"แจ็ค หม่า" เจ้าพ่ออาลีบาบาโดดซื้อกิจการ “เคเอฟซี” ในจีน ชาวเน็ตแซวเป็นการล้างแค้นที่เคยปฎิเสธรับเข้าทำงานหลายสิบปีก่อน
กลุ่มสื่อจีนรายงาน (4 ก.ย.) "แจ็ค หม่า" ซื้อกิจการเคเอฟซีในจีน ชาวเน็ตแซวเป็นการล้างแค้นหลังจากเคยถูกปฎิเสธรับเข้าทำงานสมัยตอนหนุ่ม
วันศุกร์ (2 ก.ย.) ยัม แบรนด์ส (Yum Brands) บริษัทแม่ของเคเอฟซี และพิซซ่าฮัท ได้ทำสัญญาขายกิจการสาขาในประเทศจีนให้แก่บริษัทไพรมาเวลา แคปปิทัล และบริษัทแอนท์จินหรง ซึ่งเป็นบริษัทประกอบธุรกิจการเงินการลงทุนภายใต้อาณาจักรอาลีบาบาของ "แจ็ค หม่า" ด้วยมูลค่า 460 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือมูลค่าราว 15,000 ล้านบาท ทำให้บริษัททั้งสองกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทยัม แบรนด์สประเทศจีน ด้วยหุ้นจำนวน 4 เปอร์เซ็นต์และ 6 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
ทั้งนี้ แม้ว่า “บริษัทยัม แบรนด์สประเทศจีน” จะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับ “ยัม แบรนด์ส” ในฐานะบริษัทในเครืออีกต่อไป แต่ก็ยังต้องจ่ายรายได้จำนวน 3 เปอร์เซ็นต์ให้แก่ยัม แบรนด์สเป็นค่าลิขสิทธิ์ในทุกๆปี
ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจกับการซื้อกิจการดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเจ้าพ่ออาลีบาบาเคยให้สัมภาษณ์ว่า ในสมัยตอนเขายังหนุ่ม เขาเคยเข้าสัมภาษณ์สมัครงานกับร้านไก่ทอด “เคเอฟซี” พร้อมกับผู้สมัครทั้งหมด 24 ราย ซึ่งผู้สมัครจำนวน 23 รายต่างผ่านการสัมภาษณ์และได้เข้าร่วมทำงานกับเคเอฟซี มีแต่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ถูกปฎิเสธ เมื่อเขากลับมาซื้อกิจการเคเอฟซีในครั้งนี้ ทำให้ชาวเน็ตต่างแซวว่าเป็นการล้างแค้นที่เคยปฎิเสธไม่รับเขาเข้าทำงานในครั้งนั้น
ชาวเน็ตบางคนได้เปลี่ยนภาพสัญลักษณ์ของร้านเคเอฟซี ซึ่งเป็นภาพ “ผู้พันแซนเดอร์ส” ผู้ก่อตั้งตำนานไก่ทอดเคเอฟซียิ้มร่าบนพื้นหลังสีแดง โดยได้ตัดหน้าของเจ้าพ่ออาลีบาบามาแปะทับแทน นอกจากนี้ ยังมีผู้แต่งเรื่องตลกขึ้น โดยระบุว่าวันหนึ่งแจ๊คหม่าเกิดหิวระหว่างนั่งทำงาน เลยขอให้เลขาฯช่วยไปซื้อเคเอฟซีมาให้ เมื่อเวลาผ่านไป 5 นาที เลขาฯเดินกลับมาบอกว่าได้ซื้อเคเอฟซีเรียบร้อยแล้วในราคา 460 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก MGR Online