กสิกรไทย ชูกลยุทธ์ "Next Banking Experience" ปี 59
กสิกรไทยโชว์ผลงานเด่นปี 58 เพิ่มลูกค้ารายย่อยได้ 7% ปี 59 เดินหน้ากลยุทธ์ “Next Banking Experience” ชูเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มฐานลูกค้ารุ่นใหม่ ที่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทันที พร้อมจับมือพันธมิตรรายใหญ่ขยายบริการไปตามช่องทางต่าง ๆ ที่สามารถให้บริการกับลูกค้าได้รวดเร็ว ทันใจ ตั้งเป้าฐานลูกค้ารวมปี 59 เป็น 14 ล้านราย สินเชื่อโต 5-7%
นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการในปี 2558 ทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์เชิงรุกในการออกผลิตภัณฑ์และบริการใน 4 กลุ่ม ได้แก่
1. ธุรกิจดิจิทัล แบงกิ้ง ที่ยังคงเป็นผู้นำอันดับ 1 มีผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 9 ล้านคน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 39% 2. การออกผลิตภัณฑ์ที่เจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เช่น การออกบัตรเดบิตสโมสรฟุตบอลร่วมกับ 48 สโมสรฟุตบอลชั้นนำของประเทศไทย สามารถสร้างยอดขายบัตรได้กว่าแสนใบ 3. รายได้ค่าธรรมเนียม สามารถทำได้ประมาณ 32,000 ล้านบาท เติบโต 17% ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยส่วนใหญ่มาจากรายได้จากแบงก์แอชชัวรันช์ และธุรกิจบัตรเครดิต 4. ธุรกิจสินเชื่อ เติบโตประมาณ 5% ทำได้ตามเป้าหมาย ด้วยยอดสินเชื่อรวมทั้งสิ้น 368,500 ล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์ในปี 2559 ธนาคารจะมุ่งเน้นการเพิ่มจำนวนลูกค้าด้วยกลยุทธ์ “Next Banking Experience” ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ทำให้ช่องทางบริการธุรกรรมการเงินมีความหลากหลายมากขึ้น ลูกค้าสามารถถอน จ่าย โอนเงิน ได้หลากหลายช่องทาง ทั้งจากผู้ให้บริการที่เป็นสถาบันการเงิน (Bank) และผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่จะผูกติดกับสมาร์ทโฟนในแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 23-40 ปี หรือกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางถึงระดับบนที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้สูง ด้วยการพัฒนาใน 3 ด้าน คือ
1.พัฒนาฟีเจอร์ให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนการใช้งานตามที่ต้องการ โดยในไตรมาสแรกปีนี้ จะทยอยออกฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ K-Mobile Banking PLUS ที่ลูกค้าสามารถเลือกปรับเปลี่ยน หรือใช้งานได้ด้วยตนเองผ่านสมาร์ทโฟนทุกที่ ทุกเวลา เช่น สมัครใช้บริการ K-Mobile Banking PLUS ได้ทันทีโดยไม่ต้องสมัครผ่านสาขาหรือตู้เอทีเอ็ม, การขออนุมัติสินเชื่อบุคคล (K-Personal Loan) โดยสามารถเลือกวงเงินกู้และระยะเวลาผ่อนชำระได้ตามความต้องการด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ, ลูกค้าสามารถเลือกปรับเปลี่ยนวงเงินโอน ถอน จ่าย ของบัตรเดบิตได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ พร้อมทั้งสามารถอายัดบัตรได้ทันทีกรณีบัตรหายหรือถูกขโมย
2. สร้างสีสันและเพิ่มสิทธิประโยชน์ของการใช้บริการ เน้นการสร้างสรรค์ลูกเล่นหรือฟีเจอร์ของการให้บริการ โดยพัฒนาบนพื้นฐานของการยึดความต้องการของผู้ใช้ทั้งคุณประโยชน์ (Functional Benefits) และสร้างสีสันความรู้สึก (Emotional Benefits) เช่น การเปลี่ยนธีมหน้าจอ K-Mobile Banking PLUS ให้เป็นลวดลายการ์ตูน เช่น ธีมภาพยนตร์คุณทองแดง The Inspirations, โดราเอมอนและผองเพื่อน และวางแผนจะออกธีมลายใหม่ทุก ๆ เดือน
3. การขยายเครือข่ายพันธมิตรเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจในทุกขนาดอย่างครบวงจร (Bank to Non-Bank) เน้นการสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจและการเข้าถึงลูกค้าด้วยวิธีใหม่ ๆ โดยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อพัฒนาอีโคซิสเท็ม (Ecosystem) ด้วยการใช้จุดแข็งทางธุรกิจบวกกับเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งและหลากหลายของธนาคารกสิกรไทย เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจและผลประโยชน์ร่วมกันสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และขยายโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้น
นางนพวรรณ กล่าวในตอนท้ายว่า จากกลยุทธ์เชิงรุก “Next Banking Experience” ธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้ารวมเป็น 14 ล้านราย หรือเพิ่มขึ้น 7% โดยมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเจ้าของกิจการ กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ กลุ่มลูกค้าข้ามประเทศ และตลาดที่ธนาคารยังเข้าไม่ถึง ควบคู่กับการหาลูกค้าใหม่ในจังหวัดหัวเมืองยุทธศาสตร์ นอกจากนั้นในส่วนของดิจิทัล แบงกิ้ง ธนาคารยังคงตั้งเป้าเป็นผู้นำอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ในส่วนของดิจิทัล แบงกิ้ง อีก 3.4 ล้านราย รวมเป็น 11.3 ล้านราย ส่วนสินเชื่อสำหรับลูกค้าบุคคลคาดว่าจะเติบโตได้ 5-7%
ขอบคุณข้อมูล จาก : www.thecube-condo.com