ประเมินน้ำท่วมภาคอีสานกระทบเศรษฐกิจ ราว 0.1% ของ GDP
จากสถานการณ์ฝนตกหนักทำให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับผลกระทบจากพายุเซินกา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในหลายจังหวัด โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมาก อาทิ สกลนคร มหาสารคาม ศรีสะเกษ นครราชสีมา กาฬสินธุ์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบในเบื้องต้นต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากผลของอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนี้
มูลค่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักหรือสูญเสียไป ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กิจกรรมทางเศรษฐกิจ |
มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจ (ล้านบาท) |
เกษตรกรรม |
12,375 |
พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม |
2,000 |
การท่องเที่ยวและบริการอื่นๆ |
1,350 |
รวม |
15,725 |
หมายเหตุ :
- ประเมินผลกระทบความสูญเสียทางเศรษฐกิจ (Economic Loss) โดยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมรุนแรงหยุดชะงักไปประมาณ 7 วัน แต่ในพื้นที่ที่น้ำท่วมไม่รุนแรงจะมีความสูญเสียไม่มากนัก สำหรับการท่องเที่ยวอาจส่งผลกระทบไปถึงแหล่งท่องเที่ยวที่แม้ไม่ถูกน้ำท่วมแต่ความยากลำบากในการเดินทางอาจทำให้นักท่องเที่ยวเลี่ยงการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงไม่ได้ขยายไปถึงจังหวัดท่องเที่ยวหลัก และช่วงเวลานี้ยังไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวที่สำคัญ
- ผลกระทบดังกล่าวไม่รวมความเสียหายด้านทรัพย์สิน และโครงสร้างพื้นฐาน (เช่น ถนน สะพาน เป็นต้น)
- ผลกระทบต่อภาคเกษตร คำนวณจากจำนวนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบราว 4.6 แสนราย ครอบคลุมพื้นที่ประสบภัยด้านพืช 3.6 ล้านไร่ ด้านปศุสัตว์ 5.6 แสนตัว รวมทั้งด้านประมง (บ่อปลาและกระชัง)
กล่าวโดยสรุป ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สถานการณ์อุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือล่าสุด อาจมีผลทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของไทยสูญเสียไปประมาณ 15,725 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.1% ของ GDP แต่ทั้งนี้เป็นการประเมินในเบื้องต้นที่ไม่ได้รวมความเสียหายด้านทรัพย์สิน และยังต้องมีการติดตามระยะเวลาและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นระยะ และอาจมีการทบทวนตัวเลขนี้ตามความเหมาะสมในระยะต่อไป รวมทั้งยังต้องติดตามสภาพภูมิอากาศในช่วงระยะข้างหน้า เนื่องจากยังไม่สิ้นสุดฤดูฝนและยังอาจจะมีพายุเพิ่มเติมเข้ามาได้อีกในช่วงเวลาที่เหลือของปี
อนึ่ง แม้ว่าตัวเลขผลกระทบดังกล่าวอาจมีผลไม่มากนักต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระดับประเทศ รวมทั้งไม่กระทบต่อประมาณการเศรษฐกิจไทยของศูนย์วิจัยกสิกรไทยในปัจจุบัน ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.4% ในปี 2560 เนื่องจากภาคการส่งออกยังขยายตัวได้ดี อย่างไรก็ตาม ในระดับภูมิภาค เหตุการณ์ภัยภิบัติที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อคนในท้องที่ ที่ครัวเรือนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็เผชิญความยากลำบากอยู่ก่อนแล้ว จากปัญหารายได้ภาคเกษตร (ราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวลดลง เช่น มันสำปะหลัง ยางพารา) การมีงานทำ รวมทั้งปัญหาในภาคธุรกิจ SMEs
ขอบคุณข้อมูลจาก www.kasikornresearch.com