เหล้าเบียร์บุหรี่ ภาษี ขึ้นแน่ สรรพสามิตชี้เจอผู้ประกอบการซิกแซก

สรรพสามิตสรุปเก็บภาษีใหม่เดือนหน้า เหล้าเบียร์บุหรี่ รถยนต์ขยับเพิ่ม เนื่องจากที่ผ่านมามีการตั้งบริษัทรับช่วงรับซื้อทำราคาหน้าโรงงานและราคาสำแดงนำเข้าต่ำ

นางสาววิไล ตันตินันท์ธนา ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรพสามิต เปิดเผยว่า การดำเนินการเก็บภาษีตามกฎหมายมีความคืบหน้าไป 80-90% โดยในเดือนหน้านายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต จะประชุมผู้บริหารเพื่อสรุปความพร้อมทั้งหมด โดยการเก็บภาษีอัตราใหม่จะเริ่มวันที่ 16 ก.ย.2560 นี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ภาพรวมของการเก็บภาษีอัตราใหม่ รายได้ของกรมสรรพสามิตยังอยู่ในระดับเดิม ไม่ได้ทำให้ภาระภาษีของผู้ประกอบส่วนใหญ่ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนใหญ่ภาระภาษีอย่างอยู่ใกล้เคียงเดิมที่เสียในอัตราภาษีเก่า อย่างไรก็ตาม มีสินค้าบางส่วนมีภาระภาษีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากตามกฎหมายเก่าการเก็บภาษีใช้ฐานราคาหน้าโรงงานหรือราคาสำแดงนำเข้า ซึ่งผู้ประกอบการมีการตั้งบริษัทในเครือเพื่อรับช่วงซื้อสินค้าจากโรงงานในราคาต่ำกว่าเป็นจริง ทำให้เสียภาษีน้อย แต่กฎหมายให้เก็บภาษีจากราคาขายปลีกแนะนำ ทำให้มีภาระภาษีเพิ่มขึ้น

"เบื้องต้นอัตราภาษีใหม่ได้สรุปทุกรายการสินค้า แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งในภาพรวมการเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตเท่าเดิม ส่วนผู้ประกอบการภาระภาษีก็ใกล้เคียงอัตราเดิมยกเว้นสินค้าที่มีการส่งผ่านราคาหน้าโรงงานให้ต่ำกว่าเป็นจริงในช่วงที่ผ่านมา ที่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้น" นางสาววิไล

แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สินค้ากรมสรรพาสามิตที่จะมีภาระภาษีมากขึ้น ได้แก่ สุรา เบียร์ และบุหรี่ โดยเฉพาะที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาสำแดงราคาต่ำกว่าเป็นจริง นอกจากนี้ภาระภาษีรถยนต์อาจจะเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย เพราะที่ผ่านมามีการขายส่งผ่านให้ราคาหน้าโรงงานต่ำ ก่อนที่จะขายให้ดีลเลอร์ไปขายให้ผู้ซื้อรถ แต่กฎหมายให้เก็บจากราคาขายปลีกทำให้มีภาระภาษีเพิ่มขึ้น

ก่อนหน้านี้ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การแก้ไขร่างพระราชบัญญัติสรรพสามิต ถือเป็นแนวทางหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรม โดยเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บภาษีจากฐานราคาหน้าโรงงาน หรือราคาขายส่งช่วงสุดท้ายสำหรับสินค้าประเภทสุรา เบียร์ และราคาสำแดงนำเข้า (ซีไอเอฟ) มาเป็นฐานราคาขายปลีก ซึ่งจะช่วยให้การจัดเก็บภาษีมีความเป็นธรรมมากขึ้นแล้ว แต่ยืนยันภาษีเหล่านี้ไม่ได้เก็บเพิ่มมากๆ ถึงขนาดทำชาวบ้าน ภาคธุรกิจเดือดร้อน เพราะมติ ครม. ก็ระบุไว้ชัดแล้วห้ามทำ อีกอย่างในกฎหมายก็เป็นแค่เพดานภาษีสูงสุด ซึ่งเป็นการคิดเผื่อล่วงหน้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ในช่วง 20 ปีข้างหน้าจะได้ไม่ต้องมีการขยับบ่อย

สำหรับผลการจัดเก็บในปัจจุบันของกรมสรรพสามิต ที่สามารถจัดเก็บภาษีได้เกินเป้าหมาย โดยจัดเก็บรายได้รวม 2.79 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 4,020 ล้านบาท โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายได้แก่ ภาษีน้ำามัน สูงกว่าประมาณการ 9,030 ล้านบาท หรือ 9.3% เนื่องจากการจัดเก็บภาษีน้ามันเบนซินสูงกว่าประมาณการ รวมทั้งมีการจัดเก็บภาษีนำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น และน้ามันหล่อลื่น รวมถึงภาษีเบียร์ ที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 4,710 ล้านบาท หรือ 11.2% แต่ภาษียาสูบ ภาษีรถยนต์ และภาษีสุรา ยังต่ำกว่าเป้าหมาย.