ปราบ หนี้นอกระบบ เป็นศูนย์ คลังผนึกสตช.เอาจริง! รุกเพิ่มรายได้เกษตรกร

คลัง-สตช.เอาจริง! ลุยปราบหนี้นอกระบบเป็นศูนย์ นัดตรวจการบ้านคณะกรรมการแก้ไขหนี้ฯ หลังครบ 1 เดือน สศค.ชง "อภิศักดิ์" คลอดมาตรการเพิ่มรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน เน้นดูแลเสถียรภาพราคา พ่วงอัดฉีดเงินทุน หวังช่วยให้พ้นความยากจนซ้ำซาก

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ว่า ต้นเดือน เม.ย.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขหนี้นอกระบบแห่งชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการฯ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าของมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (พิโกไฟแนนซ์) ซึ่งมีผู้ประกอบการยื่นคำขอแล้วประมาณ 200 ราย ได้รับอนุมัติไปแล้ว 50 ราย, มาตรการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ และมาตรการฟื้นฟูลูกหนี้

ซึ่งในที่ประชุมจะได้ร่วมกันพิจารณาการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบช่วงที่ผ่านมาในภาพรวม เพื่อทำให้เห็นปัญหาและอุปสรรคทั้งหมด และจะได้วางแนวทางสำหรับการแก้ไขปัญหาต่อไป

นอกจากนั้น ในช่วง 1-2 วันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะแถลงผลการจับกุมเจ้าหนี้นอกระบบรายใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาจริงเอาจังในการปราบปรามเจ้าหนี้นอกระบบอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดย สตช.ได้รวบรวมรายชื่อเจ้าหนี้นอกระบบรายใหญ่ได้ทั้งหมดแล้วประมาณ 20-30 ราย หากบุคคลเหล่านี้ไม่ยอมเข้ามาอยู่ในระบบ หรือไม่มายื่นสมัครเป็นพิโกไฟแนนซ์ ก็พร้อมที่จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

นายสมชัยกล่าวว่า กระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และไม่เป็นหนี้นอกระบบ โดยเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเสนอให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง พิจารณาแนวทางและมาตรการในการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน หลังจากได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)

ทั้งนี้ แนวทางและมาตรการที่เสนอในเบื้องต้น จะเน้นไปที่การทบทวนกลไกในการให้ความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลังเป็นหลัก เช่น จะดูว่ามีอุปสรรคอะไรทำให้ไม่สามารถผลักดันราคาสินเค้าเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงดูแลเงินทุนครบวงจร จากปัจจุบันกระทรวงการคลังได้ดูแลผ่านระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ นอกจากนี้ ยังมีแนวความคิดจะทบทวนกองทุนที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเกษตรกร ขณะเดียวกัน ต้องมีการประกันพืชผลด้วย

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวภายหลังร่วมแถลงข่าวกับ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการปราบปรามเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย ว่า เป็นการดำเนินงานสืบเนื่องจากนโยบายการขจัดหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ของรัฐบาล

ทั้งนี้ สตช.ได้สั่งการผู้ปฏิบัติงานทุกระดับ ให้ดำเนินการปราบปรามเจ้าหนี้นอกระบบที่มีพฤติการณ์ผิดกฎหมาย เช่น เรียกดอกเบี้ยเงินกู้เกินอัตรา 15% ต่อปี ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 ทวงถามหนี้โดยมีการข่มขู่ใช้ความรุนแรงและฝ่าฝืนข้อปฏิบัติต่างๆ ตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 หรือประกอบธุรกิจสินเชื่อในลักษณะเดียวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง เป็นต้น.