ลด สินค้า35-50%ยาว3เดือน วัสดุก่อสร้าง - เครื่องใช้ไฟฟ้า ช่วยพี่น้องใต้ซ่อมแซมบ้าน

“สนธิรัตน์” ประสานผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าจำเป็น ลดราคา 35-50% เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ฟื้นฟูร้านค้าและบ้านเรือน ขณะที่โมเดิร์นเทรดทุกสาขาในภาคใต้พร้อมใจลดราคาด้วยเช่นกัน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าจำเป็นในการฟื้นฟูบ้านเรือนและร้านค้าของประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้หลังสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย เพื่อนำสินค้าวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภค-บริโภคต่างๆ ไปจำหน่ายราคาลดพิเศษ 35-50% เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ภาคเอกชนเข้าโครงการลดราคาสินค้าเพื่อช่วยผู้ประสบภัยภาคใต้ ประกอบด้วย ผู้ผลิตจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง 3 ราย ลดราคาสินค้าปูนซีเมนต์, อิฐ, กระเบื้อง, สีทาบ้าน, ประตู และสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการซ่อมแซม ได้แก่ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง, บมจ. โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ (โฮมโปร) และบริษัท ซีอาร์ซี เพาเวอร์ รีเทล (ไทวัสดุ)

โดยโฮมโปรลดสูงสุด 40% จำนวน 9 สาขา ได้แก่ หาดใหญ่ กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ และพัทลุง ส่วนไทวัสดุลดสูงสุด 40% จำนวน 5 สาขา ได้แก่ หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี ตรัง ภูเก็ต และชะอำ ส่วนเอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง จัดสินค้า One Price ลดสูงสุด 35% ในร้านค้า/ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ประสบภัยภาคใต้

นอกจากนี้ มีอีก 3 ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ได้แก่ แม็คโคร บิ๊กซี และเทสโก้ โลตัส ลดราคาจำหน่ายสินค้าหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องครัวสูงสุด 50% เช่น หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน พัดลม ตู้เย็น กะทะ จาน ชาม เป็นต้น หมวดอาหารและเครื่องดื่มของใช้ประจำวัน ลดสูงสุด 40% เช่น น้ำดื่ม ข้าวสาร นม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แชมพู เป็นต้น และหมวดอื่นๆ ลดสูงสุด 30% เช่น ไม้กวาด แปรงขัดพื้น เป็นต้น ทุกสาขาในจังหวัดภาคใต้ พร้อมกับผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า 2 ราย ได้แก่ พานาโซนิค จำนวน 5 สาขา ได้แก่ สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ยะลา และตรัง และโตชิบา ลดทุกสาขาในจังหวัดภาคใต้

"คาดว่าระยะ 3 เดือนของโครงการลดราคาช่วยใต้ครั้งนี้ จะบรรเทาความเดือดร้อนจากน้ำท่วมภาคใต้ได้ 4 แสนครัวเรือน หากแต่ละครอบครัวใช้จ่ายครัวเรือนละ 1,000 บาท จะมีเงินสะพัดประมาณ 400 ล้านบาท และเฉลี่ยราคาสินค้าลด 30% เท่ากับช่วยลดค่าครองชีพประชาชน 120 ล้านบาท แต่เชื่อว่าจะมีมูลค่ามากกว่านี้" นายสนธิรัตน์กล่าว

พร้อมกันนี้ ได้ให้กรมการค้าภายในไปสำรวจความต้องการสินค้าธงฟ้าของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อนำสินค้าธงฟ้าออกไปจำหน่ายได้ตรงตามความต้องการและสามารถดำเนินได้ทันที.