กำจัด ความเฉื่อยชา ในการทำงานด้วยตัวคุณเอง

หากการทำงานที่เดิมนาน ๆ ชวนให้เกิดอาการ “เซ็ง” ถึงขั้นยากที่จะขุดตัวเองขึ้นมาจากที่นอนในแต่ละเช้า ไฟในการทำงานก็ดูจะมอดหายไป พลังขับเคลื่อนสิ่งใหม่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

จัดโต๊ะใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม

เริ่มต้นกันด้วยเทคนิคง่าย ๆ กับการแปลงสภาพโต๊ะทำงานสีตุ่นดูเคร่งขรึม ให้เต็มด้วยบรรยากาศที่ดึงดูดอารมณ์เชิงบวก อาจโดยเพิ่มแสงสว่างให้กับโต๊ะทำงานด้วยโคมไฟซักดวง เติมความสดชื่นสบายตาด้วยสีเขียวของต้นไม้ สร้างกำลังใจด้วยแผ่นข้อความดี ๆ หรือขำขันคลายเครียดด้วยของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์เก๋ ๆ เท่านี้ถึงจะคับใจอยู่ยากแต่อย่างน้อยก็ไม่คับที่แน่ละ

ไตร่ตรองเรื่องสุขภาพ

บางทีความเฉื่อยชาน่ะอาจเป็นผลพวงมาจากสุขภาพหรือภาวะพักผ่อนไม่เพียงพอก็ได้ ลองเช็คตัวเองดูว่าที่ง่วงทั้งวันเนี่ย เป็นเพราะร่างกายด้วยมั้ย ถ้าใช่แล้วล่ะก็…หนุ่มสาวชาวออฟฟิศจ๋า…หันมากินอาหารที่มีประโยชน์ครบทุกหมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอกันดีกว่า เพื่อให้เลือดเราไหลเวียนดี มีพลังในแต่ละเช้าวันใหม่ งานนี้นอกจากงานจะรื่นไหลขึ้นแล้ว สุขภาพเรายังดีอีกต่างหาก

สร้างเป้าหมายที่ท้าทายขึ้น

หากว่างานจำเจนัก ทำไมไม่ลองตั้งเป้าหมายการทำงานให้ท้าทายขึ้นดู สิ่งใหม่ที่ยากขึ้นไปอีกระดับจะช่วยกระตุ้นให้เรารู้สึกตื่นเต้น และฮึดสู้ทำให้สำเร็จ และแน่นอนว่าถ้าสำเร็จ สิ่งที่จะตามมาก็คือ “ความภาคภูมิใจ” และอาจเป็นโปรเจคต่อยอดใหม่ ๆ ที่สร้างประโยชน์ต่อองค์กร แล้วดูสิค่ะว่าใครกำลังอมยิ้มหน้าบานอยู่…ก็หัวหน้าของคุณไง

อาสารับผิดชอบงานใหม่ ๆ

หรือบางทีคุณอาจจะปรึกษาหัวหน้างานขอเพิ่มหรือสลับหน้าที่ความรับผิดชอบดูก็ได้ เพราะนอกจากจะช่วยขจัดความรู้สึกเบื่อหน่ายงานเดิม ๆ แล้ว ยังเปิดประตูให้เราได้เรียนรู้งานใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยยกระดับศักยภาพในการทำงานของเราให้สูงขึ้นไปอีกด้วย

อย่าบอกลาการเรียนรู้

การเรียนรู้สิ่งใหม่เป็นมิตรกับสมองของเรา เป็นยาขจัด ความเฉื่อยชา ที่ออกฤทธิ์ดี แถมให้ความสนุกเมื่อได้รับประสบการณ์ใหม่อีกด้วย การเรียนรู้เป็นภาคปฏิบัติที่ไม่มีจุดอิ่มตัว เพราะฉะนั้น…ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหนของสายอาชีพ…จงอย่าหยุดเรียนรู้ค่ะ

พักบ้าง

อย่าง่วนอยู่กับงานแบบ non-stop เพราะงานนี้นอกจากปากจะเฉาแล้ว สมองก็อาจพาลไม่แล่นหรือตื้อขึ้นมาได้ และนั่นคงไม่ใช่คำตอบของผลิตภาพและคุณภาพงานที่ดีแน่ และนานวันเข้าอาจดูดพลังเราจนแห้งเหือดไป พักไปเม้าท์เอ็นจอยกับเพื่อน ๆ บ้างค่ะ ซึ่งก็จะช่วยเติมมิตรภาพดี ๆ ในวันทำงานของเราอีกด้วย (ป.ล. แต่ก็อย่าถี่จนนายหรี่ตามองนะจ้ะ)

สุดละ…โอนย้ายภายในละกัน

แต่ทว่าลองสารพัดวิธีก็แล้ว…เราคงสุด ๆ กับงานเดิมแล้วจริง ๆ ลองมองหาโอกาสโยกย้ายตำแหน่งงานภายในดูก็ได้ค่ะ ดูว่างานไหนที่เราสนใจและน่าจะเหมาะกับเรา ซึ่งการโอนย้ายภายในถือเป็นสวัสดิการชั้นยอดของบริษัทเลยก็ว่าได้ เพราะเปิดโอกาสให้เราที่อาจยังไม่มีประสบการณ์ตรงในงานนั้นมีโอกาสเข้าไปทำงานโดยที่เงินเดือนและสวัสดิการไม่ลดลง แล้วอย่างนี้…จะไม่รักองค์กรได้ยังไง

หลังงัดกลเม็ดเด็ดดวงทั้งหลายมาใช้กันแล้ว อย่าลืมนะคะว่าทุกสิ่งภายนอกล้วนหล่อหลอมมาจากอิทธิพลภายใน นั่นก็คือ “ความคิดทัศนคติ” ของเรา ฉะนั้น…ขอให้หันมา “ปรับทัศนคติ” ของตัวเราเองด้วย เท่านี้…เราก็จะสามารถขจัดความเฉื่อยชาได้ทั้งจากภายนอกและภายใน

>