SCG Building Tech เปิดตัว "ระบบ FULFiLwall System" กับจุดเด่น "แข็งแรงเสริมด้วยโครงเหล็ก ติดตั้งง่าย หน้างานสะอาด ส่งมอบไว"
SCG Building Tech จับมือ Siam Image เปิดตัว "ระบบ FULFiLwall System" กับจุดเด่น "แข็งแรงเสริมด้วยโครงเหล็ก ติดตั้งง่าย หน้างานสะอาด ส่งมอบไว" พร้อมคุณสมบัติ กันเสียง ป้องกันไฟ ได้นานถึง 2 ชั่วโมง 45 นาที และบางกว่าเพิ่มพื้นที่ใช้สอย พร้อม reference size กับโครงการอสังหาฯ อีกหลายโครงการ เดินหน้าสร้างการรับรู้เจาะกลุ่มเป้าหมาย B2B ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 223 ล้านบาท
“เอสซีจี บิลดิ้งเทค” (SCG Building Tech) เดินหน้ารุกตลาดผนังภายในสำหรับอาคารสูง ผนึกพันธมิตร สยามอิมเมจดีเวลลอปเม้นท์ ร่วมเปิดตัว “ระบบผนังอิฐมวลเบาเสริมโครงเหล็ก ฟูลฟิลล์ วอลล์” (FULFiLwall System) ชูจุดเด่น “แข็งแรง ติดตั้งง่าย หน้างานสะอาด ส่งมอบงานเร็ว” ด้วยนวัตกรรมปูนสูตรพิเศษ และนวัตกรรมการกรอกปูนแบบมัลติเลเยอร์ (Multi-Layer) ลิขสิทธิ์เฉพาะรายแรกและรายเดียวของไทย พร้อมบริการออกแบบ ติดตั้ง และตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ มั่นใจช่วยยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง ตอบความต้องการตลาดที่ต้องการสินค้าที่ติดตั้งได้รวดเร็ว และตอบโจทย์ปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมือ เตรียมเดินหน้าสร้างการรับรู้เจาะกลุ่มผู้รับเหมา และดีเวลลอปเปอร์กลุ่มงานอาคารแนวดิ่ง ตั้งเป้าหมายปี 59 ประเดิมยอดขาย 223 ล้านบาท
นายสราวุฒิ สำราญทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ–มาร์เก็ตติ้ง เฮ้าส์ซิ่ง บิสซิเนส ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดเผยว่า จากแนวทางการดำเนินธุรกิจของ “เอสซีจี บิลดิ้งเทค” (SCG Building Tech) ที่เน้นตอบแนวโน้มผู้ประกอบการในตลาดที่ต้องการสินค้าที่มีนวัตกรรม ทันสมัย มีคุณภาพ และติดตั้งได้รวดเร็ว มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ๆ เพื่อลดปัญหาด้านการก่อสร้าง ตลอดจนช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือ ล่าสุดจึงได้ร่วมกับ บริษัท สยามอิมเมจดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจ แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “ระบบผนังอิฐมวลเบาเสริมโครงเหล็ก ฟูลฟิลล์ วอลล์” (FULFiLwall System) นวัตกรรมระบบก่อสร้างผนังภายในสำหรับอาคารสูง ภายใต้แบรนด์ “เอสซีจี บิลดิ้งเทค” ที่มีการเปิดตัวเข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ
