สรรพสามิต การันตี ภาษีใหม่ไม่โยนภาระ

สรรพสามิตวอนประชาชนอย่าตื่นร่างกฎหมายใหม่สั่งขยายเพดานการจัดเก็บภาษี ยันอัตราจัดเก็บจริงไม่สร้างภาระผู้บริโภค โอดจัดเก็บ 5 เดือนต่ำกว่าเป้าหมาย 2 พันล้านบาท

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สรรพสามิต ถือเป็นแนวทางหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรม และเพื่อให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และมีความเป็นสากลมากขึ้น

ทั้งนี้ นอกจากมีการเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บภาษีจากฐานราคาหน้าโรงงาน หรือราคาขายส่งช่วงสุดท้ายสำหรับสินค้าประเภทสุรา เบียร์ และราคาสำแดงนำเข้า (ซีไอเอฟ) มาเป็นฐานราคาขายปลีก หรือราคาแนะนำช่วงสุดท้าย ซึ่งจะช่วยให้การจัดเก็บภาษีมีความเป็นธรรมมากขึ้นแล้ว ยังได้มีการปรับเพดานอัตราภาษีเพิ่มขึ้น ซึ่งได้มีการพิจารณาปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และค่าเงินบาทในช่วง 20 ปีข้างหน้าด้วย

สำหรับหลักการเบื้องต้นในการจัดเก็บภาษีตามร่าง พ.ร.บ.สรรพสามิตใหม่ จะจัดเก็บตามมูลค่าบวกปริมาณ โดยเมื่อรวมทั้งสองส่วนแล้วจะต้องไม่เกินกว่าที่เคยจัดเก็บด้วยวิธีเดิม คือ การจัดเก็บตามมูลค่า หรือปริมาณ โดยส่วนใดสูงกว่าก็เลือกจากส่วนนั้น ซึ่งหลักการดังกล่าวจะช่วยทำให้ฐานภาษีของกรมขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

"การแก้ไขกฎหมายแต่ละครั้งต้องใช้ระยะเวลานาน มีความยุ่งยาก ทำให้กรมต้องมีการพิจารณาปรับอัตราเพดานการจัดเก็บภาษีเพื่อรองรับอนาคตในช่วง 20 ปีข้างหน้าด้วย ส่วนอัตราการจัดเก็บแท้จริงคงต้องมาดูในรายละเอียดอีกครั้งว่าควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ต้องอยู่ภายใต้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กำหนดว่าการกำหนดอัตราภาษีใน พ.ร.บ.สรรพสามิตฉบับใหม่จะต้องไม่สร้างภาระภาษีเพิ่มขึ้นให้กับประชาชน" นายสมชายกล่าว

สำหรับการจัดเก็บภาษีของกรมในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.59-ก.พ.60) มีรายได้รวมอยู่ที่ 2.19 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 2 พันล้านบาท โดยเป้าหมายอยู่ที่ 2.21 แสนล้านบาท เนื่องจากภาพรวมการบริโภคในช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ยังอยู่ในช่วงซบเซาจากสถานการณ์สำคัญของประเทศ ทำให้สถานบริการต่างๆ หยุดทำการ แต่เชื่อว่าจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจะสนับสนุนให้ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 5.55 แสนล้านบาท.