7 ข้อคิดก่อนเลือกใช้ท่อน้ำ
ข้อมูลจาก : ThaiPPR.com
ระบบน้ำ ระบบไฟ เป็นเรื่องสำคัญของแต่ละบ้าน คงเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่น้อย หากต้องให้ช่างมารื้องานระบบ เพียงเพราะมีรอยรั่ว หรือน้ำซึมลงมาจากฝ้าเพดาน จนทำให้โซฟาสวยๆ พรมนำเข้าของคุณต้องหม่นหมอง ฉะนั้นก่อนตัดสินใจวางระบบไฟ ระบบน้ำ หรือใครที่กำลังรื้อแก้ไขงานระบบของบ้าน ขอให้คิดถึงความคุ้มค่า กับระยะเวลาการใช้งานของสินค้า ดีกว่ามาแก้ปัญหารอยรั่วเล็กๆ น้อยๆ ไปเรื่อยๆ
ซึ่งหนึ่งในวัสดุที่มีบทบาทสำคัญในระบบน้ำของบ้าน นั่นคือ ท่อน้ำ ที่นับว่าเป็นหัวใจสำคัญ ของระบบน้ำเลยทีเดียว แต่ท่อน้ำก็มีหลากหลายประเภทให้เลือก หลากสี หลายขนาด ดังนี้
- ท่อประปาเหล็กอาบสังกะสี ทำจากเหล็กกล้าซึ่งเป็นสนิมได้ยาก ผ่านการอาบ สังกะสี สามารถทำเกลียวได้ง่าย ท่อเหล็กอาบสังกะสี ส่วนใหญ่จะผลิต มายาว 6 เมตร ปลายท่อทำเกลียวมาให้พร้อม มีแบบหนาปานกลาง ที่ท่อจะคาดสีน้ำเงิน และอย่างหนา ที่ท่อคาดสีเหลือง
- ท่อ PVC (PVC ย่อมาจาก Poly Vinyl Chloride) ในไทย ส่วนใหญ่ มีความยาว 4 เมตร ยกเว้นท่อ PVC บางประเภท ซึ่งอาจยาว 3 หรือ 6 เมตรบ้าง แบ่งแยกการใช้ งาน ตามสีต่างๆ เช่น สีฟ้า สีเหลือง สีเทา หรือ สีขาว
- ท่อไซเลอร์ ภายนอกเป็นท่อเหล็ก GSP ภายในเป็นท่อ PE เป็นท่อที่มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี ทนทานต่อแรง กระแทกได้ ไม่หักงอ ทนต่อความดันได้มากกว่า 20 บาร์ และอุณหภูมิสูง ถึง 95 องศา ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับ ใช้ติดตั้งใน โรงแรม อาคารขนาดใหญ่ สถานที่ ๆ ต้องการความทนทานสูง หรือสถานที่ ที่ยากต่อการซ่อมแซม
- ท่อพีพีอาร์ เกิดจากการ Random Co-polymer Polypropylene ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง (Thermo Plastic) ที่นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้น พัฒนาทางด้านเทคโนโลยีระบบท่อประปาพลาสติกภายใต้คุณสมบัติด้านฟิสิกส์ และเคมีทำให้ท่อพลาสติกที่ทำด้วยวัสดุพิเศษ อายุการใช้งานยาวนานถึง 50 ปี
- ท่อ PE – Poly Ethylene หรือ ท่อโพลีเอทิลีน (HDPE) เป็นวัสดุทางเคมีที่มีค่าความหนาแน่นสูง "ไม่น้อยกว่า 950 Kg/m3" ที่มีคุณสมบัติทางเคมี, ไฟฟ้า และทางกลที่ดีเยี่ยม สามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้เป็นวัสดุที่เหมาะสม กับสภาวะการใช้งานในวงการต่างๆ ในปัจจุบัน ซึ่งท่อ โพลีเอทิลีน หรือ เอชดีพีอี หรือ บางหน่วยงาน ก็เรียกว่า ท่อพีอี PE นั่นก็คือท่อโพลีเอทิลีน (HDPE) ที่ผลิตจากวัสดุโพลีเอทิลีนที่มาจากขั้นตอนทางเคมีทั้งสิ้น
และหนึ่งในท่อน้ำประเภทที่น่าสนใจ ที่วันนี้เราขอหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง นั่นก็คือ ท่อ PPR (พีพีอาร์) มาดูกันซิว่า หากจะเลือกซื้อท่อน้ำประเภทนี้ เราควรพิจารณาปัจจัยใดบ้าง เริ่มต้นที่
- การระบุระยะเวลาการให้ความร้อนไว้บนส้นท่อทุกเส้น เพื่อให้ติดตั้งง่าย ป้องกันปัญหาท่ออุดตัน เพราะใช้เวลาการหลอมท่อ และข้อต่อนานเกินไป
- การรับประกันและบริการหลังการขาย ต้องมีการรับประกันคุณภาพอย่างชัดเจน มีทีมงานดูแลหลังการขาย คอยดูแลแนะนำการติดตั้ง
- การเลือกพีพี-อาร์ ที่มีท่อและข้อต่อหลากหลายกว่า 500 ชนิด เชื่อมต่อได้กับท่อทุกประเภท
- การเลือกพีพี-อาร์ ที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากประเทศเยอรมัน สเปน และมาตรฐานความสะอาดและปลอดภัยจากอังกฤษ
- ท่อและข้อต่อ พีพี-อาร์ ต้องผลิตจากโรงงานเดียวกัน ในการติดตั้ง ท่อ และข้อต่อจะได้ผสานเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- ต้องเลือกท่อและข้อต่อที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพยุโรป อายุการใช้งานยาวนาน 50 ปี
- ต้องแข็งแรงตามหลักวิศวกรรม ทนต่อแรงดันน้ำภายในท่อ และแรงกระแทกจากภายนอกได้ดี
ขอบคุณข้อมูล จาก : www.thaippr.com