เงินเฟ้อ ขาขึ้น!หวั่นสินค้าแพง ม.ค.พุ่ง1.55%สูงสุด28เดือนพาณิชย์ปูพรมธงฟ้า4หมื่นจุด

เงินเฟ้อขาขึ้น! เดือน ม.ค.พุ่ง 1.55% สูงสุดในรอบ 28 เดือน ผลจากราคาน้ำมันปรับตัวสูง พืชเกษตรเริ่มขึ้น พาณิชย์ชี้สัญญาณดีต่อเศรษฐกิจฟื้น พร้อมติดตามดูแลสินค้าไม่ให้ฉวยโอกาส ดีเดย์ เม.ย.นี้ ปูพรมธงฟ้า เฉียด 4 หมื่นจุดทั่วประเทศ ราคาถูกลง 15-20%

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือน ม.ค.2560 เท่ากับ 100.75 สูงขึ้น 1.55% เทียบ ม.ค.2559 เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 28 เดือน นับจาก ก.ย.2557 และสูงขึ้น 0.16% เทียบ ธ.ค.2559

สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อบวก เป็นผลจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้น 1.53% สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น เช่น เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ เพิ่ม 1.07% ผักและผลไม้ 6.62% เครื่องประกอบอาหาร 2.21% อาหารบริโภคนอกบ้าน 1.30% ส่วนดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 1.55% สินค้าสำคัญราคาสูงขึ้น เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่ม 19.80% หมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 12.97%

สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อไตรมาส 1/2560 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.77% ซึ่งยอมรับว่าเงินเฟ้อในปีนี้จะอยู่ในช่วงขาขึ้น จากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ที่คาดว่าจะมีความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะสูงขึ้นประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งมองว่าการที่เงินเฟ้อขยับขึ้นส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศ เพราะเป็นการบอกทิศทางเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแล้ว และอัตราที่เพิ่มขึ้นไม่ได้สูงจนน่ากังวล

“แม้เงินเฟ้อปีนี้จะอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ไม่อยากให้ประชาชนกังวล เพราะการปรับขึ้นไม่ได้เพิ่มอย่างรวดเร็ว และการที่เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นบ้าง ไม่อยากให้คนตื่นตกใจ ยังอยู่ในระดับตามเป้าหมาย แต่ยอมรับว่าการที่น้ำมันดิบขยับราคา ทำให้เงินเฟ้อเพิ่ม จะมีเรื่องของราคาสินค้าปรับขึ้นตามมา แต่กระทรวงจะดูแลไม่ให้สินค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรม” น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว

สำหรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2560 คาดการณ์ทั้งปีจะขยายตัว 1.5-2.0% ภายใต้สมมติฐาน เศรษฐกิจไทยขยายตัว 3.25% ราคาน้ำมันดิบดูไบ 45-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 35.5-37.5 บาท/เหรียญสหรัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า การที่เงินเฟ้อเดือน ม.ค. ขยายตัวสูงสุดรอบ 28 เดือน และคาดว่าจะอยู่ในช่วงของเงินเฟ้อขาขึ้น มองว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจ แสดงว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว แต่อีกขาหนึ่งคือราคาสินค้าอาจจะขยับตาม ซึ่งตรงจุดนี้กระทรวงให้ความสำคัญที่จะติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สินค้าสะท้อนกับต้นทุนที่เป็นจริง

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ในเดือน เม.ย.นี้ ผู้ผลิตสินค้าที่เข้าร่วมโครงการนี้จะสามารถผลิตและกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ เบื้องต้นประมาณ 20 รายการ และขายถูกกว่าราคาท้องตลาด 15-20% ไปยังร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (โชห่วย) ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าประมาณ 20,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงกระจายไปยังตลาดชุมชน ในการส่งเสริมของกระทรวงพาณิชย์อีกราว 19,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศได้.