ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
  • โค้งสุดท้ายก่อนมาตรการหักลดหย่อนภาษีสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไม่เกิน 15,000 บาท จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 รวมถึงมาตรการหักลดหย่อนภาษี สำหรับการใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือค่าบริการซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายด้านบริการสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศ ในระหว่างวันที่ 25 -31 ธันวาคม 2558 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท คาดช่วยหนุนเม็ดเงินใช้จ่ายของตลาดไทยเที่ยวไทยช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปี 2559
  • นโยบายภาครัฐกระตุ้นให้ภาคเอกชนหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและรองของไทย จึงทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นการเพิ่มทางเลือกและช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมาก รวมถึงก่อให้เกิดการกระจายรายได้อีกทั้งลดความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวหลักไปยังหัวเมืองรองมากขึ้น
  • ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในช่วง 7 วันของเทศกาลปีใหม่ (ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2558 - วันที่ 3 มกราคม 2559) จำนวนคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 YoY ซึ่งก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในพื้นที่ต่างๆ มูลค่า 22,000 ล้านบาท เติบโตที่ร้อยละ 12.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557

ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เป็นอีกช่วงหนึ่งที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันและผู้คนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งจากกลุ่มคนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและแวะเที่ยวระหว่างทาง รวมถึงกลุ่มที่ตั้งใจจะเดินทางไปพักผ่อนในแหล่งท่องเที่ยวในต่างจังหวัด และได้สร้างเม็ดเงินสะพัดสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในสถานที่ท่องเที่ยว และเส้นทางต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวเดินทางผ่านจะมีความคึกคักอย่างมาก จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว

สำหรับในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปี 2559 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ตลาดไทยเที่ยวไทยในช่วงนี้ น่าจะยังมีความคึกคักเช่นเดียวกับที่ปีที่ผ่านมา เห็นได้ว่าในปีนี้ หน่วยงานภาครัฐทั้งส่วนกลางและหน่วยงานท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชนต่างให้ความสำคัญในการจัดแคมเปญการท่องเที่ยวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ของตน ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ ประกอบกับในช่วงที่เหลือของปี 2558 นี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการภาษีเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2558 ได้แก่ มาตรการหักลดหย่อนภาษี สำหรับเงินที่จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายด้านบริการสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศ ในระหว่างวันที่ 25-31 ธันวาคม 2558 สามารถนำใบกำกับภาษีมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่เพิ่มเติมจากมาตรการหักลดหย่อนภาษีสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไม่เกิน 15,000 บาท ที่ออกมาก่อนหน้านี้และจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 นี้เช่นกัน ทั้งนี้ มาตรการทั้งสองส่วนนี้ไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมและธุรกิจนำเที่ยวเท่านั้น แต่ยังน่าจะมีผลทางจิตวิทยาให้เกิดการใช้จ่ายในสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี การซื้อสินค้าและบริการที่จะนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้นั้นจะต้องถูกต้องตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด โดยธุรกิจที่จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายที่สามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบให้กับลูกค้าได้ • หลายจังหวัดแข่งชูแหล่งท่องเที่ยว...หวังกระตุ้นเม็ดเงินสะพัดท้องถิ่น

สถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปี 2559 นี้ ความคึกคักไม่เพียงแต่จังหวัดที่เป็นหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และนครราชสีมา เท่านั้น โดยในแหล่งท่องเที่ยวหลักบางแห่งในระยะนี้ก็เป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่งผลให้สินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องมีราคาสูงกว่าปกติ มีผลให้นักท่องเที่ยวชาวไทยบางกลุ่มปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางไปยังเมืองท่องเที่ยวรองเพิ่มขึ้น ซึ่งในปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในหัวเมืองรองก็มีความพร้อมค่อนข้างมาก ซึ่งก็สอดรับกับนโยบายภาครัฐที่ต้องการกระจายความหนาแน่นของจังหวัดท่องเที่ยวหลักๆ ไปสู่จังหวัดท่องเที่ยวรอง

