"อาคม" สั่งหน่วยงานในสังกัด เข้มงวดผู้รับเหมาก่อสร้าง เพิ่มมาตรฐานควบคุมงาน ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ด้าน รฟท.แจงยังไม่ได้หารือไจก้าแบล็กลิสต์ อิตาเลี่ยนไทย หลังเกิดเหตุระหว่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้กำชับหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสายทางให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรฐานความปลอดภัย ของวิศวกรควบคุมงาน สำหรับการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ขณะนี้ได้สั่งพักการก่อสร้างจุดที่เกิด เพื่อทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้นรวมถึงการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ซึ่งล่าสุดนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ได้รายงานผลตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าว ว่าองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือไจก้า เตรียมขึ้นบัญชีดำ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หรือ ITD ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการก่อสร้างในช่วงดังกล่าวจนมีพนักงานเสียชีวิตถึง 3 คน โดยยืนยันว่า ยังไม่มีการพูดคุยหารือใดๆ ร่วมกันกับไจก้า ถึงมาตรการหรือบทลงโทษที่จะดำเนินการกับผู้รับจ้างอีกทั้งยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการจาก ไจก้าตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ

"ในส่วนของการแจ้งให้ ITD หยุดการก่อสร้างนั้น จะสั่งหยุดงานเฉพาะงานติดตั้งชิ้นส่วนโครงสร้างทางวิ่งรถไฟยกระดับ จนกว่าจะได้ข้อสรุปถึงสาเหตุของอุบัติเหตุ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไข เพื่อความปลอดภัยในการก่อสร้างและไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก" นายอานนท์กล่าว

นายอานนท์กล่าวว่า รมง.คมนาคม ได้สั่งการให้สั่งพักการก่อสร้าง พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน และพักงานวิศวกรควบคุมงานดังกล่าว และให้ ITD แถลงความรับผิดชอบ และแสดงแผนความปลอดภัยในการก่อสร้างรถไฟสายสีแดงทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้างระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ในช่วงดังกล่าว เป็นสัญญา 2 (งานโยธาสำหรับทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ-รังสิต) ITD เป็นผู้รับจ้าง มูลค่าสัญญา 21,235,400,000 บาท เริ่มสัญญาวันที่ 4 มี.ค.56-10 ก.พ.2560 (ระยะเวลาก่อสร้าง 1,440 วัน) คาดจะเปิดเดินรถในปี 63

นายสุเมธ สุรบถโสภณ รองประธานบริหารอาวุโส ITD กล่าว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุไม่ใช่การประมาท เพราะโดยปกติแล้วเมื่อเครนเลื่อนไปข้างหน้าแล้วเจอสิ่งกีดขวางก็จะถอยหลัง แต่ในครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ เมื่อเจอสิ่งกีดขวางข้างหน้าแล้วไม่ถอยหลัง ทำให้เหล็กที่ดึงอยู่หลุดหรือขาดลง ซึ่งทางบริษัทจะประชุมหามาตรการดูแลความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น

"เรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าการก่อสร้างที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจริง โดยเกิดขึ้น 2-3 ครั้งติดต่อกัน ทำให้บริษัทต้องกลับมาจัดระบบการทำงานใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะในด้านระบบดูแลความปลอดภัย "นายสุเมธกล่าว.

ขอบคุณข้อมูลจาก thaipost จากหัวข้อข่าว : ล้อมคอกปลอดภัย ก่อสร้าง อาคมสั่งเข้มมาตรฐานควบคุมงาน/รฟท.ปัดไจก้าแบล็กลิสต์ITD