ดัน รถไฟฟ้า "ชมพู-เหลือง" ชงครม./ปลายปีตอกเข็ม ฟุ้งฮ่องกงสนลงทุนอีอีซี

คมนาคม ชงรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง เข้า ครม. 9 พ.ค.นี้ คาดปลายปีเริ่มก่อสร้างได้ ลุ้นข้อเสนอเอกชนขยายเชื่อมเข้าเมืองทองฯ-แยกรัชโยธิน ด้าน "อุตตม" แจงนักลงทุนฮ่องกงแห่สนใจลงทุนอีอีซี

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 9 พ.ค. 60 นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอที่ประชุมเห็นชอบผลการคัดเลือกภาคเอกชนในการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร 2 เส้นทาง ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 5.4 หมื่นล้านบาท และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม.วงเงิน 5.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าปลายปีนี้จะสามารถเริ่มก่อสร้างได้

ทั้งนี้ช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการคัดเลืกตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ พ.ศ.2556 ได้ปนะเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติและเททคนิค และเอกสานซองที่ 2 (ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน) เสร็จเรียบร้อย และมีผลสรุปว่า กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ซึ่งประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง และบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ชนะการประมูล

สำหรับการพิจารณาข้อเสนอซองที่ 3 หรือข้อเสนอเพิ่มเติมในโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย คือการขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูอีก 2-3 กม. เพื่อเชื่อมต่อเข้าไปยังอิมแพค เมืองทองธานี และสายสีเหลือง จะขยายเส้นทางเพิ่มเติมอีก 2.6 กิโลเมตร จากถนนรัชดาฯ ไปยังแยกรัชโยธินเพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น มีการเจรจาว่าจะดำเนินการได้ภายหลังจากที่มีการเสนอโครงการเพิ่มเติมดังกล่าวให้บรรจุในแผนแม่บทการจราจรทางบก

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าอีก 3-4โครงการที่จะต้องเร่งรัดก่อสร้าง อาทิสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ สีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ซึ่งจะทำให้การเดินทางเชื่อมโยงครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงในส่วนของโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งเป็นการเชื่อมเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรือ อีอีซี ตามนโยบายของรัฐบาล

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า วันที่ 8 พ.ค.2560 นี้ จะมีการสัมมนาความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ระหว่างไทย-ฮ่องกง-เซี่ยงไฮ้ "Thailand-Hong Kong-Shanghai Strategic Partnership on One Beit One Road" ณ โรงแรม พลาซ่า แอทธินี โดยในงานจะมีการลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) กับองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) เพื่อร่วมกันศึกษาโอกาสความร่วมมือพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อย่างครอบคลุม

ทั้งนี้วันที่ 8 พ.ค.นี้ ทางฮ่องกง จะนำคณะนักธุรกิจขนาดใหญ่จากฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้กว่า 60 บริษัทฯ มาเยือน ซึ่งส่วนใหญ่ให้ความสนใจที่จะลงทุนในอีอีซีเป็นพิเศษ ได้แก่ ท่าอากาศยาน การพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด สัตหีบ แหลมฉบัง ระบบขนส่งทางรถไฟ รวมไปถึงการบำบัดของเสียจากขยะอุตสาหกรรม และยังเห็นว่าไทยศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคอาเซียนและเห็นโอกาสการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน.ขอบคุณข้อมูลจาก