“ปัจจุบันธุรกิจอาคารทั้งคอนโดมิเนียมและโรงแรมที่มีการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการจึงต้องการเทคโนโลยีที่สามารถช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้าง ลดต้นทุนแฝง และลดการพึ่งพาแรงงานฝีมือ แต่ยังคงคุณภาพที่ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้น เอสซีจี บิลดิ้งเทค จึงร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ แนะนำระบบก่อสร้างผนังภายในสำหรับอาคารสูงที่ตอบโจทย์ข้างต้น โดยพัฒนายกระดับการก่อสร้างจากการก่ออิฐฉาบปูนเป็นระบบผนังแบบหล่อในที่ (Stay In Place) ปัจจุบันตลาดระบบผนังภายในสำหรับอาคารสูงมีสัดส่วนเป็นระบบการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน 96% และเป็นระบบผนังรูปแบบอื่นๆ 4% จึงเป็นตลาดที่น่าจับตามองและเป็นโอกาสที่เราจะแนะนำนวัตกรรมการก่อสร้างระบบใหม่เข้าสู่ตลาด” นายสราวุฒิ กล่าว
ด้าน นายประกาญจน์ อัยยะภาคย์ ผู้อำนวยการการตลาด ซิสเต็ม แอนด์ โซลูชั่น ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า เอสซีจี บิลดิ้งเทค ร่วมกับ พันธมิตรทางธุรกิจ แนะนำ “ระบบผนังอิฐมวลเบาเสริมโครงเหล็ก ฟูลฟิลล์ วอลล์” (FULFiLwall System) นวัตกรรมระบบผนังยุคใหม่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการก่อสร้างให้กับผู้ประกอบการหรือผู้รับเหมาที่ต้องการการส่งมอบงานที่เร็วขึ้นกว่า 30% และช่วยลดต้นทุนแฝง เมื่อเทียบกับระบบการก่อสร้างแบบก่ออิฐ ฉาบปูน หน้างานสะอาดเพราะเป็นระบบหล่อในที่ด้วยการก่อสร้างแบบกึ่งแห้ง (Stay In Place) โดยสามารถออกแบบผนังกันเสียงที่มีความหนาของผนังน้อยกว่าผนังก่ออิฐทั่วไป ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กับห้องและอาคาร ในขณะที่ยังคงความแข็งแรงตามมาตรฐานสากล ยึดแขวนของได้มากกว่า 50 กก.ต่อจุด และกันเสียงได้ตั้งแต่ 40-66 เดซิเบล (ตามการออกแบบ) รับแรงสั่นสะเทือนได้มากกว่า 6 ริคเตอร์ นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบผนังให้สูงได้ถึง 9 เมตร โดยมีการใช้ นวัตกรรมปูนสูตรพิเศษ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับวิธีการติดตั้งระบบผนัง ฟูลฟิลล์ วอลล์ โดยเฉพาะ คือใช้ระยะเวลาในการเซ็ทตัวเพียง 1.30 นาที เร็วกว่าปูนซีเมนต์ทั่วไปถึง 95% ทำให้สามารถควบคุมระนาบผนังให้เรียบสวย เนื้อปูนเกาะเป็นเนื้อเดียวกัน แม้มีการกรอกเพิ่มเติมภายหลัง ปูนมีความหนาแน่นเทียบเท่าอิฐมวลเบา G4 และทนไฟได้นานถึง 2 ชั่วโมง 45 นาที อีกทั้งยังได้รับลิขสิทธิ์ นวัตกรรมการกรอกผนังฟูลฟิลล์ วอลล์แบบมัลติเลเยอร์ (Multi-Layer) เป็นรายแรกและรายเดียวในไทย ซึ่งช่วยลดแรงดันที่เกิดจากการเทปูนลงในผนัง ลดการปูดบวม และควบคุมระนาบของผนังให้เรียบสวย ผนังตรงได้ฉาก
นอกจาก นวัตกรรมการก่อสร้างที่เป็นจุดแข็งแล้ว ยังมีบริการเบ็ดเสร็จครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง ตรวจสอบคุณภาพ และรับประกัน จากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ พร้อมวางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มผู้รับเหมา และดีเวลลอปเปอร์ กลุ่มงานอาคารแนวดิ่ง ได้แก่ คอนโดมิเนียม โรงแรม และอพาร์ทเม้นต์ ที่ต้องการงานก่อสร้างที่รวดเร็วและมีคุณภาพ โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อรับบริการได้ที่เอสซีจี คอนแทค เซ็นเตอร์ โทร. 02-586-2222 หรือร้านผู้แทนจำหน่ายเอสซีจีทั่วประเทศ ทั้งนี้ที่ผ่านมาเราได้รับความไว้วางใจจากองค์กรธุรกิจชั้นนำหลายองค์กรในการก่อสร้างระบบผนังภายในโครงการต่างๆ อาทิ
