญี่ปุ่น ที่หาได้แล้วที่นี่
  • เปิดตัวแบรนด์ไอคอน เฮลโล คิตตี้ คาแรคเตอร์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก

“อิเซตัน” รุกศึกค้าปลีกส่งท้ายปี ประกาศรีโมเดลห้างครั้งใหญ่ ปรับพื้นที่ยกชั้นดันจุดแข็งใหม่เปลี่ยนจากฟู้ดฟลอร์ (Food Floor) เป็น “วะโชกุ แกลเลอรี่ (WASHOKU GALLERY)” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “this is japan.” สนองความต้องการของลูกค้านักช้อป ชูจุดขายนำเข้าสินค้าและบริการส่งตรงจากญี่ปุ่นครั้งแรกในไทยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ บริษัทแม่เตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจ ส่งแบรนด์ไอคอน “เฮลโล คิตตี้ (Hello Kitty)” กระตุ้นบรรยากาศจับจ่ายกวาดยอดขาย พร้อมจัดงานพิธีตัดริบบิ้นเฉลิมฉลองการเผยโฉมชั้น 5 “วะโชกุ แกลเลอรี่ (WASHOKU GALLERY)” โดยได้รับเกียรติจาก มร. ทาคาคิ อะคูเนะ ประธานบริษัท และ มร. ฮิโรยูกิ โยชิดะ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด และ แคโรลีน ซาง Chief Operating Officer, Sanrio Hong Kong ร่วมงาน ในวันศุกร์ที่ 18 ธันวาคมนี้ ที่ บริเวณชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

มร. ทาคาคิ อะคูเนะ ประธานบริษัท อิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ห้างสรรพสินค้าอิเซตันขยายตลาดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยเข้ามาดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2535 ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์ ได้รับการอุดหนุนจากลูกค้าชาวไทยอย่างดีและต่อเนื่องจนย่างเข้าสู่ปีที่ 23 ในปีนี้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งโครงสร้างการคมนาคม การพัฒนาเขตที่อยู่อาศัยบริเวณชานเมือง และการขยายตัวของเมืองหลวงที่กว้างใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้อาศัยที่อยู่ในช่วงวัยกลางคนอายุ 30-40 ปี ถึงแม้จะให้ความสำคัญกับสายสัมพันธ์ภายในครอบครัวหรือวิถีชีวิตแบบไทยดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่ในอดีต แต่มีความสุขและสนุกสนานกับวิถีชีวิตยุคใหม่ในเมืองหลวงเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2556 ชาวไทยได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศญี่ปุ่นในระยะสั้นได้ไม่เกิน 15 วัน โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าทำให้มีชาวไทยไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น ได้สัมผัสสินค้าและบริการของร้านค้าในประเทศญี่ปุ่นกลับมา ทำให้มีลูกค้าจำนวนมากเรียกร้องว่าต้องการร้านค้าในรูปแบบเดียวกับห้างสรรพสินค้าอิเซตันในประเทศญี่ปุ่น’

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

“ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ศึกษาและวางแผนรีโมเดลห้างสรรพสินค้าอิเซตันครั้งใหญ่ เพื่อสร้างบรรยากาศห้างในรูปแบบเดียวกับห้างสรรพสินค้าอิเซตันในประเทศญี่ปุ่น นำกลยุทธ์รีโมเดลที่เรียกว่า ‘บรรยากาศแวดล้อม สินค้า และทัศนียภาพ (Environment, Merchandise and Scene)’มาปฏิบัติใช้จริง ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยรีโมเดลพื้นที่ชั้น 5 Food Floor หรือชั้นสำหรับจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด พื้นที่รวม 3,500 ตารางเมตร และใช้ชื่อใหม่ว่า วะโชกุ แกลเลอรี่ (WASHOKU GALLERY)” ประธานบริษัท อิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ด้าน มร. ฮิโรยูกิ โยชิดะ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อลูกค้าต้องการผลิตภัณฑ์ที่เน้นคุณภาพคัดสรร ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าจากการจัดแสดงสินค้าที่เข้าใจง่ายและมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำวิธีการใช้ ที่สำคัญ อิเซตันจัดเตรียมสินค้าอย่างเพียบพร้อมครบครัน ลูกค้าชาวไทยที่เคยแวะเยี่ยมเยียนอิเซตันประเทศญี่ปุ่นจะต้องประทับใจในจุดนี้อย่างแน่นอน