เห็นได้ว่า ตั้งแต่ต้นปี 2558 ที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐได้จัดทำแคมเปญ 12 เมืองต้องห้ามพลาด ซึ่งทำให้การท่องเที่ยวในจังหวัดดังกล่าวมีความคึกคักมาก โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ที่ผ่านมา รายได้จากการท่องเที่ยวใน 12 เมืองต้องห้ามพลาดเติบโตร้อยละ 15.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือมีมูลค่าประมาณ 36,530 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มีการเติบโตที่โดดเด่น คือ จังหวัดน่าน น่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวมูลค่าประมาณ 1,255 ล้านบาท เติบโตประมาณร้อยละ 27.4 เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ขณะที่ ภาพรวมทั้งปี 2558 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า รายได้จากการท่องเที่ยวในพื้นที่ 12 จังหวัดข้างต้นน่าจะมีมูลค่าประมาณ 68,400 ล้านบาท เติบโตประมาณร้อยละ 14.9 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.4 ในปี 2557

การท่องเที่ยวนับเป็นกิจกรรมเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่คนในท้องถิ่นโดยตรง ทำให้ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ขึ้นในแต่ละพื้นที่ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้ถูกนำมาพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว อย่างแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และสถานที่ท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Products) อย่างสวนน้ำสวนสนุกที่ช่วยเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว จึงทำให้แหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มาก ขณะที่ภาครัฐก็มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีการแข่งขันในทางอ้อม

• คนไทยเที่ยวไทยในช่วงเทศกาล ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2559 คาดเติบโตร้อยละ 12.4 สร้างรายได้สู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในช่วง 7 วันของเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2558 ถึง 3 มกราคม 2559 มูลค่าประมาณ 22,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น ผู้คนมีการทยอยเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงก่อนหรือหลังวันหยุดยาวเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดและความแออัดในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้ใช้กรอบการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยที่ 7 วัน เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากที่ผู้คนจะเลือกเดินทางก่อนหรือหลังช่วงเทศกาล โดยประเมินว่าในช่วง 7 วัน จำนวนคนไทยเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งน่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในพื้นที่ต่างๆ มูลค่า 22,000 ล้านบาท เติบโตที่ร้อยละ 12.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557

โดยมูลค่าดังกล่าวสะพัดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อันดับ 1 คือ ธุรกิจบริการด้านที่พักมูลค่า 5,200 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ ธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มมูลค่า 4,600 ล้านบาท ธุรกิจจำหน่ายสินค้าและของฝากของที่ระลึกมูลค่า 4,300 ล้านบาท ธุรกิจบริการด้านความบันเทิง (เช่น กิจกรรมผจญภัย สวนน้ำและสวนสนุก) มูลค่า 2,800 ล้านบาท ธุรกิจบริการท่องเที่ยวในพื้นที่ (เช่น แพ็คเกจเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว/ดำน้ำ) มูลค่า 1,900 ล้านบาท ธุรกิจบริการการเดินทางภายในพื้นที่ (เช่น รถเช่า เรือให้บริการไปยังเกาะต่างๆ) มูลค่า 1,800 ล้านบาท และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ มูลค่า 1,400 ล้านบาท

ทั้งนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ปี 2559 ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น ด้วยผู้คนมีการใช้จ่ายในด้านต่างๆ ทำให้มีเม็ดเงินสะพัดในพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นโอกาสของภาคธุรกิจท้องถิ่นและเกี่ยวเนื่องที่จะสร้างรายได้ในช่วงนี้ ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องคงจะต้องเตรียมพร้อมทั้งในส่วนการให้บริการที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงความเพียงพอของบุคลากร ผู้ให้บริการ เนื่องจากปัจจุบันภาคธุรกิจการท่องเที่ยวมีการแข่งขันที่รุนแรง ไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันของธุรกิจในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเป็นการแข่งขันในตัวของสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งในหลายจังหวัดมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ทำให้มีแนวโน้มการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ใหม่เพิ่มขึ้น

ขอบคุณข้อมูล จาก : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย