นายธำรง ปัญญา สกุลวงศ์ นายกสมาคมกิตติมศักดิ์ และที่ปรึกษาสมาคมอาคารชุดไทย และประธานกรรมการ บริษัท นิรันดร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า เห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่า แต่เห็นว่าเพดานอัตราภาษีสูงสุด 2% มีความเหมาะสมแล้ว หากตั้งอัตราสูงเกินไปอาจจัดเก็บภาษีไม่ได้ตามเป้าหมาย เพราะกลุ่มที่มีที่ดินเปล่าอาจทำกิจกรรมใช้ประโยชน์ที่ดินบังหน้า เพื่อลดอัตราการเสียภาษีได้ ในด้านผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มองว่าเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากที่ดินที่ซื้อมาจะต้องนำมาพัฒนาโครงการในระยะเวลาอันสั้นอยู่แล้ว
ด้านนายพรนริศ ชวยไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินเปล่าสูงสุด 4% อาจส่งผลกระทบกับทั้งผู้ประกอบการโครงการอสังหาริมทรัพย์ และบุคคลรายย่อยที่ถือครองที่ดิน เพราะในส่วนผู้ประกอบการซื้อที่ดินบางแปลงต้องรอความเจริญเข้ามาถึง ซึ่งในระยะ 3-5 ปีที่ดิน อาจจะยังไม่มีศักยภาพที่จะพัฒนาโครงการได้ เมื่อเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจะทำให้ผู้ประกอบการมีภาระมากขึ้น
ขณะที่บุคคลถือครองที่ดินเปล่า หากจะส่งต่อให้ลูกหลานจะถูกเก็บภาษีมรดกทอดหนึ่งก่อน หลังจากนั้นหากยังไม่มีการใช้ประโยชน์ก็จะต้องเสียภาษีเพิ่มอีก
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน