FinTech เป็นคำย่อที่มาจาก Financial technology หรือเทคโนโลยีทางการเงิน เป็นรูปแบบการเกี่ยวโยงเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานกับรูปแบบการบริการทางการเงินในลักษณะต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ลดต้นทุนในการให้บริการลง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างหลากหลายและสะดวกสบายมากขึ้น เพียงแค่มีโน๊ตบุ๊คหรือสมาร์ทโฟนเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ก็สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านออนไลน์ได้ตลอดเวลา หากหนุ่มสาวยุคดิจิตอลหลายคนยังมองไม่ออกว่าขณะนี้จะมีประโยชน์ใดช่วยบริหารการเงินในกระเป๋าของเราได้บ้าง? อย่าได้รอช้า มาเรียนรู้ 4 วิธีบริหารเงินในกระเป๋าฉบับหนุ่มสาวยุค FinTech เริ่มตั้งแต่ การบริหารเงินเข้ากระเป๋า, การบริหารเงินค่าใช้จ่าย, การนำเงินเก็บออมไปลงทุนรวมทั้งการมีผู้ช่วยส่วนตัวทางการเงิน รายละเอียดดังนี้

1.บริหารเงินเข้ากระเป๋า
       
 นักค้าขายออนไลน์สามารถเพิ่มสะดวกสบายแก่ลูกค้าในเรื่องการชำระเงินได้ง่ายขึ้น เพราะยิ่งความยุ่งยากในขั้นตอนการจ่ายเงินลดลงเท่าไหร่ โอกาสตัดสินใจซื้อก็จะเพิ่มขึ้นจะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ลักษณะ Fintech ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะอยู่ในกลุ่ม Payment 
         ตัวอย่างรูปแบบที่สามารถเลือกใช้งานได้ในขณะนี้เช่น Omise, 2c2p, Pay Social, Thaiepay, Siampay เป็นต้น โดยมีหลักการทำงานหรือรูปแบบรองรับการบริการ อาทิ
         • ระบบรับชำระเงินหน้าร้านค้า เช่น ระบบ Tokenization มีการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อสร้างระบบรับชำระบนเว็บไซต์ ร้านค้า โดยไม่ต้องพาผู้ใช้ (ลูกค้าซื้อสินค้า) ออกไปจ่ายเงินนอกเว็บไซต์ เป็นต้น
         • ระบบ Link ตัวกลาง สำหรับส่งให้ลูกค้าจากช่องทางโซเซียลต่างๆ เข้าสู่ระบบจ่ายเงินได้ทันที (ตัวอย่าง http://pay.sn/ชื่อร้าน) ภายในลิงก์นั้นสามารถระบุประเภทสินค้า, จำนวนเงิน และช่องทางการชำระเงินได้
         • ระบบรับชำระเงินรองรับทุกประเภทการจ่าย ไม่ว่าลูกค้าจะจ่ายชำระในรูปแบบ บัตรเครดิต, บัตรATM (เดบิต), Paypal, ผ่อนชำระ, อินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง เป็นต้น
         • ระบบความจำบัญชีคู่ค้า เช่น ระบบที่มี Recipient API รองรับการเก็บข้อมูลบัญชีของคู่ค้าแต่ละราย ทำให้การโอนเงินให้คู่ค้าง่ายและสะดวกมากขึ้น

2. บริหารเงินค่าใช้จ่าย 


         ยุคนี้สามารถจัดการค่าใช้จ่ายผ่านอินเตอร์เน็ตเสมือนมีกระเป๋าออนไลน์ไว้บริหารเงินได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภค, บัตรเครดิต, ลีสซิ่ง, ประกันภัย, ผ่อนดาวน์บ้าน เป็นต้น ลักษณะ Fintech ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะอยู่ในกลุ่ม Payment ซึ่งพบเห็นได้บ่อยที่สุดในกลุ่ม ตัวอย่างรูปแบบที่สามารถเลือกใช้งานได้ในขณะนี้เช่น Jaew Wallet, Paysbuy, Truemoney, Cenpay, Airpay, Rabbit Line pay, DeepPocket, Modern Pay, mPay เป็นต้น โดยมีหลักการทำงาน หรือรูปแบบรองรับการบริการ อาทิ
         • ระบบ Money Transfer โอนเงินโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์แทนเลขบัญชีธนาคาร
         • ระบบชำ ระเงินออนไลน์หลากหลายช่องทางการรับชำระเงิน เช่น บัตรเครดิต เงินสด บัญชีธนาคารออนไลน์ เป็นต้น หลากหลายประเภท เช่น ชำ ระบัตรเครดิต, ลีสซิ่ง, ประกันภัย, ผ่อนดาวน์บ้าน, เติมเงินมือถือ, เติมเงินในเกมส์, ซื้อบัตรชมภาพยนตร์เป็นต้น
         • ระบบ Scan Barco
         • ระบบ Scan QR Code สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าออนไลน์ และเลือกชำระเงินปลายทาง สามารถใช้แอพพลิเคชั่นจ่ายแทนเงินสดได้โดยสแกน QR Code ที่บิลเมื่อสินค้ามาส่ง

3. บริหารเวลา ช่วยเปรียบเทียบข้อมูลการเงิน
       
 จบปัญหาเรื่องปวดหัวในการเปรียบเทียบข้อมูล ช่วยหนุ่มสาวยุคดิจิตัลตัดสินใจเลือกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงินได้ง่ายขึ้น อาทิ การเปรียบเทียบข้อมูลอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อบ้าน การเฟ้นหาประเภทประกันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันรถยนต์ฯลฯ การเปรียบเทียบบัตรเครดิต เป็นต้น ลักษณะ Fintech ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะอยู่ในกลุ่ม Lending & Credit, InsurTech และ Financial Comparison ตัวอย่างรูปแบบที่สามารถเลือกใช้งานได้ในขณะนี้ aBorrow, Carrance, Refinn, Frank, Rabbit finance, Silkspan, Gobear, Masii เป็นต้น โดยมีหลักการทำงาน หรือรูปแบบรองรับการบริการคล้ายๆ กัน คือ ระบบคัดกรองตามข้อมูลที่เติมในช่องวาง ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการคำนวณผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทนั้นๆ อาทิ
         • ระบบคัดเลือกสินเชื่อ เช่น ประเภทสินเชื่อ, รายได้ต่อเดือน , จำนวนเงินที่ต้องการกู้, ระยะเวลา เป็นต้น
         • ระบบคัดเลือกประกันรถยนต์เช่น ปี, ยี่ห้อ, รุ่นรถยนต์, ประเภทประกันรถยนต์ เป็นต้น
         • ระบบประเมินการรีไฟแนนซ์ เช่น ยอดหนี้คงเหลือ, ยอดผ่อนต่อเดือน , วัตถุประสงค์การรีไฟแนนซ์เป็นต้น
         • ระบบคัดเลือกบัตรเครดิต เช่น คะแนนสะสมแต้ม, รายได้ต่อเดือน, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรต่อเดือน เป็นต้น

4. บริหารเงินออมเพื่อการลงทุน
         
สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตลงทุนได้ด้วยรูปแบบบริการที่ช่วยให้การรับรู้ข่าวสารและการจัดการพอร์ตลงทุนเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตราสารทุนอย่างหุ้น หรือการลงทุนในกองทุนรวมลักษณะ Fintech ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะอยู่ในกลุ่ม Retail Investment และ Financial Education & Research ตัวอย่างรูปแบบที่สามารถเลือกใช้งานได้ในขณะนี้ Jitta, Stockradar, Marketanyware, Setscope, Investorz, Wealthcare, Finnomena เป็นต้น โดยมีหลักการทำงาน หรือรูปแบบรองรับการบริการ อาทิ
         • ระบบ Pattern สแกนหุ้น จับรอบการลงทุนหุ้นทางเทคนิค
         • Research platform ติดตามข้อมูลสถานการณ์ตลาดและหุ้นรายตัว
         • ระบบ Financial Chart แปลข้อมูลงบการเงินย้อนหลังในรูปแบบกราฟ ง่ายต่อการศึกษาพื้นฐานหุ้นก่อนตัดสินใจลงทุน
         • ระบบ Personal Robo-advisor on mobile รูปแบบจัดการพอร์ตลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
         • ระบบประเมินคุณภาพหุ้นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดช่วยให้นักลงทุนมือใหม่ ค้นหาหุ้นเพื่อการลงทุนเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วย
         • ระบบ TrendLines เครื่องมือการวิเคราะห์กราฟหุ้น

5. ผู้ช่วยส่วนตัวทางการเงิน    
         เลือกใช้ตัวช่วยเพื่อคลายปัญหาการเงินส่วนตัวได้ เช่น ระบบบัญชี, ภาษี, วางแผนการเงิน ฯลฯ เปรียบเสมือนมีผู้ช่วยทางการเงินอยู่ข้างๆ ลักษณะ Fintech ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะอยู่ในกลุ่ม Personal Finance และ Business Tools ตัวอย่างรูปแบบที่สามารถเลือกใช้งานได้ในขณะนี้เช่น ChomCHOB, iTAX, Piggipo, Flowaccount, TRCLOUD, Finnista เป็นต้น โดยมีหลักการทำงาน หรือรูปแบบรองรับการบริการ อาทิ
         • ระบบจัดการคะแนนสะสมจากบัตรต่างๆ ช่วยหนุ่มสาวนักชอปที่มีบัตรเครดิตไว้หลายธนาคาร ระบบจัดการบัตรเครดิตจะช่วยรวมคะแนนบัตรเครดิตหลากหลายใบมารวมกันไว้ที่เดี่ยวเพื่อแลกรับหรือแลกซื้อได้ง่ายขึ้น
         • แพลตฟอร์มจัดการภาษีระบบช่วยเหลือเรื่องการกรอกภาษี, ระบบคำ นวณภาษีและสิทธิลดหย่อน, การวางแผนประหยัดภาษี เป็นต้น
         • cloud-based accounting ระบบบัญชีออนไลน์รองรับการทำธุรกิจส่วนตัว บริการ Solutions ทางบัญชีเต็มรูปแบบ, ติดตามงบการเงินได้แบบ Real Time
         • แอพพลิเคชั่นจัดการบัตรเครดิต ช่วยทำ ให้ผู้ถือบัตรเห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายของบัตรเครดิต, ระบบผ่อนชำระ, แสดงวันตัดรอบของแต่ละบัตร ฯลฯ ได้แบบง่ายๆ

     

   ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงประโยชน์ที่หนุ่มสาวยุค FinTech สามารถเลือกใช้บริการได้ในขณะนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดนวัตกรรมทางการเงินที่ดีเพิ่มขึ้นอีกเป็นแน่ในอนาคต เพราะนอกจากไอเดียสร้างสรรค์ของกลุ่ม FinTech Startup แล้ว ทางธนาคารพาณิชย์ก็มีการปรับตัวอยู่ไม่น้อย เพิ่มความสะดวกการใช้บริการของลูกค้ายุคนี้ ผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้น อาทิ ขอสินเชื่อผ่านแอพพลิเคชั่น ทราบผลอนุมัติได้รวดเร็วกว่าปกติ, บัญชีแบบไม่มีสมุดบัญชี รองรับไลฟ์สไตล์ลูกค้า, บริการชำระเงินแบบ P2P ผ่านมือถือ เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก: HINT MAGAZINE