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

วะโชกุ แกลเลอรี่ (WASHOKU GALLERY) มีคอนเซ็ปต์สำคัญคือ “this is japan.” โดยยกระดับสินค้าและบริการ เพื่อสร้าง 4 องค์ประกอบหลัก คือ สร้างความสนุกสานกับการกินและดื่ม(Eat) สนุกสนานกับการทำอาหาร(Cook) สนุกสนานกับวัฒนธรรมใหม่ๆของญี่ปุ่นผ่านอาหาร(Joy)และการหาของขวัญสำหรับวันพิเศษ(Gift) แบบต้นตำรับญี่ปุ่นแต่ไม่ต้องไปถึงประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอิเซตันจะลดความแตกต่างด้านราคาของสินค้าที่นำเข้าจากญี่ปุ่นกับสินค้าที่วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

สำหรับสินค้าคอนเซ็ปท์ “this is japan.” ประกอบด้วย กลุ่มแบรนด์ของคนญี่ปุ่นและแบรนด์ที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งวางจำหน่ายเฉพาะที่อิเซตันแห่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ มีแบรนด์อาหารญี่ปุ่น-ยุโรป 9 ร้าน แบรนด์ขนมญี่ปุ่น 4 ร้าน แบรนด์ขนมตะวันตก 10 ร้าน และจัดโซนฟู้ดคอร์ต(Food Court) อาหารญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังอีก 7 ร้าน

ด้านการบริการนั้น อิเซตันได้จัดระบบการทำงานกับบริษัทอาหารของญี่ปุ่น โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญ ชาวญี่ปุ่นเข้ามาให้คำแนะนำแก่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสความเป็นมืออาชีพของผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นจากหลากหลายสถานที่ อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำชาในช่วงเก็บเกี่ยวชาใหม่ประจำฤดูกาล หัวหน้าคนหมักเหล้าจากโรงหมักเหล้าทั่วประเทศ หรือคนแล่ซาชิมิสดๆ จากปลาที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

this is japan. เป็นคอนเซ็ปต์ที่บริษัทแม่ในญี่ปุ่นต้องการนำเสนอความดีงามของญี่ปุ่นไปทั่วโลกตั้งแต่สินค้าตลอดจนถึงบริการ ซึ่งถือเป็นหลักการวางแบรนด์ กลยุทธ์การตลาดและการสร้างร้านค้าใหม่ของเครือ มิตซุโกชิ อิเซตัน กรุ๊ป (MITSUKOSHI ISETAN GROUP)”

นอกจากนี้ ในการสร้างบรรยากาศใหม่ๆ ให้ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน บริษัทฯ เปิดตัวแบรนด์ไอคอน “เฮลโล คิตตี้ (Hello Kitty)” คาแรคเตอร์อันโด่งดังที่แสดงออกถึงความน่ารักของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้คนทั่วโลก โดยแบรนด์ไอคอน “Hello Kitty” นี้จะเข้ามาสร้างสีสันทั่วทั้งห้างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยมี การจัดทำของที่ระลึกและสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะชาวไทยให้เก็บสะสม เช่น บัตรสมาชิกลาย Hello Kitty และ ถุงกระดาษ Hello Kitty เป็นต้น

ล่าสุด ห้างสรรพสินค้าอิเซตันเริ่มประชาสัมพันธ์แผนเปิดตัวแบรนด์ไอคอนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก ชื่อว่า “IsetanThailand” และจุดต่างๆ ในห้าง เพื่อสื่อสารแคมเปญนี้ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม ศกนี้

สำหรับสินค้าที่วางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพสินค้าอิเซตัน แบ่งเป็นสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น 40% และสินค้าในไทย 60% โดยจะเพิ่มสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีจำหน่ายเฉพาะอิเซตันเท่านั้นให้มากขึ้นด้วย

หลังจากการรีโมเดลแล้วเสร็จ คาดว่าจะมีปริมาณลูกค้าเข้าห้าง 2 ล้านคนในปี พ.ศ. 2559 โดยแบ่งเป็นอัตราส่วน 2:1 ในวันธรรมดาและวันหยุด และคาดว่าจะช่วยผลักดันให้ยอดขายรวมเติบโต 170% จากยอดขายในปี พ.ศ. 2556

เตรียมพบกับ“ WASHOKU GALLERY” ได้ที่ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน แอท เซ็นทรัลเวิลด์ (ISETAN @CentralWorld) และติดตามข่าวสารพร้อมรายละเอียดกิจกรรมและโปรโมชั่นได้ที่ www.facebook.com/IsetanThailand หรือ โทร. 02 255 9898-9

บริษัท อิเซตันก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2429 เดิมทีเป็นร้านขายชุดกิโมโนและขยายกิจการมากว่าศตวรรษ ปัจจุบัน บริษัทอิเซตันเป็นกลุ่มบริษัทที่โดดเด่นด้านธุรกิจค้าปลีก มีชื่อเสียงทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ โดยถือเป็นห้างสรรพสินค้าคุณภาพ นอกจากสาขาและกิจการต่างๆ ภายในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังมีสาขาอยู่ทั่วโลก ได้แก่ จีน ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย อเมริกา อังกฤษ และ อิตาลี