- blu ชะอำ-หัวหิน คอนโดมิเนียม ของบริษัทร่วมอิสสระ จำกัด
- The Zea ศรีราชาของบริษัท เวลธ์ ดีเวลลอปเปอร์ จำกัด
- เดอะแกรนด์ AD จอมเทียน/AD หัวหิน ของบริษัท เอ.ดี.เฮ้าส์ จำกัด นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอีกหลายโครงการ
“เนื่องจาก ระบบผนังอิฐมวลเบาเสริมโครงเหล็ก ฟูลฟิลล์ วอลล์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายแบบ B2B ดังนั้นบริษัทจึงได้เริ่มผลักดันการขายนับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เกิด Reference Site ตอกย้ำความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งต่อจากนี้ก็จะเดินหน้าสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายต่อไป โดยเน้นสื่อสารถึงจุดเด่นและนวัตกรรมของระบบผนังที่ทำให้การก่อสร้างง่ายและรวดเร็วกว่าการก่อสร้างในรูปแบบเดิม หน้างานสะอาด ส่งงานเร็วลดต้นทุนแฝง
อีกทั้งยังมีบริการการติดตั้งครบวงจร ผ่านการออกบูธจัดแสดงเกี่ยวกับงานก่อสร้าง อีกทั้งยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิตอล ตลอดจนอัพเดทข้อมูลในเว็บไซต์ www.scgbuildingmaterials.com โดยเรามั่นใจว่าหลังการแนะนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ จะทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 223 ล้านบาท หรือคิดเป็น 320,000 ตร.ม. ทั้งนี้นอกจากการเปิดตัวระบบผนังอิฐมวลเบาเสริมโครงเหล็ก ฟูลฟิลล์ วอลล์ เข้าสู่ตลาดแล้ว หลังจากนี้ทางเอสซีจี บิลดิ้งเทค ยังมีแผนในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นโซลูชั่นสำหรับผนังในรูปแบบอื่นๆ อาทิ S Wall, Precast เข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการต่อไป เพื่อตอบวิสัยทัศน์ในการเป็นแบรนด์สินค้าเทคโนโลยีระบบก่อสร้าง ที่ตอบโจทย์งานก่อสร้างที่รวดเร็ว คุณภาพสูง แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคต” นายสราวุฒิ กล่าวสรุป
โดยภายในงาน มีร่วมเล่นกิจกรรม ที่ทาง SCG Buliding Tech จัดขึ้น เพื่อทดสอบนวัตกรรมปูนสูตรพิเศษ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับวิธีการติดตั้งระบบผนัง ฟูลฟิลล์ วอลล์ โดยเฉพาะ คือใช้ระยะเวลาในการเซ็ทตัวเพียง 1.30 นาที เร็วกว่าปูนซีเมนต์ทั่วไปถึง 95%
โดยมี ถ้วย 2 ใบ โดยแยกเป็นใส่ปูนและใส่น้ำ และช้อนไว้สำหรับคน ปูนกับน้ำให้เป็นเนื้อเดียวกัน
แล้วต่อไปนำปูนที่เททิ้งไว้ มาเทลงในแก้วที่ใส่น้ำ
หลังจากใช้เวลา 1.30 นาที ปูนก็จับตัวกันเรียบร้อย เร็วมาก
แกะแก้วออก ก็เป็นตามภาพ
ง่ายๆ เพียงใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ตกแต่งเสร็จเรียบร้อย นำไปตกแต่งได้แบบสวยๆเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก www.scgbuildingmaterials.com