รฟท. จ่อตั้งบริษัทลูกบริหารที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์ 3.9 หมื่นไร่ แจงถือหุ้นเองเต็ม 100% เล็งจ้างเอกชนบริหารก่อน 5 ปี

นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงานกำกับติดตามการพัฒนาที่ดินไม่ได้ใช้เพื่อการเดินรถ (Non-Core) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ทาง รฟท.มีแผนงานที่จะบริหารจัดการปรับโครงสร้างองค์กร โดยจะตั้งบริษัทลูก มาบริหารที่ดินที่ไม่ได้ใช้เดินรถและไม่เกิดประโยชน์ ทั้งหมด 3.9 หมื่นไร่ ซึ่ง รฟท.จะถือหุ้นทั้งหมด 100%

ทั้งนี้ รฟท.จะต้องจ้างเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญ มาบริหารงานไปก่อนในช่วงแรกราว 5 ปี ซึ่งจะมีหน้าที่ทำงานแทน รฟท. และวางแผนในระยะแรก ทั้งการวางระบบราง จัดทำร่างสัญญา TOR, คัดเลือกผู้เช่า และเมื่อบริหารจนจบตามสัญญา 5 ปี หลังจากนั้นจะให้บริษัทลูกที่จะจัดตั้งขึ้นมาบริหารงานต่อไป เพื่อให้บริษัทลูกมีการเรียนรู้งานจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะทำให้การบริหารงานไม่เกิดความผิดพลาด

สำหรับแผนการทำงานโรดแมป และแผนปฏิบัติการ (Action Plan) รวมถึงตัวชี้วัดการทำงาน (KPI) ทาง รฟท. ได้เสนอให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาแล้ว โดยที่ดินทั้ง 3.9 หมื่นไร่ จะถูกแบ่งเป็น 3 แผนงาน คือ 1.ที่ดินไม่ได้จัดทำสัญญาทั้งแปลงใหญ่และแปลงเล็ก 2.ที่ดินมีสัญญาเช่า แต่มีปัญหาทั้งสัญญาเช่าหมดอายุ ระบบบัญชีไม่มีความสมบูรณ์ และ 3.การพัฒนาระบบใหม่โดยใช้ไอทีในการดำเนินงาน เช่น การจัดเก็บค่าเช่า ทดแทนเจ้าหน้าที่ในการเก็บ ลดทุจริตและข้อผิดพลาด

นอกจากนี้ยังเร่งให้ รฟท. ทำแผนงานการบริหารที่ดินย่านมักกะสันให้เสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้ เพื่อเสนอที่ประชุม คนร.พิจารณาในเดือน มี.ค.2560 โดยในแผนงานจะต้องมีทั้งแนวทางการหาผู้เช่า ทิศทางการเงินโดยเฉพาะรายได้ที่ได้จากการบริหาร ต้องส่งให้กระทรวงการคลังทั้งหมดเพื่อชำระหนี้ และต้องศึกษาพื้นที่ทั้ง 497 ไร่ ว่าเหลือจำนวนแปลงเปล่าที่บริหารจริงเท่าไร เพราะบางส่วนจะต้องถูกทำเป็นพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะ ขณะที่โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง รังสิต-บางซื่อ และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ รฟท.มีความต้องการจะนำไปบริหารและเดินรถเองทั้งหมด ก็ต้องเสนอแผนมาให้ คนร.พิจารณาเช่นเดียวกัน.

ขอบคุณข้อมูลจาก Thaipost จากหัวข้อข่าว : รฟท. ตั้งบริษัทดูแลที่ดิน 5ปีแรกจ้างเอกชนบริหาร