เผยพฤติกรรม หนุ่มสาวญี่ปุ่นติดออนไลน์ ไร้ความมั่นใจในอนาคต

เผยผลการสำรวจรับวันบรรลุนิติภาวะของญี่ปุ่น พบว่า หนุ่มสาวของญี่ปุ่นแทบจะไม่สนใจเรื่องราวรอบตัว โดยหมกมุ่นอยู่กับโลกออนไลน์ รวมทั้งไม่มีความมั่นใจในอนาคตชีวิต

ผลการสำรวจของบริษัท Macromill Inc. ซึ่งเปิดเผยในวันบรรลุนิติภาวะของญี่ปุ่น พบว่าคนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นในวัย 20 ปีไม่มีความสนใจในเรื่องการเมือง, เศรษฐกิจ และความเป็นไปของสังคม โดยสนใจแต่เฉพาะเรื่องของตัวเองเท่านั้น ขณะที่หนุ่มสาวส่วนใหญ่ไม่มั่นใจในอนาคตชีวิตของตัวเอง

ในปี 1977 หนุ่มสาวญี่ปุ่นต้องเข้าคิวใช้โทรศัพท์สาธารณะในงานวันบรรลุนิติภาวะ

สื่อสังคมออนไลน์เป็นส่วนสำคัญของชีวิต โดยแอพลิเคชั่น LINE ได้รับความนิยมสูงสุด วัยรุ่นญี่ปุ่นถึง 90% ติดต่อกันผ่าน LINE ส่วน Twitter ได้รับความนิยมรองลงมา มีวัยรุ่นใช้งานราว 70% ขณะที่ Facebook และMixi เว็บบล็อกชื่อดังของญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ใช้งานลดลงอย่างมากในญี่ปุ่น

ทุกวันนี้ใช้สมาร์ทโฟนอัพรูปทันใจ

รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามจะผลักดันพลังของคนรุ่นใหม่ โดยปรับลดเกณฑ์อายุผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจากปัจจุบันที่กำหนดไว้ที่ 20 ปีเป็น 18 ปี โดยจะมีผลครั้งแรกในการเลือกตั้งวุฒิสภาในช่วงเดือนมิถุนายน ปีนี้ หากแต่ผลการสำรวจพบว่าหนุ่มสาวของญี่ปุ่น 50% บอกว่าจะ ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และ77% บอกว่าไม่สนใจเรื่องการเมือง

ในการสำรวจได้สอบถามข่าวที่หนุ่มสาวญี่ปุ่นสนใจ พบว่า 44% ตอบว่ากังวลเรื่องการก่อการร้าย, 42% ตอบว่าเรื่องสังคมผู้สูงอายุและจำนวนเด็กที่ลดลง และ 41% กังวลเรื่องการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในปีหน้า

ผลการสำรวจยังพบว่า คนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นจำนวนมากไม่มีความหวังในอนาคตของตัวเองและประเทศชาติ หนุ่มสาวในวัย 20 ปีมากถึง 76% ระบุว่ากังวลเรื่องการมีงานทำ ขณะที่คนรุ่นใหม่เพียงแค่ 33% คิดว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีอนาคตที่สดใส ลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 3

เศรษฐกิจที่ซบเซามานานกว่า 10 ปีได้ทำให้ความฝันของหนุ่มสาวญี่ปุ่นสูญหายไปด้วย หลายคนต้องทำงานตัวเป็นเกลียว เพราะระบบจ้างงานที่เน้นแต่การจ้างพนักงานชั่วคราว ขณะที่ระบบต่างๆในญี่ปุ่นแทบจะไม่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีปากมีเสียง หรือท้าทายแนวคิดดั้งเดิมได้มากนัก

สถานการณ์เช่นนี้ทำให้หนุ่มสาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะใช้ชีวิตไปวันๆโดยไม่มีจุดมุ่งหมาย จนผู้ใหญ่ชาวญี่ปุ่นกังวลว่าหากคนรุ่นใหม่มองไม่เห็นอนาคตของตัวเองแล้ว ประเทศชาติจะมีอนาคตได้อย่างไร?

ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก : www.manager.co.th