ขสมก.เตรียมถกฝ่ายกฎหมาย จ่อยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล ลั่นพร้อมเซ็นรับรถเมล์เอ็นจีวี ถ้าศาลตัดสิน ยึดกรอบ 15 วันชี้ขาดสัญญาเบสท์ริน ด้าน บขส.ชี้แจงสรรหาเอ็มดี โปร่งใส เป็นไปตามหลักเกณฑ์

นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. เปิดเผยว่า เตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการด้านกฎหมายเพื่อพิจารณาแนวทางการเตรียมข้อมูลในการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง และเข้าชี้แจงศาลปกครองสูงสุดภายใน 15 วัน หากศาลสูงสุดยังยืนตามศาลชั้นต้นคือให้ ขสมก.รับรถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 489 คัน ก็จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว ถึงแม้ว่าทาง ขสมก.จะบอกเลิกสัญญาไปแล้วก็ตาม

ทั้งนี้สาเหตุที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เซ็นสัญญารับรถเมล์เอ็นจีวี เนื่องจากผู้บริหาร ขสมก. ซึ่งรวมถึง นายสุรชัย เอี่ยมวชิรกุล อดีตผู้อำนวยการ ขสมก.ที่ได้เข้าชี้แจงต่อศาลก่อนหน้านี้นั้น ระบุไว้สองประเด็นคือ 1.ไม่ได้ชี้ชัดว่าแหล่งกำเนิดรถเมล์เอ็นจีวีเป็นสาระสำคัญเพื่อบอกเลิกสัญญาเบสท์ริน 2.ไม่ได้ชี้ชัดว่าคุณสมบัติของตัวรถเมล์เอ็นจีวีเป็นสาระสำคัญในการบอกเลิกสัญญา แต่อย่างไรก็ตาม ตนจะเร่งหารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อต่อสู้ต่อไป

"มองว่าท่านอดีต ผอ.สุรชัยเป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้จึงพูดได้ไม่เต็มปาก ไม่เหมือนกับผมที่เป็นคนนอกจึงสามารถพูดชี้แจงต่อศาลได้มากกว่า” นายสมศักดิ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการบอร์ด ขสมก.จะได้ข้อสรุปเพื่อจัดการปัญหาของโครงการนี้ในวันที่ 11 เมษายน ตามที่กรอบเวลา 15 วันที่เคยกำหนดไว้ และจะดำเนินการตามมติ ขสมก.ทันทีโดยไม่ยึดโยงคำสั่งศาล.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยให้ ขสมก. ดำเนินการตรวจรับรถ เอ็นจีวี ของบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ที่กรมศุลกากรอนุญาตให้นำออกมาจากท่าเรือแหลมฉบังไว้ชั่วคราว ก่อนศาลมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น และภายหลังการดำเนินการตรวจรับรถยนต์โดยสารตามข้อสัญญาอื่นๆ แล้ว ให้ ขสมก.ดำเนินการตามสัญญาต่อไป

พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม กรรมการบริษัทฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ตามที่มีการเสนอข่าวการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทฯ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์นั้น ที่ผ่านมาได้ดำเนินการทำหน้าที่สรรหาบุคคล ที่มีความรู้ และความสามารถ มีประสบการณ์ และเหมาะสมที่จะเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ตามที่กฎหมายกำหนด ยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร

ทั้งนี้การสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 ให้ไว้ ณ วันที่ 14 ม.ค.2518 และกฎหมายที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม

"การดำเนินการสรรหาได้ดำเนินการตามที่ระเบียบกฎหมายกำหนด ตามหลักธรรมาภิบาล ตามกรอบอำนาจหน้าที่ มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ทุกประการ และ บขส. ก็อยู่ภายใต้กระบวนการตรวจสอบทั้งภายใน ภายนอก รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พล.ต.อ.อำนาจกล่าว.

ขอบคุณข้อมูลจาก thaipost จากหัวข้อข่าว : ขสมก. จ่อยื่นอุทธรณ์รับNGV บขส.แจงสรรหา"เอ็มดี"โปร่งใส