พาณิชย์ยันคลังขึ้นภาษีสรรพสามิตไม่กระทบสินค้าต้องแพงขึ้น เหตุเก็บต่ำกว่าเพดานสูงสุด

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้ออก พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2560 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ใน 180 วัน นับแต่วันที่ประกาศ โดย พ.ร.บ.ใหม่ มีสาระสำคัญที่อาจมีผลต่อราคาสินค้า

โดย 1.สินค้าที่มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตทุกสินค้า เช่น เครื่องดื่ม น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ แบตเตอรี่ เป็นต้น ต่อไปจะต้องปรับเปลี่ยนฐานในการจัดเก็บจากราคา ณ โรงงาน เป็นคำนวณจากราคาขายปลีกแนะนำ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

2.อัตราภาษีที่จัดเก็บจะมีการปรับเปลี่ยนอัตราเพดานภาษี เช่น ประเภทเครื่องดื่ม จะปรับเพิ่มอัตราเพดานภาษีจากเดิม 20-25% เป็น 30% ซึ่งโดยปกติน่าจะทำให้ราคาจำหน่ายสูงขึ้น แต่ข้อเท็จจริงจากการประสานกรมสรรพสามิตได้รับแจ้งว่า อัตราภาษีที่เก็บจริง จะกำหนดให้ต่ำกว่าอัตราเพดานสูงสุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาสินค้า

3.สำหรับสินค้าเครื่องดื่มภายใต้ พ.ร.บ.ใหม่ หากมีปริมาณน้ำตาลเกินเกณฑ์ที่กำหนด จะมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยจะมีจัดเก็บภาษีตามปริมาณน้ำตาล ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาอัตราภาษีที่จะจัดเก็บ.

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaipost.net จากหัวข้อข่าว : แจง ปรับภาษี สรรพสามิต ไม่ดันราคาเครื่องดื่มแพง