คลังตัดริบบิ้นปล่อยขบวน 7 แบงก์แท็กทีมติดตั้งเครื่องอีดีซี 5.6 แสนเครื่องทั่วประเทศ อวดค่าธรรมเนียม 0.55% ต่ำที่สุดในโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2560 เวลา 10.30 น. กระทรวงการคลังได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการให้บริการวางอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่องอีดีซี) ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (อีเพย์เมนต์) โดยได้ลงนามผู้มีสิทธิ์ให้บริการวางเครื่องอีดีซีจำนวน 2 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มแรก คือ Consortium มี บมจ.ธนาคารกรุงไทย, บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, บมจ.ธนาคารทหารไทย, บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ.ธนาคารธนชาต และกลุ่มที่ 2 กลุ่มกิจการค้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย บมจ.ธนาคารกรุงเทพ และ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า เครื่องอีดีซีที่ติดตั้งยังรองรับบริการอื่นในอนาคต ไม่ใช่เฉพาะแค่บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ยังรวมไปถึงอุปกรณ์บนโทรศัพท์มือถือ หรือบริการที่เรียกว่าอี-มันนี่ทั้งหมด โดยค่าธรรมเนียมการรับบัตรเดบิตได้ลดลงจาก 1.5-2.5% ของมูลค่าเงินที่ชำระ เป็นไม่เกิน 0.55% ซึ่งเป็นอัตราต่ำที่สุดในโลก และไม่เก็บค่าเช่า รวมถึงค่าติดตั้งอุปกรณ์ โดยอาจเก็บค่ามัดจำเพื่อป้องกันอุปกรณ์เสียหาย ซึ่งร้านค้าจะได้คืนเมื่อยกเลิกการใช้บริการ และตั้งเป้าหมายติดตั้งเครื่องอีดีซีให้ครบ 5.6 แสนเครื่องทั่วประเทศภายในเดือน มี.ค.2561 ซึ่งในส่วนนี้เป็นของภาครัฐ 1.8 หมื่นเครื่อง ต้องติดตั้งให้เสร็จในเดือน ก.ย.2560

นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีมาตรการช่วยเหลือร้านค้าที่ติดตั้งอุปกรณ์ โดยให้ร้านค้าสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการรับบัตร (MDR) ไปหักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 2 เท่า จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งมาตรการดังกล่าวนี้ จะช่วยลดภาระของร้านค้าในการรับบัตรได้มาก

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังจะออกระเบียบให้การรับและจ่ายเงินของภาครัฐเป็นอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ และในอนาคตยังจะให้นำมาใช้บริการจ่ายเบี้ยปรับ ใบสั่งจราจร ผ่านอิเล็กทรอนิกส์ด้วย เพื่อให้รัฐบาลสามารถเก็บเงินได้อย่างไม่รั่วไหล

"หลังจากติดตั้งเครื่องอีดีซีแล้ว รัฐบาลจะจัดแคมเปญแจกรางวัล ให้ผู้ใช้และร้านค้ามีสิทธิลุ้นโชคจากการชำระเงินผ่านเครื่องรับบัตรและตู้เอทีเอ็ม เพื่อจูงใจให้ใช้บริการและติดตั้งผ่านการชิงโชคใช้บัตรเดบิต โดยจะแจกรางวัลเป็นระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย.2560 สำหรับผู้ที่ใช้บริการในเดือน พ.ค. เป็นรางวัลมูลค่าเดือนละ 7 ล้านบาท รวมมูลค่ารางวัลเป็นเงิน 84 ล้านบาท" นายอภิศักดิ์กล่าว

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ธนาคารแต่ละแห่งจะต้องเร่งแข่งขันหาลูกค้ามาร่วมบริการติดตั้งเครื่อง โดยเฉพาะร้านค้าขนาดเล็ก และในระยะต่อไปเครื่องอีดีซีจะต้องสามารถใช้กับบัตรประเภทอื่นได้ เช่น โครงการตั๋วร่วม รถเมล์ รถไฟ และบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น ทั้งนี้ในปัจจุบัน คนไทยมีบัตรเดบิตจำนวน 54 ล้านใบ และมีเครื่องรับบัตร 4 แสนกว่าเครื่อง.

ขอบคุณข้อมูลจาก thaipost จากหัวข้อข่าว : ปูพรมติดอีดีซี5.6แสนเครื่อง 7 ธนาคาร จับมือชิงเค้ก อวดค่าฟีถูกสุดในโลก