นายประสิทธ์ นพรัตน์นภาลัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี.พี.เซรามิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ดี.พี. ฯได้ร่วมลงทุนกับบริษัท วาโกะ ไซซากุโช จำกัด จัดตั้งบริษัท วาโกะ ไทยแลนด์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อนำห้องน้ำสำเร็จรูป วาโกะ บีเอ็มเอส (วาโกะ บาธรูม โมดูลาร์ ซิสเต็) เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยบริษัท วาโกะ ไซซากุโช ถือหุ้น 50 % บริษัท ดี.พี. เซรามิคส์ ถือหุ้น 30 % ที่เหลือเป็นบริษัทญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ในปีแรกตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 400-500 ล้านบาท หรือประมาณ 5,000 ห้องต่อปี และภายใน 3 ปีจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดห้องน้ำสำเร็จรูป ด้วยการมีส่วนแบ่งตลาด 40-50 % โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคอนโดมิเนียมใหม่ 60 % อีก 40 % เป็นโครงการรีโนเวท
สำหรับราคาห้องน้ำสำเร็จรูป วาโกะ บีเอ็มเอส นั้นสูงกว่าห้องน้ำก่ออิฐฉาบปูนโดยทั่วไปประมาณ 30 % โดย เริ่มต้นที่ 70,000 บาทต่อห้อง ซึ่งเป็นราคาห้องเปล่ายังไม่รวมสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ ที่ลูกค้าสามารถเลือกเองได้ว่าจะเลือกแบบไหน โดยขนาดของห้องมีให้เลือก 4 แบบ คือขนาด กว้าง 1.60 x2 ม. ขนาด 1.60x2.40 ม. ขนาด 1.60x 2.2 ม. ขนาด1.4x2.20 ซึ่งทุกขนาดสูง 2.4 ม. ใช้เวลาในการประกอบติดตั้ง 2 วัน โดยขณะนี้บริษัทมีพนักงานติดตั้งอยู่ 30 คน
โดยการเข้ามาทำตลาดห้องน้ำ วาโกะ บีเอ็มเอส จะทำให้บริษัทมี ยอดขายของบริษัท ดี.พี เติบโตขึ้น จากปีที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ประมาณ 500-600 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะทำยอดขายได้ 600-700 ล้านบาท ในขณะที่ปีหน้าคาดว่าตัวเลขจะขึ้นไปแตะที่พันล้านบาท
ด้านนายริวอิชิ นิชิดะ ประธานบริษัท วาโกะ ไซซากุโช จำกัด กล่าว่า ปัจจุบัน ห้องน้ำสำเร็จรูปของวาโกะฯมีจำหน่ายอยู่ในประเทศสิงคโปร์ และมีโรงงานผลิตอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนในประเทศไทย ปีหน้าจะเช่าโรงงานที่ชลบุรี เพื่อทำการผลิตห้องน้ำสำเร็จรูปวาโกะ บีเอ็มเอส ใช้เงินลงทุนประมาณ 100-200 ล้านเยน และจะเริ่มทำการผลิตในเดือนกรกฏาคม 2558 โดยจะมีการส่งออกไปจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซีย เป็นประเทศแรก เนื่องจากบริษัทฯวางเป้าหมายในการที่จะใช้ไทยเป็นฐานในการกระจายสินค้าในกลุ่ม AEC