นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในปีงบฯ 58 กรมฯ มั่นใจว่าการจัดเก็บภาษีจะเป็นไปได้ตามเป้าที่ 1.965 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13% เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2558 มีทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งกรมฯได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี การตรวจเข้มภาษีต่างๆ อย่างใกล้ชิด
โดยกรมสรรพากรเตรียมเสนอแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีให้ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่พิจารณาหลังจากเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วยหลายมาตรการ ได้แก่ การจัดเก็บภาษีมรดก,การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, การปรับอัตราภาษีนิติบุคคลและภาษีบุคคลธรรมดา, การใช้มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นต้น
สำหรับภาษีเพื่อการท่องเที่ยวนั้น เบื้องต้นในส่วนบุคคลธรรมดาจะให้นำค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวและแพ็กเกจท่องเที่ยวต่างๆ มาหักลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาทต่อปี ขณะที่นิติบุคคลจะให้นำค่าจัดประชุม อบรม สัมมนา มาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า โดยไม่กำหนดเพดานขั้นสูงสุด ซึ่งคาดว่าจะทำให้สูญเสียรายได้จากภาษีปีละประมาณ 2 พันล้านบาท
ส่วนการจับเก็บภาษีมรดก ขณะนี้อยู่ระหว่างการตีความข้อกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อได้ข้อสรุปได้จะเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาอีกครั้ง
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า แนวทางการปรับภาษีนิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีมากที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนทางข้อกฎหมาย และการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ามาสู่ระบบภาษีมากขึ้น
แนวโน้มการจัดเก็บรายได้ในปี 2557 คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมาย 1 แสนล้านบาท เนื่องจากตามปกติในเดือนส.ค. และ ก.ย. การจัดเก็บรายได้จะเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 2 แสนล้านบาท แต่ในเดือนก.ย. มีปัจจัยเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทรถยนต์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการรถคันแรก ในส่วนนี้ อาจทำรายได้ในส่วนนิติบุคคลหายไปประมาณ 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น