นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัททีโอเอ เปิดเผยในโอกาสจัดแถลงข่าวครบรอบ 50 ปี ทีโอเอ ว่า ความสำเร็จที่ผ่านมาตลอด 50 ปี คือ รูปธรรมของความพยายามและความตั้งใจจริงที่ ทีโอเอ ต้องการมอบสินค้า และบริการ ที่ดีที่สุดอยู่เสมอแก่ผู้บริโภค นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นปัจจัยหลักที่นำเราก้าวสู่ การเป็นแบรนด์สี อันดับหนึ่งในเมืองไทยและอาเซียน จนต้องขยายกำลังการผลิตและการทำตลาดสู่กลุ่มประเทศ เอเอซี เพื่อรองรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีหน้าที่จะถึงนี้ด้วย
โดยในปีที่ 50 ของเรานี้ ทีโอเอยังได้สานต่อพัฒนากลุ่มสินค้าสีทาอาคาร (Decorative) ทุกชนิด ให้ปลอดสารปรอท ตะกั่ว โลหะหนักได้สำเร็จ และจะเดินหน้าขยายคุณค่าแห่งนวัตกรรมสินค้าไปสู่กลุ่มสินค้าอื่นๆ อาทิ กลุ่มสีอุตสาหกรรม กลุ่มงานไม้ โดยตั้งเป้าปรับจากสูตรน้ำมันเป็นสูตรน้ำ (Water Base) ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2559 โดยปัจจุบันสินค้าสีเคลือบเงา สำหรับทาปูน ไม้ เหล็ก ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นสูตรน้ำ (Water Base Enamel) สำเร็จแล้วนั้น คือ สีซุปเปอร์ชิลด์ อะควา กลอส ที่มีคุณสมบัติพิเศษไร้กลิ่นฉุนและปลอดสารระเหยที่เป็นพิษ (VOCs) ต่ำกว่าสีเคลือบเงาทั่วไปถึง 10 เท่า” นายจตุภัทร์ กล่าวอย่างภาคภูมิ
ส่วนการเตรียมความพร้อมรับการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในยุค AEC รวมถึงสานต่อบทบาทผู้นำในระดับ Regional brand นั้น นายจตุภัทร์นำเสนอแนวทางดังกล่าวว่า “ทีโอเอ จะนำโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในไทย ภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย การรับรู้และยอมรับในแบรนด์, คุณภาพสินค้าและบริการ, พลังความร่วมมือของพันธมิตรทางธุรกิจ และศักยภาพ บุคลากร เป็นเสาหลักในการสร้างความแข็งแกร่งให้ ทีโอเอ ในกลุ่มประเทศอาเซียนที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างตลาด สู่การเป็นผู้นำ Regional Brand เบอร์ 1 ด้านธุรกิจสีตัวจริงของภูมิภาคนี้”
ทั้งนี้ ภาพรวม ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 13% ต่อปี นอกจากนี้ ทีโอเอยังเป็นแบรนด์สี คู่บ้านอันดับ 1 ที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจและเชื่อถือมากที่สุดในประเทศไทย จากผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค (Thailand’s Most Admired Brand) โดยนิตยสาร BrandAge ซึ่งทีโอเอ มีผลโหวตเป็นอันดับ 1 มากกว่า 50% ใน 10 แบรนด์สี ติดต่อมา 2 ปี (พ.ศ. 2556 – 2557)