กระทรวงการคลังลาวออก FRN สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อายุ 10 ปี และ12 ปีในไทย พร้อมทั้งการขยายฐานนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในฐานะตัวแทนรัฐบาล สปป.ลาวประสบความสำเร็จในการออกตราสารหนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate Notes : FRN) ในสกุลเงินดอลลาร์จำนวน 182 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,500 ล้านบาท) ในประเทศไทย โดยแบ่งเป็นอายุ 10 ปี และ 12 ปี พร้อมกำหนดอัตราดอกเบี้ยโดยอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารในตลาดลอนดอน (London Interbank Offered Rate : LIBOR) ที่ LIBOR+3.38% และ LIBOR+3.48% ต่อปีตามลำดับเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ตราสาร FRN ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ BBB+ จากทริสเรทติ้ง โดยจะขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศไทยภายใต้กฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ในด้านพันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศในประเทศไทยครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของรัฐบาล สปป.ลาว ซึ่งมีอันดับเครดิตที่แข็งแกร่งในตลาดทุนระดับภูมิภาค โดยเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและสภาพคล่องที่เหมาะสมของตลาดตราสารหนี้ไทย
ก่อนหน้านี้ กระทรวงคลัง สปป.ลาว เคยเสนอขายพันธบัตรสกุลเงินบาทในประเทศไทยมูลค่า 1,500 ล้านบาท ในเดือนพฤษภาคม 2556 และได้ออกพันธบัตรสกุลเงินบาทอีกสามครั้ง โดยครั้งสุดท้ายออกในเดือนมิถุนายน 2558 มูลค่า 12,000 ล้านบาท และได้รับการจัดอันดับที่ BBB+ จากทริสเรทติ้ง ซึ่งการออกพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐครั้งนี้ถือเป็นพัฒนาการสำคัญอีกครั้งหนึ่งในการพัฒนาตลาดทุนระดับภูมิภาค
การเสนอขายตราสาร FRN ครั้งนี้นับว่าเป็นการระดมเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐจากตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศเป็นครั้งแรกของรัฐบาลสปป.ลาว และจากการที่สภาวะตลาดเอื้ออำนวย กระทรวงการคลัง สปป.ลาวจึงสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ย FRN อายุ 10 ปีและ 12 ปีได้ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงให้แก่รัฐบาลสปป.ลาวในการออกพันธบัตรในอนาคตด้วยเช่นกัน โดยตราสารอายุ 12 ปี เป็นพันธบัตรอายุยาวนานที่สุดที่ออกโดยรัฐบาลสปป.ลาว
ด้านตลาดตราสารหนี้ไทย การที่รัฐบาลสปป.ลาวเสนอขายตราสาร FRN ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการออกพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐโดยต่างชาติในประเทศไทย อีกทั้งถือเป็นครั้งแรกของตลาดไทยที่มีการเสนอขาย FRN เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ FRN อายุ 10 ปีซึ่งมีมูลค่า 162 ล้านเหรียญสหรัฐยังเป็นพันธบัตรเงินตราต่างประเทศอายุ 10 ปีที่มีมูลค่ามากที่สุดที่เคยออกในประเทศไทยอีกด้วย
การออกตราสาร FRN มีเป้าหมายเพื่อขายให้แก่ผู้ลงทุนที่เป็นสถาบันการเงินและบริษัทประกัน อย่างไรก็ตาม ผู้จองซื้อตราสาร FRN ครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ เช่น สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ จึงกล่าวได้ว่าผลสำเร็จครั้งนี้ตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยในความแข็งแกร่งรัฐบาลสปป.ลาว
บริษัท ทวิน ไพน์ คอนซัลติ้ง จำกัด เป็นที่ปรึกษาหลัก (Sole Advisor) โดยมีธนาคารกสิกรไทยและ ธนาคารกรุงไทย ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดจำหน่ายร่วม (Joint Lead Arrangers) และบริษัท แอลเอส ฮอไรซัน จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
นายฤทธิกร ภูมิศักดิ์ รองอธิบดีกรมการเงินระหว่างประเทศ กระทรวงการคลังสปป.ลาว กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งในความสำเร็จลุล่วงของการเสนอขายตราสาร FRN เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเราเป็นผู้ออกตราสารหนี้ต่างชาติรายแรกที่ออกพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดทุนไทย ซึ่งเกิดจากสภาวะตลาดที่มั่นคง กฎเกณฑ์ที่เอื้ออำนวยและความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยในเครดิตของประเทศสปป.ลาว ยิ่งไปกว่านั้น ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เรากำลังจะก้าวสู่ยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทำให้เห็นชัดเจนว่าการเปิดตลาดทุนข้ามชาติโดยใช้สกุลเงินบาทและเงินดอลลาร์สหรัฐจะสร้างเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นได้”
นายอดิศร สิงห์สัจจะ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการบริษัท ทวิน ไพน์ คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า “การเสนอขายตราสาร FRN ครั้งนี้ช่วยตอกย้ำสถานะความเป็นผู้นำของตลาดตราสารหนี้ไทยในตลาดอาเซียน และแสดงถึงความก้าวหน้าและความแข็งแกร่งของตลาดทุนไทย โดยเห็นได้จากความต้องการของนักลงทุนและสภาพคล่องของตลาด นอกจากนี้ การเสนอขายพันธบัตรครั้งที่ห้าในประเทศไทยยังทำให้รัฐบาลสปป.ลาวสามารถสร้างฐานนักลงทุนที่มั่นคงและกว้างขวางมากขึ้น และการกำหนดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้แก่รัฐบาลและบริษัทเอกชนประเทศเกิดใหม่อื่น ๆ ที่ต้องการออกพันธบัตรในอนาคตอีกด้วย”
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “ธนาคารกสิกรไทยมีความภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ทางการเงินอันสำคัญยิ่งของสปป.ลาวและตลาดตราสารหนี้ไทย ผลสำเร็จครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือกันของทุกฝ่ายซึ่งรวมถึงรัฐบาลสปป.ลาว บริษัท ทวิน ไพน์ คอนซัลติ้ง จำกัด และผู้จัดจำหน่ายร่วม อีกทั้งยังได้รับการส่งเสริมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย และก.ล.ต.ในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทยอย่างต่อเนื่อง เราหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเปิดศักราชใหม่ และสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ผู้ออกตราสารต่างชาติและนักลงทุนไทยในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน”
นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า “ ความร่วมมือในครั้งนี้ ธนาคารยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทั้งของกระทรวงการคลังแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) และตลาดตราสารหนี้ของไทย เป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนใหม่ๆ ให้แก่นักลงทุนในประเทศ ธนาคารกรุงไทยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันความสำเร็จของการออกพันธบัตรในครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี ซึ่งพันธบัตรที่ออกถือเป็นพันธบัตร FRN สกุลเงินต่างประเทศครั้งแรกที่มีการออกและเสนอขายในประเทศไทย อีกทั้งยังพันธบัตรสกุลเงินต่างประเทศที่มีอายุนานที่สุด ที่เคยมีการเสนอขาย การมีส่วนร่วมในพัฒนาการดังกล่าว สอดคล้องกับความตั้งใจของธนาคารที่ว่า “ Growing Together “ ที่ธนาคารยึดถือและมุ่งมั่น ที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการทางการเงินในระดับภูมิภาค”
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย