"สมคิด" แย้มนักธุรกิจเอสเอ็มอีไทยจับคู่จีนเร่งพัฒนาศักยภาพ ลุยตลาดซีแอลเอ็มวี ด้านบีโอไอนำทัพเอกชนญี่ปุ่นกว่า 100 รายลงพื้นที่อีอีซี รับฟังความคิดเห็น พร้อมชี้แจงนโยบายส่งเสริม หวังกระตุ้นลงทุนในไทย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานการประชุมเจรจาจับคู่ธุรกิจไทย-จีน “Thailand Cross Border Trade & Investment Conference” ที่จัดโดย ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่าการจัดงานดังกล่าวมีนักธุรกิจจากประเทศจีนเข้าร่วมกว่า 300 ราย ซึ่งนับว่าณะที่ใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ โดยเป็นการจับคู่ธุรกิจร่วมกับให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของประเทศไทยให้เกิดการค้าและการลงทุนโดยธนาคารแห่งประเทศจีนจัดงานดังกล่าวแล้วกว่า 30 ครั้งทั่วโลก

ทั้งนี้ประเทศไทย มองเห็นว่ากลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ห่วงโซ่การผลิต (ซัพพลายเชน) ที่สำคัญที่สุดในเอเชีย ซึ่งเราต้องการให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกไปยังซีแอลเอ็มวี ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จึงเห็นว่าการจับคู่ธุรกิจครั้งนี้ เป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการหน้าใหม่ (สตาร์ท อัพ) ให้มีศักยภาพในการผลิต โดยอาศัยพาร์ตเนอร์ที่ดีอย่างผู้ประกอบการจีน ซึ่งเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะสนับสนุนให้เกิดการพัฒนานอกเหนือจากการสนับสนุนทางด้านการเงิน

"พาร์ตเนอร์ต่างประเทศที่ดี อย่างจีนเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากต้องยอมรับว่ากลุ่มเอสเอ็มอีในประเทศไทยยังเติบโตไม่สูงนัก ถ้าเทียบกับการจะก้าวไปสู่ยุค ไทยแลนด์ 4.0 ขณะเดียวกันยังเป็นการพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ (สตาร์ท อัพ) ของทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาได้ในอนาคต และเจาะกลุ่มตลาดซีแอลเอ็มวีได้" นายสมคิดกล่าว

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวว่า นักธุรกิจที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกันมาบ้างแล้ว 2-3 ครั้งผ่านวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ และมีการเตรียมตัวกว่า 3 เดือน ก่อนที่จะมาพบกันครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีนักธุรกิจอย่างน้อย 20-30 ราย จะเริ่มลงทุนร่วมกัน โดยทั้งหมดจะได้รับเงินสนับสนุนเบื้องต้นจากธนาคารแห่งประเทศจีน ในช่วงเริ่มแรก

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการ บีโอไอ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2560 สำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นครโอซากา (บีโอไอโอซากา) ได้นำคณะนักลงทุนญี่ปุ่นจำนวน 100 ราย จากอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ พลังงานแสงอาทิตย์และภาคขนส่ง ลงพื้นที่สำรวจโอกาสการลงทุนในภาคตะวันออก โดยให้ความสนใจ กับพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี ) เป็นพิเศษ เนื่องจากความโดดเด่นด้านภูมิศาสตร์และเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพจากการสนับสนุนของรัฐบาล

นอกจากยังรับฟังรายละเอียดของนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนฉบับแก้ไข และพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อ

ประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนในประเทศไทย และมั่นใจว่าในปีนี้จะมีการลงทุนจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น แน่นอน ซึ่งเมื่อปี 2559 มีโครงการลงทุนจากญี่ปุ่นยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 264 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 57,466 ล้านบาท.

ขอบคุณข้อมูลจาก thaipost จากหัวข้อข่าว : หนุนจับคู่ธุรกิจไทย-จีน หวังพัฒนาศักยภาพบุก CLMV /บีโอไอนำนักลงทุนญี่ปุ่นลงพื้นที่อีอีซี