"ทองหล่อ" บ้านของมหาเศรษฐีเมืองไทย

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมทองหล่อถึงกลายมาเป็นทำเลทองถึงทุกวันนี้ ทองหล่อถือเป็นทำเลหนึ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ชื่อซอย “ทองหล่อ” ถูกตั้งชื่อตามนามเดิมของ เรือโททองหล่อ ขำหิรัญ ซึ่งสมาชิกคณะราษฎรได้กระทำการปฏิวัติสยามเมื่อปี พ.ศ. 2475 และในช่วงสมัยสงครามโลก ซอยทองหล่อถูกทำเป็นที่ตั้งของฐานทัพทหารญี่ปุ่น หลังจากนั้นทองหล่อได้ถูกปรับทัศนียภาพโดยรอบ จากถนนแคบๆที่มีคลองขนาบข้าง ถูกพัฒนาให้เป็นถนนหกช่องจราจร เป็นการปรับภูมิทัศน์ครั้งใหญ่และครั้งสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพทำเลทองหล่อให้มีความพร้อมสำหรับการพัฒนาจนถึงปัจจุบัน

โดยทำเลทองหล่อถือเป็นอีกทำเลศักยภาพในย่านสุขุมวิทที่สำคัญ สามารถเชื่อมต่อระหว่างถนนสายสำคัญสองสายเข้าด้วยกัน ระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนเพชรบุรี ซอยทองหล่อถือเป็นถนนซอยที่มีขนาดความกว้างมากที่สุดในย่านสุขุมวิทตอนกลาง และเป็นความกว้างของถนนที่กว้างเท่ากันตั้งแต่ต้นซอยไปจนถึงปลายซอย ทำให้ทำเลทองหล่อสามารถก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่พิเศษได้

โดยปัจจุบันปัญหาเรื่องขนาดความกว้างของถนน ถือเป็นปัญหาใหญ่ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ย่านสุขุมวิทเลยก็ว่าได้ เราจึงเห็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในซอยทองหล่อไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมระดับ High-End ขึ้นเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก จากศักยภาพของทำเลที่สามารถทำประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จึงเป็นตัวผลักดันให้ราคาซื้อขายที่ดินในซอยทองหล่อมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันมีราคาซื้อขายสูงถึง 1,500,000 บาทต่อตารางวา พุ่งขึ้นมา 67% จากปี 2555 ที่ขายในราคา 900,000 บาทต่อตารางวา สูงเป็นอันดับต้นๆของกรุงเทพมหานคร และมีแนวโน้มว่าซอยทองหล่อ จะเป็นย่านที่มีราคาคอนโดมิเนียมโดยเฉลี่ยสูงที่สุดของประเทศไทย

นอกจากนี้การทำธุรกิจที่นี่ “ราคาไม่ใช่เรื่องสำคัญ” เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่ยอมจ่ายเพื่อให้ได้ของดี มีคุณภาพ จึงไม่น่าแปลกใจหากจะพบว่าราคาอาหารในย่านนี้จะแพงกว่าย่านอื่น 2-3 เท่า “ทองหล่อ” จึงเปรียบเหมือนจุดตั้งต้นธุรกิจ เพื่อสร้างฐานลูกค้ากำลังซื้อสูง สร้างสังคมทางธุรกิจ (Connection) ด้วยความมีสีสันและหอมหวานของทำเลส่งให้ทองหล่อเป็นทำเล “Rare item” ของเหล่ามิลเลียนแนร์เสมอมา

วันนี้ TerraBkk สำรวจ สะท้อนภาพความเป็นหนึ่งเดียวของทำเลแห่งการสร้างสังคมธุรกิจ (Connection) ของบรรดามหาเศรษฐีตระกูลดัง และกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ภูมิใจและรัก “ทองหล่อ” ทั้งกลุ่มผู้อยู่อาศัยมาตั้งแต่ต้นตระกูลและย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียมหลังที่ 2 ดังนี้

7 คนดังในทองหล่อย่านมิลเลียนแนร์ที่เหล่าทายาทนักธุรกิจแสวงหาตลอดกาล

ทองหล่อได้ชื่อว่าเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับพรีเมี่ยมของเหล่าเศรษฐี นักธุรกิจ เซเลบริตี้คนดัง ส่วนหนึ่งที่เป็นเช่นนั้นเพราะย่านนี้เป็นทำเลธุรกิจศักยภาพสูงที่สุดในย่านสุขุมวิทตอนกลาง ที่สำคัญยังมีเอกลักษณ์พิเศษที่รวมวัฒนธรรมเก่ามาบรรจบกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว เพราะนอกจากจะเป็นโซนที่อยู่อาศัยของบ้านหลังใหญ่ที่ตกทอดกันมาแต่เดิมแล้ว ยังมีการรวมตัวของร้านค้าระดับผู้นำเทรนด์ทั้งหลายทั้งร้านเฟอร์นิเจอร์สุดฮิป, แฟชั่นบูติคและร้านอาหารคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ชื่อดัง ส่วนผสมเหล่านี้ทำให้ทองหล่อเป็นย่านที่อยู่อาศัยและย่านกินดื่มเที่ยวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดบนถนนสุขุมวิท

1. บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทยวิสัยทัศน์ไกลผู้สร้างปรากฏการณ์ให้วงการธนาคารเมืองไทยโดยนอกจากมีบ้านสวนแสนสวยในจังหวัดน่านเพื่อไว้พักผ่อนและหวังเป็นบ้านหลังเกษียณแล้วชีวิตการทำงานในเมืองเขาเลือกอาศัยอยู่ในซอยทองหล่อ

2. ครอบครัวศิลาอ่อน-ไรวา เจ้าของอาณาจักรอาหาร S&P เครือข่ายร้านอาหารที่ใหญ่แห่งหนึ่งของเมืองไทยและมีสาขาอยู่ทั่วประเทศภายใต้ชื่อร้าน S&P, Patara,Bluecupรวมถึงร้านอาหาร VanillaGardenในเอกมัยตระกูลศิลาอ่อน-ไรวา เป็นครอบครัวที่มีลูกหลานหลายรุ่นและมีความสัมพันธ์กันเหนียวแน่นแต่ละคนอาศัยอยู่ในย่านสุขุมวิทและทองหล่อไม่ว่าจะเป็นคอนโดหรือบ้านเพื่อจะอยู่ใกล้กับบ้าน “คุณใหญ่” ภัทราศิลาอ่อนผู้สร้างตำนาน S&P

3. ครอบครัวจิรมณีกุล อีกหนึ่งครอบครัวใหญ่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังงามกลางซอยทองหล่อ ภายใต้การนำของคุณสุทินจิรมณีกุลผู้นำธุรกิจจิวเวลรี่S.T. Diamondและธุรกิจนำเข้านาฬิกาไฮเอนด์ที่มีโชว์รูมอยู่ในศูนย์การค้าระดับท็อปคลาสของเมืองไทยและกำลังส่งต่อธุรกิจให้กับทายาทอย่าง “มิ้นท์” อรรถวดี

4. ภัทรียา ณ นคร ทายาทแห่งอิตาเลเซีย เทรดดิ้งบริษัทอิมพอร์ตไวน์-สินค้าจากอิตาลีและเป็นนักเขียนพ็อกเก็ตบุ๊ครวมถึงวิทยากรด้านบุคลิกภาพซึ่งทุกคนจะติดภาพลักษณ์สาวเปรี้ยวคนนี้ในฐานะอดีตเจ้าแม่ GUCCIจากที่เคยนำเข้าแบรนด์GUCCI และ BOTTEGA VENETA

5. แพรพรรณ ธรรมวัฒนะ นักธุรกิจสาวรุ่นใหม่ไฟแรงฉายา'เจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทย' ที่ได้มาเพราะบทบาทกรรมการบริหารบริษัทเพลย์เฮ้าส์จำกัดอาณาจักรของเล่นที่คัดสรรสุดยอดไอเท็มการ์ตูนจากทั่วโลกรวมถึงดิสนีย์ซึ่งส่วนใหญ่มีช็อปอยู่ในย่านช็อปปิ้งชื่อดังเธอจึงแยกตัวมาอยู่คอนโดฯในย่านทองหล่อเพื่อความสะดวกในการเดินทาง

6. มนตร์ลดา พงษ์พานิช ลูกสาวคนสวยของนักการเมืองผู้ล่วงลับมนตรีพงษ์พานิชสาวสังคมที่รักปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจและหันมาทุ่มเทสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองในชื่อ “Monlada” ที่มีบูติกในทองหล่อและ Zen

7. “วิก” ธีร์รัฐ ว่องวัฒนะสิน ดีไซเนอร์มากพรสวรรค์เจ้าของ Vickteerut (วิกธีร์รัฐ) แบรนด์เสื้อผ้าคัตติ้งเนี้ยบที่มีผลงานการได้รับการยอมรับจากเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทย

คงไม่ต้องแปลกใจที่ย่านนี้เป็นย่านที่มีการเคลื่อนไหวของราคาที่ดินสม่ำเสมอและถีบตัวสูงขึ้นเสมอมา

“ทองหล่อ” จุดตั้งต้นธุรกิจ เพื่อสร้างฐานลูกค้ากำลังซื้อสูง สร้างสังคมทางธุรกิจ

จากความเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่คราคร่ำไปด้วยเหล่าบรรดามหาเศรษฐีกำลังซื้อสูง ทั้งชาวไทยและต่างชาติ อีกทั้งทองหล่อยังเป็นสังคมชาวญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีนักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยจะนำ “ทองหล่อ” เป็นจุดตั้งต้นธุรกิจก่อนทุกครั้ง ที่นี่จึงเป็นทำเลที่ไม่เคยหลับใหล คึกคักไปด้วยผู้คนที่มากิน ดื่ม และจับจ่ายใช้สอยตลอดเวลา หันไปทางไหนก็จะเจอแต่ร้านอาหารและร้านค้าระดับพรีเมียมเป็นจำนวนมาก ธุรกิจหลักๆในย่านนี้คือ ร้านอาหาร ร้านเฟอร์นิเจอร์แบรนด์หรูและนำเข้า และร้านเวดดิ้ง สตูดิโอ แสดงให้เห็นถึง Lifestyle ของกลุ่มคนมีระดับ ที่นิยมออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน/คอนโด

“ตัน ภาสกรนที” จุดเริ่มต้นธุรกิจเวดดิ้ง สตูดิโอและแบรนด์โออิชิ ที่ซอยทองหล่อ

หากเอ่ยชื่อ “ตัน ภาสกรนที” คงไม่มีใครไม่รู้จักชายคนนี้ในฐานะเจ้าพ่อชาเขียว เขาคือผู้ปลุกปั้นแบรนด์โออิชิ ก่อนขายให้กับไทยเบฟ แต่ก่อนหน้านั้นตันเริ่มตั้งตัวด้วยธุรกิจเวดดิ้ง สตูดิโอ (Wedding Studio) จากการเช่าตึกแถวในทองหล่อเกิดเป็น Marriage Studio ในปี 2537 ตั้งอยู่ตรงหัวมุมทองหล่อ 9 หลังจากประสบความสำเร็จในไลน์ของธุรกิจเวดดิ้ง สตูดิโอ (Wedding Studio) ตันยังคงวนเวียนหาช่องทางในทำเลทองหล่อ ด้วยการสร้างแบรนด์ “โออิชิ” ภัตตาคาร บุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่น โออิชิมีที่ตั้งสาขาแรกที่ทองหล่อ เปิดตัวเมื่อปี 2542 ก่อนจะแตกไลน์เป็นแบรนด์อื่นๆ และได้รับความนิยมไปทั่วประเทศในเวลาต่อมา นอกจากนี้ตันยังมีที่ดินตรงทองหล่อ 10 ที่พัฒนาเป็นสนามฟุตบอลและ Community ขนาดย่อมๆ หรือที่เรียกว่า Arena10 และสถานบันเทิง Funky Villa เพื่อรองรับ Lifestyle คนในทองหล่อ เรียกได้ว่าตันเป็นหนึ่งในเจ้าพ่อย่านทองหล่อคนหนึ่งที่มีธุรกิจและตั้งต้นชีวิตของเขาจากทำเลนี้เลยก็ว่าได้

ดีลเลอร์เบนซ์รายใหญ่ในเมืองไทย “เบนซ์ทองหล่อ”

หากกล่าวถึงดีลเลอร์เบนซ์รายใหญ่ในเมืองไทย แน่นอนว่าใครๆก็ต้องนึกถึง “เบนซ์ ทองหล่อ” ดีลเลอร์ยักษ์ใหญ่ที่หลายคนไว้วางใจ จุดแข็งสำคัญที่สุดของเบนซ์ทองหล่อ ที่วสันต์ โพธิพิมพานนท์ ได้เคยเปิดเผยไว้ก็คือ “ทำเลที่ได้เปรียบ” เพราะโชว์รูมส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทั้งสิ้น จุดเริ่มต้นของ “เบนซ์ทองหล่อ” เกิดขึ้นที่ทองหล่อ 18 ซึ่งถือเป็นสาขาแรกของเบนซ์ทองหล่อ ด้วยเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ พร้อมคลับเฮ้าส์หรูหราเพื่อรองรับลูกค้า สาขานี้เปรียบเสมือนสำนักงานใหญ่ให้กับสาขาอื่นๆ อีกทั้งทองหล่อเป็นทำเลที่เต็มไปด้วยกลุ่มคนมีกำลังซื้อสูง เป็นผู้มีรสนิยมและมีสไตล์ ครั้งหนึ่งวสันต์เคยกล่าวเอาไว้ว่า เขาไม่ได้รวยเพราะขายเบนซ์ แต่เขารวยเพราะขายที่ดิน โดยที่ดินที่ทำโชว์รูมนั้นเป็นที่ดินที่เขาซื้อมาทั้งสิ้น (ยกเว้นสาขาที่ถนนวิทยุ) เพราะถือเป็นการเก็งกำไรไปในตัว

พิมพ์ชนก (พลางกูร) สุภัทรพันธุ์ เจ้าของแบรนด์ชา No.57 กับธุรกิจใหม่ “ตำทองหล่อ”

เมื่อเจ้าแม่แบรนด์ชา No.57 แบรนด์ชาไทยที่โด่งดังไปไกลถึงยุโรปและญี่ปุ่น หันมาจับธุรกิจด้านอาหาร แน่นอนว่าทำเลที่หนีไม่พ้นคือ “ย่านทองหล่อ” ในชื่อ “ตำทองหล่อ” ร้านอาหารอีสานสไตล์โมเดิร์น ใจกลางเมือง ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 อาคารเดอะ เทสต์ ทองหล่อ 11 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ทำเลของนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง

“Roast Coffee & Eatery”หนึ่งในร้านยอดนิยมที่ขึ้นชื่อที่สุดในซอยทองหล่อ อันเกิดจากหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง “วรัตต์ วิจิตรวาทการ (เต้)” ที่เริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟและคาเฟ่ในทองหล่อ 13 ปัจจุบันวรัตต์ได้ขยายกิจการออกมาจากธุรกิจอาหาร มาสู่การเปิดคอมมูนิตีมอลล์ (Community Mall) ใจกลางทองหล่อในชื่อ “The Common”เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์สุดพรีเมียมของชาวทองหล่อ หากใครได้ไปเยือน The Common แห่งนี้ จะพบว่ามักจะพบเจอเหล่าเซเลปคนดังอยู่เสมอๆ

ร้านอาหารของดาราแนวหน้าในเมืองไทย

นอกจากนักธุรกิจที่มาเปิดกิจการในย่านทองหล่อแล้ว ยังมีดาราและคนดังแนวหน้าของเมืองไทยที่คิดอยากจะเปิดร้านอาหาร ก็มักจะใช้ “ทองหล่อ” เป็นที่ตั้งที่แรกในการเปิดกิจการ TerraBKK Research จึงขอรวบรวมมาดังนี้

• Iron Chef Table จากรายการเชฟกระทะเหล็กชื่อดัง ที่ได้เปิดหน้าร้านออกนอกจอมาปรุงอาหารให้ได้ชิมกันที่ทองหล่อ 11 กับเมนูอาหารสุดพรีเมียม
• Sushi shin ร้านอาหารญี่ปุ่นของดาราหนุ่มมาดกวน “บอย-ปกรณ์และเพื่อนดาราร่วมช่อง เจิน-ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ” ตั้งอยู่ที่ทองหล่อ 13
• Audrey ร้านอาหารของ “แบม-จณิสตา จรูญสมิทธิ์ และน้องสาวโบ-ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์” ที่อบอวลไปด้วยความสวยงามในสไตล์ French Vintage ตั้งอยู่ที่ทองหล่อ 11
• Tadaimaร้านอาหารญี่ปุ่นในบรรยากาศอิซากายะของนักแสดงหนุ่ม “กันต์ กันตถาวร” ทั้งอยู่ที่อาคาร Eight Thongloทองหล่อ 8
• Wine Republic Bar & Bistro ร้านไวน์บาร์ในซอยทองหล่อ 10 และร้าน Spaghetti Houseของคู่รักดารา “อั๋น ศราวุธ และ เจนนี่ เจนนิเฟอร์”

ทั้งหมดนี้พอจะทำให้ทุกท่านเห็นภาพทองหล่อได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ถึงความเป็นทำเลระดับพรีเมียม ที่รวมนักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยเข้าไว้ในทำเลนี้ นิยามของทองหล่อคือ “ทำเลคุณภาพและความปลอดภัยชั้นเลิศ (Premium and Safety)” คือกุญแจสำคัญที่ทำให้หลายธุรกิจประสบความสำเร็จและต่อยอดไปยังสาขาอื่นๆอีกทั่วประเทศ

ย้อนรอยคอนโดฯหรูใน “พร้อมพงษ์-ทองหล่อ”

แม้ “ทองหล่อ” จะเป็นทำเลพรีเมียมของสังคมไฮโซ แต่คอนโดมิเนียมที่เป็น High-End อย่างแท้จริงนั้นกลับเปิดตัวไม่บ่อยนัก ทำให้ทุกครั้งที่มีโครงการระดับ High-End บวกกับขนาดระดับ Large Scale ขึ้นไป (ขนาดเริ่มต้น 100ตร.ม.ขึ้นไป) มาเปิดตัวในทำเลนี้ มักจะมีกระแสตอบรับที่ดีเสมอ บางโครงการสามารถขายหมดได้ในเวลาอันรวดเร็ว และยังส่งผลให้คอนโดมิเนียมในทำเลนี้ราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ทั้งนี้หากจะกล่าวถึงคอนโดมิเนียมระดับ High-End TerraBKK Research จึงอยากขอหยิบอีกทำเลใกล้เคียงอย่างพร้อมพงษ์ สำหรับเป็นข้อมูลเสริม เพื่อพาทุกท่านย้อนรอยไปตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบันว่าสถานการณ์คอนโดมิเนียม High-End มีจำนวนมากน้อยเพียงใด

จะเห็นได้ว่าคอนโดมิเนียม High-End ระดับ Large Scale เกิดขึ้นเมื่อปี 2545 เริ่มต้นด้วยโครงการ Hampton Condominium ในราคาเปิดตัวที่ 75,000 บาทต่อตารางเมตร จากกราฟแสดงให้เห็นถึง Supply ของโครงการ High-End ในพร้อมพงษ์-ทองหล่อนั้น มีไม่มากนัก และ 2-3 ปีจึงจะเกิดโครงการขึ้นมาซักครั้งหนึ่ง และในช่วงปี 2548-2555 จะเห็นได้ว่าเทรนด์ของตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงนั้น ผู้ประกอบการหันไปพัฒนาคอนโดมิเนียมขนาดเล็กกันเสียมาก (คอนโดมิเนียมที่มีห้องเริ่มต้นต่ำกว่า 100 ตร.ม.) ตลาดของคอนโดระดับ Large Scale จึงขาดช่วงไปพักหนึ่ง แต่ตอนนี้เราจะเห็นการกลับมาของคอนโด Large Scale ที่รองรับตลาดครอบครัวและผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง (Real Demand)

ความแตกต่างของคอนโดฯระดับ Large Scale คือ ห้องที่กว้างขวางระดับ 100 ตร.ม.ขึ้นไป เน้นความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถส่วนตัว, ลิฟท์ส่วนตัว หรือแม้กระทั่งสระว่ายน้ำส่วนตัว โดยเฉพาะที่ตั้งที่อยู่ในทำเลสุดพรีเมียมในทองหล่อ เปรียบเสมือนการนำบ้านเดี่ยวมาจัดวางในรูปแบบ Vertical จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นการกลับมาของตลาดคอนโดมิเนียมระดับ Large Scale อีกครั้ง ในปีนี้จากทั้งผู้เล่นหน้าใหม่ “TELA Thonglor” โครงการใหม่ล่าสุดจาก Gaysorn Property เปิดตัวในราคาเริ่มต้น ตารางเมตรละ 280,000 บาท และล่าสุดจากแสนสิริ ที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กับการนำแบรนด์ The Monument ที่เคยเปิดในทำเลสนามเป้า และได้สามารถปิดการขายได้ในวัน Pre-sales ในชื่อว่า “The Monument Thong Lo” คาดว่าโครงการนี้น่าจะมีราคาเฉลี่ยอยูที่ประมาณ ตารางเมตรละ 300,000 บาท - เทอร์ร่า บีเคเค

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก