ข้อมูล Kantar บริษัทในเครือ WPP วิจัยกลุ่มสินค้าที่มียอดขายดีขึ้นในช่วงนี้ และจะยังคงขายดีอย่างต่อเนื่องแม้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะดีขึ้น ได้แก่ อีคอมเมิร์ซ ฟู้ดเดลิเวอรี่ ประกัน ความบันเทิงภายในบ้าน สุขภาพ และ โลจิสติกส์

สอดคล้องกับข้อมูลของ Priceza (ไพรซ์ซ่า) เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์ชั้นนำของไทย ได้วิเคราะห์กลุ่มสินค้าที่มีจำนวนคลิกเติบโตเพิ่มขึ้นหลังเกิดวิกฤติโควิด-19 โดยสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม มีจำนวนคลิกเติบโตเพิ่มขึ้นสูงถึง 122% ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.ค. 2563 เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2562

สินค้าในกลุ่มสุขภาพและความงามที่ได้รับความสนใจมากที่สุดหนีไม่พ้น สินค้าที่ช่วยในเรื่องของการป้องกันเชื้อโรค อาทิ ผ้าปิดจมูก หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เป็นต้น

นอกจากนี้ กลุ่มสินค้าคอมพิวเตอร์ก็ได้รับจำนวนคลิกเติบโตขึ้นกว่า 56% อันเป็นผลมาจากมาตราการล็อคดาวน์ ประชาชนจำต้องอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงนักเรียน นักศึกษาต่างต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตการเรียนในสถานศึกษา มาเป็นการเรียนผ่านช่องทางออนไลน์แทน จึงทำให้สินค้าประเภทคอมพิวเตอร์ได้รับความต้องการมากขึ้น

นอกจากนั้น กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ได้รับจำนวนคลิกมากขึ้น 36% โดยสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันเชื้อโรคและฝุ่นควันยังคงได้รับความนิยม เช่น แผ่นกรองอากาศ สินค้าเหล่านี้ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภค รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวกับการประกอบอาหาร เช่น หม้อทอดไร้น้ำมันก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น

เปรียบเทียบ 5 สินค้าขายดี ก่อน-ระหว่าง-หลังคลายล็อคดาวน์โควิด-19

 

ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 2563 หรือก่อนมาตรการล็อคดาวน์ กลุ่มสินค้าที่ได้รับจำนวนคลิกมากที่สุดมีดังนี้

1. โทรศัพท์ - อุปกรณ์สื่อสาร

2. สุขภาพและความงาม

3. เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ภายในบ้าน

4. เครื่องใช้ไฟฟ้า

5. เสื้อผ้าและแฟชั่น

ในช่วงก่อนมาตรการล็อคดาวน์ ประเทศไทยได้เผชิญกับปัญหาทั้งฝุ่นพิษและโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้สินค้าประเภทสุขภาพความงาม เช่น ผ้าปิดจมูกและหน้ากากอนามัย เป็นสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุด

ระหว่างมาตรการล็อคดาวน์ หรือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2563

1. โทรศัพท์ - อุปกรณ์สื่อสาร

2. เสื้อผ้าและแฟชั่น

3. อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องเขียน

4. สุขภาพและความงาม

5. เครื่องใช้ไฟฟ้า

เมื่อประชากรต้องอาศัยอยู่ภายในบ้าน ไม่สามารถออกไปท่องเที่ยวหรือใช้ชีวิตการทำงานแบบเดิม แม้กระทั่งการทานอาหารในร้านอาหารก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นทำอาหารทางเองที่บ้าน ส่งผลให้กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์สำนักงานได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น เช่น หม้อทอดไร้น้ำมัน กระทะไฟฟ้า รวมถึงโต๊ะคร่อมวางคอมพิวเตอร์ ก็ได้รับจำนวนคลิกมากขึ้นเช่นกัน

หลังคลายมาตรการล็อคดาวน์ ช่วง มิ.ย.-ก.ค. 2563

1. คอมพิวเตอร์

2. สินค้าสำหรับแม่และเด็ก

3. สุขภาพและความงาม

4. โทรศัพท์ - อุปกรณ์สื่อสาร

5. เสื้อผ้าและแฟชั่น

หลังจากมีประกาศให้เปิดภาคเรียนภายใต้มาตรการทางสาธารณสุขและมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสมในเดือน ก.ค. 2563 สินค้าในกลุ่มแม่และเด็กต่างได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยสินค้าที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระเป๋านักเรียน เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง หรือแม้กระทั่งสินค้าประเภทสุขภาพและความงามในช่วงสถานการณ์ต่างๆ ยังคงได้รับความสนใจติด 1 ใน 5 อันดับอยู่เสมอ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง คาดการณ์ว่าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจะยังคงมีความต้องการและจำเป็นมากขึ้นในอนาคต และผู้บริโภคจะยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ อนามัยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

SOURCE : www.bangkokbiznews.com