SFหาพาร์ตเนอร์ปั้น เมกาซิตี้

"เอสเอฟ" ประกาศหาพาร์ตเนอร์ ร่วมพัฒนามิกซ์ยูส โครงการ "เมกาซิตี้" มูลค่าลงทุนกว่า 6.7 หมื่นล้านบาท เดินหน้าเฟสแรกเพิ่มที่จอดรถอีก และปรับปรุงรอบนอก คาดโรงแรมเริ่มปี 61

นายคริสเตียน โอลอฟสัน กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทมีที่ดินอีก 200 ไร่ที่สามารถพัฒนาเป็นโครงการได้ในอนาคต แบ่งเป็นฟรีโฮลด์ (Free Hd) 100 ไร่ และลีสโฮลด์ (Lease Hold) 100 ไร่ เบื้องต้นอยากสร้างให้เป็นโครงการ "เมกาซิตี้" หรืออสังหาริมทรัพย์รูปแบบ "มิกซ์ยูส" ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม และศูนย์การค้า เพื่อเป็นส่วนเติมเต็ม และรองรับผู้เข้าใช้บริการที่สูงขึ้นต่อเนื่อง หรือเฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปี จากการดำเนินธุกิจมาราว 5 ปี คาดการณ์ว่ามูลค่าการลงทุนคงมากกว่า 6.7 หมื่นล้านบาท สำหรับการพัฒนาโครงการดังกล่าว เริ่มต้นการใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.การขยายพื้นที่จอดรถอีกจำนวน 1,200 คัน 2.เพิ่มร้านอาหารอีก 40 ร้านค้า และ 3.ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่โดยรอบของศูนย์การค้าให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 3 ส่วนข้างต้นที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจะแล้วเสร็จได้ช่วงปลายปี 2560 หรือเดือน ธ.ค.นี้

ส่วนการพัฒนาโครงการในรูปแบบโรงแรม น่าจะเริ่มได้ปี 2561 และต้องใช้เงินลงทุนเฉลี่ย 2,000-3,000 ล้านบาท โดยแห่งแรกจะเป็นระดับ 4 ดาว ประกอบด้วยห้องพักอย่างน้อย 200 ห้อง บริษัทจะเป็นผู้ลงทุนเอง และได้มอบหมายให้บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ทำการคัดเลือกบริษัทที่จะเข้ามาบริหารโรงแรมของโครงการเมกา ซิตี้ แห่งนี้ ขณะเดียวกันยังมองหาพันธมิตรทางธุรกิจหรือผู้ที่สนใจมาลงทุนสร้างโรงแรมอีกหนึ่งแห่งควบคู่กันไปด้วย

"ในตอนนี้เราคงมองหามีโมเดลทางธุรกิจที่จะหาพาร์ตเนอร์มาลงทุนสร้างโครงการเมกะ ซิตี้ ร่วมกัน ตอนนี้คงทยอยดำเนินงานส่วนที่พร้อมแล้วไปก่อน และคงเป็นโครงการระยะยาวหรือต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10-13 ปีกว่าจะพัฒนาเมืองใหม่ย่านบางนา-ตราด ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้" คริสเตียนกล่าว

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการปี 2559 ยังคงเป็นไปได้ดี แม้ว่าจะมีบางกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจบ้าง หรือมีผู้เข้าใช้บริการ 2.5 แสนคนต่อวัน เติบโตราว 15% เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีคนเข้ามาเพิ่มราว 8% เนื่องจากปี 2559 บริษัทเติบโตค่อนข้างมาก.